หูฟังไร้สาย CCA CX10 True Wireless

Key-Highlight

• น้ำหนักเบา สวมใส่ง่าย กระชับหู
• ท่อเสียงเข้าได้ลึกบล็อคเสียงจากภายนอกได้ดี
• ควบคุมสะดวกมากๆ ด้วยระบบสัมผัส
• ไมค์รับเสียงได้คมชัดทุกการสนทนา
• Performance Mode หมดปัญหาเรื่องดีเลย์
• ไดรเวอร์เสียงรวมมากถึง 10 ตัว

การเชื่อมต่อ

• Bluetooth 5.0

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• 1 x CCA CX10
• 1 x จุกซิลิโคน (3 ไซส์)
• 1 x สาย Micro-USB
• 1 x คู่มือการใช้งาน

รูปทรงที่ออกแบบมาให้ใส่สบายที่สุด

CCA CX10 มาพร้อมรูปทรงแบบ CIEM ที่ดูคุ้นตา ขนาดเล็กกำลังดีและน้ำหนักเบาเพียงข้างละ 5.2 กรัมเท่านั้น สวมใส่แบบ In-Ear ซึ่งก็สวมใส่ได้ง่ายไม่ต้องดันให้ลึก เพราะทำท่อเสียงออกมาได้ดีมากๆ รู้สึกได้ทันทีว่าเข้าไปลึกพอสมควร ลึกกว่าหลายๆ แบรนด์ที่เคยมีมา ซึ่งข้อดีก็คือช่วยบล็อคเสียงจากภายนอกเข้ามาได้พอสมควรเลยทีเดียว อีกทั้งยังทำให้รับเสียงจากท่อเสียงได้เต็มๆ ไม่เสียคุณภาพเสียงไปอีกด้วย ส่วนวัสดุเป็นพลาสติกขึ้นรูปด้านหน้ามีโลโก้ CCA ข้างใต้เป็นไฟ LED สำหรับแสดงผลสถานะ (จุดสีแดง/น้ำเงิน) ด้านบนมีตัวอักษรบอกข้าง L/R, ชื่อรุ่น CX10 และจำนวนไดรเวอร์ที่มีในข้างนั้นๆ (1xDD และ 4xBA)

ควบคุมได้สะดวก เชื่อมต่อได้เสถียร

ส่วนด้านหน้าบริเวณโลโก้ทำหน้าที่รับการควบคุมด้วยระบบสัมผัส ควบคุมได้ง่ายดาย เช่น เล่นเพลง-หยุดเพลง /รับ-วางสายเป็นต้น สำหรับการเชื่อมต่อนั้นเป็น Bluetooth 5.0 ที่ทาง CCA เคลมเอาไว้ว่าให้ระยะที่ไกลถึง 20 เมตรโดยไม่มีอะไรกั้น และเชื่อมต่อได้ง่ายมากๆครั้งแรกเพียงเปิดฝา หยิบออกจากเคส ตัวหูฟังจะเข้าโหมด Pairing โดยอัตโนมัติ จากนั้นจึงกดเชื่อมต่อที่ Smartphone ก็เป็นอันเชื่อมต่อสำเร็จ ส่วนการเชื่อมต่อกับเครื่องอื่นๆ เพียงแตะที่หูฟังข้างซ้ายและขวาค้างไว้ 7 วินาทีขณะที่หูฟังปิดอยู่ ตัวหูฟังก็จะเข้าโหมด Paring หากหูฟังเปิดอยู่ก็แตะที่ข้างซ้ายและขวาพร้อมกันค้างไว้เป็นเวลา 5 วินาทีเพื่อปิด

ดูคลิปและเล่นเกมไม่ดีเลย์ด้วยโหมดพิเศษ

ตัวหูฟังมีโหมดพิเศษที่เรียกว่า High Perfomance Mode ที่เมื่อเปิดใช้จะใช้พลังงานมากขึ้น แต่ก็จะลดเรื่องความหน่วงในการเชื่อมต่อลง ตอบโจทย์สำหรับการดู YouTube, Netflix โดยโหมด Standard จะมีอาการดีเลย์เล็กน้อยเพี้ยงเสี้ยววินาทีเท่านั้น (0.1 วินาที) ถ้าไม่ตั้งใจมองอาจจะไม่รู้สึก แต่หากเปิด High Perfomance Mode ก็จะไม่มีอการดีเลย์เลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนการเล่นเกมเป็นเรื่องปกติของหูฟัง True Wireless ที่จะมีดีเลย์ราวๆ 0.2 วินาที แต่หากเปิด High Perfomance Mode ดีเลย์จะลดลงมาเหลือราวๆ 0.1 วินาทีเท่านั้น

ไมโครโฟนชัด แบตเตอรี่อยู่ได้ยาวๆ

สำหรับไมโครโฟนที่ด้านข้างหูฟังทั้ง 2 ข้างจะมีช่องไมค์สำหรับรับเสียงสนทนาที่สามารถตัดเสียงแทรกได้ดีทีเดียว และรับเสียงได้คมชัดพอสมควร ใช้สนทนาในออฟฟิศที่มีคนพลุกพล่าน หรือใช้คุยริมถนนก็ยังได้ สำหรับแบตเตอรี่นั้นสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 3 ชั่วโมง ส่วนในเคสชาร์จนั้นสามารถชาร์จเพิ่มได้อีกราวๆ 10 ครั้งรวมๆ แล้วอยู่ได้ราวๆ 30 ชั่วโมง ตัวเคสยังมาพร้อมพอร์ทชาร์จ Micro-USB ที่เป้นที่นิยมในตลาดอีกด้วย เรียกได้ว่าพกพาไปได้ทุกที่สบายๆ