8 หนังเสียงระดับเทพ

24 เม.ย. 2560

8 หนังเสียงระดับเทพ

เคยลองคิดหรือไม่...ว่าการที่เราใช้โทรทัศน์คุณภาพดี ควบคู่กับลำโพงคุณภาพเด่นนั้น อะไรที่จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เรารู้ว่าอุปกรณ์ของเราไม่ว่าจะทั้งภาพและเสียงนั้นดีจริง คุ้มกับราคาและเงินตราที่เสียไป? วันนี้ทาง Mercular.com จึงได้โอกาสนำ ตัวแปร นั้น ซึ่งได้แก่ 8 ภาพยนตร์ ที่จะทำให้คุณพูดได้อย่างเต็มปากว่า ชุดเครื่องเสียงของคุณนั้น เจ๋งจริง ไม่ใช่แค่ราคาคุย!

Mad Max: Fury Road

เปิดด้วยหนังแอคชั่น บู๊ระห่ำ ความยาว 2 ชั่วโมง กับ Mad Max ซึ่งเป็นอีกหนุ่งภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัล “Best Sound Editing and Best Sound Mixing” ในงาน Academy Award ปี 2016 จัดเต็มทั้งภาพและเสียง จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ทำให้ชุดเครื่องเสียงของคุณอิ่มเอมก็คือฉากบู๊แหลกของพระเอกกับบรรดาวอร์สบอย ซึ่งตรงนี้ต้องบอกเลยว่าฉากไล่ล่านั้น หากลำโพงดีจริง คุณต้องอินกับเสียงเครื่องยนต์หนักแน่นอย่างแน่นอน รวมไปถึงการแยกทิศทางของเสียงที่มาอีกด้วย

TRON: Legacy

ถัดมาเป็นหนังแอคชั่น ไซไฟ อย่าง TRON สำหรับเรื่องนี้แค่เพียงเพลงประกอบภาพยนตร์ก็จะทำให้เรื่องนี้ ต้องมาอยู่ในลิสต์นี้ โดยเพลงประกอบจาก Skywalker ก็เพียงพอต่อการได้รับรางวัล Best Sound Editing จาก Academy Award ปี 2010 แล้ว ในส่วนของภาพยนตร์เองก็ทำได้ดีไม่แพ้เสียงเลยทั้งภาพและเสียงเอฟเฟคต่างๆ ทำให้ TRON: Legacy เป็นภาพยนตร์ที่ควรมีติดบ้านไว้อวดลำโพงจริงๆครับ (ตรงนี้เสียงเอฟเฟคแบบอิเล็กทรอนิกส์มาเต็มมาก)

WALL-E

เป็นผลงานที่น่าประทับใจทั้งภาพและเสียง ได้ Ben Burtt ซึ่งเคยทำ Star Wars, Indiana Jones และ E.T. โดยเจ้าตัวได้อธิบายว่า ผมสร้างสรรค์เสียงขึ้นมาใหม่เพื่อ WALL-E ซึ่งมากกว่าหนังเรื่องอื่นๆ ที่เคยทำเขาสร้างเพลงเฉพาะสำหรับทุกๆการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ตัวน้อยในภาพยนตร์ Wall-E เลยทีเดียว ดังนั้นจะเห็นได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้ลำโพงสามารถเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆตรงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ถ้าหากเจ๋งจริงละก็นะ!)

American Sniper

อีกเรื่องที่ได้รับรางวัล Best Sound Editing จาก Academy Award จุดเด่นคือ American Sniper ไม่เหมือนกับหนังสงครามหลายๆเรื่อง ด้วยเสียงที่มีความสมจริงเฉพาะตัว ทำให้ผู้ชมเข้าใจอารมณ์การต่อสู้ ความตรึงเครียดของสถานการณ์ รวมไปถึงอารมณ์ของนักแสดงที่สื่อออกมา อีกข้อสังเกตหนึ่งคือเรื่องทิศทางของเสียงครับ อารมณ์ว่าสไนเปอร์ยิงจากซ้ายไปขวา ตัวเสียงที่ออกจากลำโพงก็จะให้อารมณ์จากซ้ายไปขวา ประหนึ่งผู้ชมอยู่ในสถานที่นั้นเลยละครับ

Inception

ใครจะเชื่อว่าภาพยนตร์แนวดราม่าอย่าง Inception ก็สามารถมาอยู่ในลิสต์นี้ได้ สาเหตุหลักอยู่ที่ การลำดับเสียงของเรื่อง ประกอบกับการใช้ดนตรีของ BRAAAM ทำให้เสียงกลับเข้ามามีบทบาสำคัญอย่างยิ่ง หากคิดว่าการลำดับภาพของ Inception ทำให้ภาพยนตร์สนุกแล้วละก็ การลำดับเสียงเองก็ช่วยเพิ่มอรรถรสให้การชมเช่นกัน เช่นนั้นแล้วคุณก็แค่เพิ่มเสียงและตั้งใจฟังอย่างใกล้ชิดก็พอ...

