ตัวกรองสัญญาณ Audioquest JitterBug
Audioquestตัวกรองสัญญาณ Audioquest JitterBug
ส่วนลด 250 บาท (10%) ถึง 03 มี.ค. 2021
มีสินค้า
โปรโมชั่น
มีสินค้า
ส่วนลด 250 บาท (10%) ถึง 03 มี.ค. 2021
จัดส่งฟรี
ส่งสินค้าถึงมือภายใน 1-3 วันทำการ
จัดส่งฟรี เมื่อซื้อขั้นต่ำ 199.-
ส่งสินค้าถึงมือภายใน 1-3 วันทำการ
รอจัดส่ง 10 - 14 วัน
สินค้าหมด
สินค้าทุกชิ้นรับประกันศูนย์
จัดส่งฟรีทั่วประเทศ เมื่อซื้อขั้นต่ำ 199.-
ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
Audioquest JitterBug USB กรองเสียงสุดมหัศจรรย์
ถ้าใครที่ต้องการอัพเกรดชุดหูฟังหรือลำโพงให้เสียงดีขึ้นไปอีกขั้น โดยไม่ต้องลงทุนยุ่งยากมากเกินไป Audioquest JitterBug คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสุดๆและง่ายมากอีกด้วย

สำหรับ Audioquest JitterBug ราคานั้นถ้าเทียบกับคุณภาพที่ได้คงต้องบอกว่าคุ้มมหาคุ้มกับราคาทีเดียว โดยเจ้า Jitterbug นั้นเป็น USB Filter หรือ ตัวกรองที่ทำหน้าที่ช่วยลด Noise หรือเสียงรบกวนต่างๆ โดยการใช้งานก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่นำเจ้า Jitterbug เสียบเข้ากับช่อง USB และนำสาย USB ในระบบเครื่องเสียงมาเชื่อมต่อ แค่เท่านี้ก็ใช้งานได้เลย ไม่ต้องลงโปรแกรมให้ยุ่งยากหรือเวาแต่อย่างใด โดยมันจะทำหน้าที่เป็นข้อต่อเพิ่มก่อนจะเสียบเข้ากับช่อง USB เท่านั้น
หลักการทำงานของ Audioquest JitterBug
ถ้าถามว่าที่มาที่ไปของ USB จิ๋วแต่แจ๋วตัวนี้นั้น ทาง Audioquest เคลมว่าโดยปกติ การทำงานของ DAC ที่เชื่อมต่อกับสายไฟ และสายสัญญาณนั้นจะมีสิ่งเล็ดรอดรบกวน ซึ่งหน้าที่ของ Audioquest Jitterbug จะทำหน้าที่เสมือน Passive Filter ที่ช่วยลดการรบกวนต่างๆเหล่านั้นนั่นเอง

เสียง
ถามง่ายๆ มันดีจริงไหม? จากที่ทางเราทดสอบกับอุปกรณ์ที่หลากหลายชนิดและกับพนักงานรีวิวที่ฟังเสียงนั้นก็ต่างตอบเป็นเสียงเดียวว่า มันทำให้เสียงดีขึ้นจริงๆ
จากการทดสอบพบว่าเมื่อใช้ Audioquest JitterBug สัมผัสแรกที่จะพบคือความสงัดของเสียงพื้นหลังที่เงียบและสงัดขึ้นกว่าเดิมแบบเห็นได้ชัดเจน คือไม่ต้องเพ่งหรือโฟกัสแต่อย่างใด ในขณะที่มิติและรายละเอียดเสียงที่จะคมชัด การไล่น้ำหนักของชิ้นดนตรีจะหรือไดนามิคนั้นให้ความรู้สึกที่ชัดเจนในเชิงรายละเอียด การดีดของกีตาร์การวางมือสามารถมองเห็นภาพได้ดีขึ้น เสียงโดยรวมให้ความกระจ่าง และสดใสมากขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งถ้าเราถอดเจ้า JitterBug ออกการฟังเพลงจะเหมือน สภาพอากาศที่มีหมอกปกคลุม นอกจากเรื่องรายละเอียดและพื้นหลัง อีกจุดที่น่าประทับใจคือความอิ่มและคมมนของปลายเสียงที่ชัดขึ้น แต่ความแหลมไม่ได้หายไปเพียงแต่มันเหมือนเด่นมากไปอีกขั้นนั่นเอง
สรุป Audioquest JitterBug เหมาะกับใคร
ถ้าให้ตอบก่อนว่ามันเหมาะกับใคร คงต้องตอบว่ามันคุ้มไหมกับราคา 2000 กว่าบาท ซึ่งจากทีสัมผัสก็ขอฟันธงเลยว่า Audioquest Jitter นั้นคุ้มมากๆ เพราะกับแค่อุปกรณ์เสริมแค่ 2000 บาท ซึ่งสามารถให้เสียงที่แตกต่างเหมือนกับอัพเกรดสายในราคาหลายพัน โดยเจ้า Jitterbug เหมาะกับคนที่ต้องการอัพเกรดเสียงที่เน้นการใช้งานง่ายๆ ไม่ต้องการลงทุนเยอะ แต่ให้ผลที่คุ้มค่า โดยเฉพาะคนที่ฟังเพลงกับลำโพงคอม หูฟังใช้งานร่วมกับคอมหรือโน๊ตบุ๊คจะให้ผลที่คุ้มค่า แบบที่ไม่น่าเชื่อว่าตัวแค่นี้ทำได้ขนาดนี้เลยหรือ แนะนำว่าคุ้มค่าแน่นอนสมแล้วที่ทาง What Hi-Fi ให้ 5 ดาวครับ