ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ กับการเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่ของ Apple event 2022 “Peek Performance” รอบแรกของปี ภายในงานเป็นการจัดในรูปแบบของออนไลน์เหมือนเช่นเคย เนื่องจากผลของสถานการณ์จากโควิด-19 แต่ก็ไม่ได้ทำให้กระแสลดลงแม้แต่น้อย โดย Apple จะสตรีมผ่านวิดีโอผ่านช่องทางเว็บไซต์ apple.com และ YouTube โดย Mark Gurman ยังได้กล่าวภายในงานว่า ในปี 2022 นี้ Apple จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลย นอกจากเดือนมีนาคม 2022 นี้เรายังต้องมาลุ้นกันต่อว่า Apple event 2022 กลางปีและปลายปีจะปังขนาดไหนกัน ซึ่งได้เปิดตัวสินค้าหลากหลายทั้ง iPhone SE 3, iPad Air รุ่นที่ 5, Mac mini รุ่นใหม่ รวมไปถึงการเผยสีสันใหม่ iPhone 13 และ iPhone 13 Pro อย่าง สีเขียวอัลไพน์ แล สีเขียว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ที่บอกเลยว่าต้องทำให้เหล่าสาวก Apple ทั้งหลาย เตรียมตัวเตรียมใจกระเป๋าเงินสั่นกันแน่นอน แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกันเลยครับ

iPhone 13

Apple event 2022 รอบนี้ เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวสีใหม่ของ iPhone 13 “เขียวเหนี่ยวทรัพย์” สีเสริมความเฮงอย่าง สีเขียวอัลไพน์ และสีเขียว สำหรับ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 กลุ่ม iPhone 13 ซีรีส์ โดย Bob Borchers รองประธานฝ่าย Worldwide Product Marketing ของ Apple ได้กล่าวว่า อยากให้มีสีสีสันใหม่ๆ เพื่อที่จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้ลูกค้าได้เลือกซื้อกัน โดยดีไซน์ก็ยังมีขนาดเท่าเดิม ส่วนเรื่องฟีเจอร์อย่างชิป A15 Bioni ก็ยังใส่มาเหมือนเดิม ที่จะช่วยประมวลผลการทำงานร่วมกันกับ iOS 15 ได้มีประสิทธิภาพ จอภาพ Super Retina XDR ระบบกล้องที่ดีที่สุดให้สีสันสดใส เพื่อให้การภาพถ่าย และวิดีโอสมบูรณ์แบบที่สุด การใช้งานแบตเตอรี่ที่อึดขึ้น ยาวนานขึ้นสำหรับการใช้งานต่างๆ ในชีวิตประจำวัน รองรับ 5G ที่รวดเร็ว และอีกมากมายก็ยังคงดีเหมือนเดิม ที่จะเปิดให้จองกันแล้ว 9 โมงเช้านี้ในวันศุกร์ที่ 13 มีนาคมนี้ 2022

iPhone SE 3 (5G)

เปลี่ยนแล้วสินะ!! iPhone SE (2022) ที่รุ่นแรกเปิดตัวไปเมื่อมีนาคม ปี 2016 และ iPhone SE 2 เปิดตัวไปเมื่อปี 2020 โดยที่ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ผู้มีความเชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ Appleเผยว่า Apple กำลังพัฒนา iPhone SE ให้มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ที่ดีไซน์ที่แทบจะเหมือนกับ iPhone XR ภายในปีหน้า 2023 สำหรับไอเดีย iPhone SE (2022) คือ การเลือกเอาโครงสร้างเดิมของดีไซน์เครื่องเก่ามาใช้ แต่แค่เปลี่ยนชิปภายใหม่ ที่มาพร้อมขนาดหน้าจอ 4.7นิ้ว มีสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home จุดเด่นที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้น การเลือกใช้ชิปประมวลผลใหม่อย่าง A15 ความเร็วที่แรงขึ้น สีสันเครื่องที่น่าใช้ให้เลือกซื้อกัน Midnight, Starlight และ Product Red ส่วนฟีเจอร์ก็ยังมาพร้อมกับระบบ Touch ID แถมยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G นอกจากนี้การใช้งานนานขึ้นด้วยแบตเตอรี่ที่อึดขึ้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในราคาที่ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย สำหรับคนที่อยากเป็นเจ้าของเครื่องไอโฟนในราคาที่ไม่สูงมากครับ สำหรับ iPhone SE จะเปิดตัววันที่ 8 มีนาคม 2022