The Dark Knight

เป็นอีกเรื่องที่ได้รับรางวัล Best Sound Editing จาก Academy Award จุดเด่นที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัล คือเรื่องของการผสมเสียงสัตว์คำรามกับเสียงเครื่องยนต์เข้าด้วยกัน ทำให้ The Dark Knight ได้ดนตรีที่ แปลกและใหม่ ซึ่งรับรองได้เลยว่าหากได้ลำโพงคุณภาพดี เสียงเหล่านี้จะทำให้คุณชมภาพยนตร์เปลี่ยนไปเลยทีเดียว (จะได้สมกับที่บรูซ เวย์น แต่งเครื่องยนต์มาซะหน่อย)

Saving Private Ryan

หลายๆคนคงเคยได้เสียงเรื่องราวของพลทหารไรอัน (อารมณ์ประมาณว่ายกคนไปทั้งหมู่เพื่อช่วยคนๆเดียว) โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัล Best Sound and Best Sound Effect Editing จาก Academy Award และ Outstanding Achievement in Sound Mixing รวมถึง Golden Reel Award for Best Sound Editing ในปี 1999 จาก C.A.S Award ซึ่งในเรื่องเสียงและดนตรีทำให้ผู้ชมเหมือนอยู่ในสงคราม เช่นเดียวกับ American Sniper ทั้งๆที่ภาพยนตร์ค่อนข้างเก่าเลยทีเดียว จุดที่น่าสนใจสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้คือถ้าลำโพงที่มีเสียงหนักแน่นหน่อย จังหวะระเบิดรถถังจะให้ความสมจริงมาก รวมถึงวิถีกระสุนที่ถูกยิงออกมาจากรถถัง ซึ่งถ้ามองว่าเป็นภาพยนตร์สมัยก่อน ถือว่าทำซาวด์ได้เยี่ยมเลยทีเดียวครับ

Gravity

ใครจะไปคิดด!! ว่า Gravity จะอยู่ในลิสต์ภาพยนตร์ที่จะเค้นศักยภาพลำโพงเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมาก เช่นเดียวกับหนังซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนอกโลก ในอวกาศ โดยดนตรีนั้นถูกสร้างสรรค์โดย Dolby Atmos จน Sandra Bullock ต้องอยู่ในอวกาศ ซึ่งเพลงก็จะถูกใช้ตามบทของเธอ เวลาอยู่ในหน้ากากก็จะไม่มีเสียง เพื่อทำให้ฉากนั้นสมจริง เนื่องจากเสียงไม่สามารถเข้าไปในหน้ากากได้ ยกเว้นการสั่นสะเทือน ข้อสังเกตคือ ความเงียบสงัด นี้เองจะทำให้ลำโพงเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันความเงียบก็บอกอะไรได้หลายๆอย่าง หากมีคลื่นรบกวนเล็กน้อยละก็แนะนำให้ใช้ตัวกรองสัญญาณอย่าง JitterBug เข้ามาช่วยครับ ตรงนี้จะช่วยให้เสียงที่ออกมาคลีนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว

จบกันไปแล้วนะครับ สำหรับภาพยนตร์ทั้ง 8 เรื่องที่ทางเราได้นำมาเสนอกันในบทความนี้ สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือโทรทัศน์คุณภาพดีและลำโพงดูหนังคุณภาพแจ่ม ยิ่งถ้ามีลำโพง Soundbar วางไว้ด้านหน้าที่วีด้วย บอกเลยว่าประสบการณ์ดูหนังที่บ้านนี่จะเปลี่ยนไปจริงๆครับ แต่ถ้าดูในคอมพิวเตอร์ต้องเลือกลำโพงคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมนะครับ และสำหรับใครที่มีภาพยนตร์เรื่องอื่นที่น่าสนใจ อารมณ์แบบว่าดูแล้วใช้อวดลำโพงได้ก็แอบกระซิบมาหาเราหลังไมค์ได้นะครับ จะได้แอบไปหาซื้อมาไว้ติดบ้าน ชวนสาวๆมาดูอะไรงี้! ฮ่าๆๆ สุดท้ายนี้ถ้าหากชอบอย่าลืมกดแชร์บทความไปให้เพื่อนๆอ่านกันนะครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2