ราคา iPhone SE 5G ในประเทศไทย

• 64GB = 15,900 บาท
• 128GB = 17,900 บาท
• 256GB = 21,900 บาท

iPad Air Gen 5

Mac Otakara สื่อผลิตภัณฑ์ของ Apple จากประเทศญี่ปุ่น ระบุว่าสเปคภายในงานของ iPad Air Gen 5 จะคล้ายคลึงกับ iPad mini 6 โดยเลือกใช้ชิป Apple M1 มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพดีขึ้น 60% ทั้งยังรองรับ 5G ส่วนกล้องหน้าจะมีการอัปเกรดเป็นเลนส์แบบ Ultra-Wide มาพร้อมความละเอียด 12 ล้านพิกเซล Ultra Wide นอกจากนี้มาพร้อมกับการเชื่อมต่อ USB-C ได้เร็วขึ้น 2 เท่า มาพร้อมกับ iPad OS เวอร์ชั่นใหม่ ที่น่าใช้งานทั้ง Application iMovie เวอร์ชั่นใหม่ที่จะทำให้การใช้งานสมบูรณ์แบบขึ้นไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อ หรือการทำงานในระบบต่างๆ นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์ Center Stage ได้ ในส่วนของราคาเครื่องเริ่มต้นที่ 599 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 19,xxx บาท ถือว่าราคากำลังน่ารัก หลังงาน Apple event 2022 เว็บไซต์ Apple ก็ประกาศเลยว่าจะะเริ่มวางจำหน่าย 18 มีนาคม นี้ในต่างประเทศ และในไทยก็รอสั่งจองกันได้เลยเร็วๆนี้ พุ่งตัวไปกันเล้ยยย

ราคา iPad Air Gen 5 ในประเทศไทย

Wi-Fi

• 64GB = 20,900 บาท
• 256GB = 25,900 บาท 

Wi-Fi + Cellular

• 64GB = 25,900 บาท
• 256GB = 30,900 บาท

Apple Silicon M1 Ultra

ที่สุดในงาน Apple event 2022 รอบนี้ ต้องนี่เลย เปิดตัวชิปใหม่ในตระกูล Apple Silicon กับ "M1 Ultra" สุดยอดขุมพลังใหม่ล่าสุด! มีให้เลือกใช้ใน Mac Studio โดย Johny Srouji รองประธานอาวุโสฝ่ายเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ของ Apple กล่าวไว้ว่า ชิป M1 Ultra เข้ามาเติมเต็มผลิตภัณฑ์ตระกูล M1 ในฐานะของชิปที่ทรงพลัง และที่มีความสามารถมากสุดในโลก สำหรับคอมพิวเตอร์ ที่เป็นการขยายความสามารถชิปในตระกูล M1 ที่เป็นการนำ M1 Max 2 ตัว ต่อเข้าด้วยกันด้วยเทคโนโลยี UltraFusion ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้ทำงานร่วมกัน เชื่อมต่อชิปเข้าด้วยกันผ่านสัญญาณมากกว่า 10,000 จุด เพื่อที่ว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดทั้งยังมี Core สูงสุด 20 Core แบ่งเป็น 16 high-performance core CPU และ 4 high-efficiency core CPU และยังมี 64-core GPU ในตัวที่มีขนาดใหญ่สุดถึง 128GB ช่วยให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ระดับ 2.0Gb/s และใช้ไฟจาก Power Supply 200W ช่วยประหยัดพลังงานไปได้มาก เรียกได้ว่าเป็นขุนทรัพย์พลังที่เกินต้านที่มีประสิทธิภาพ และช่วยประหยัดพลังงาน ที่ไม่เคยมีมาก่อน

Mac Studio

สำหรับ Mac Studio และ Studio Display คู่หูที่สมบูรณ์แบบที่ใช้งานร่วมกับ Mac ทุกรุ่นได้อย่างลงตัว มีทั้งจอภาพ Retina 5K ขนาดใหญ่ 27 นิ้ว กล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP พร้อมระบบเสียง 6 ลำโพงที่คมชัด ซึ่งเมื่อนำ Mac Studio และ Studio Display มาใช้งานร่วมกัน จะแข็งแกร่ง และทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Apple ในกลุ่มของ ผลิตภัณฑ์ตระกูล Mac เลยก็ว่าได้ เริ่มต้นที่ Mac Studio ในดีไซน์ที่ล้ำสมัยไม่เหมือนใคร ทรงแบบเดียวกับ Mac Mini แต่มีขนาดที่สูงกว่า และหนากว่า ออกแบบให้รองรับการใช้งานได้อย่างประสิทธิภาพสูง ตัวเครื่อง Mac Studio สร้างจากอะลูมิเนียมรูปเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 19.7 ซม. และสูงเพียง 9.5 ซม. จึงทำให้กินพื้นที่ใช้งานน้อยมาก Mac Studio มาพร้อมด้วยขุมพลังอย่างชิป M1 Max และ M1 Ultra ชิปทรงพลังใหม่ล่าสุด มีชิปให้เลือก 2 แบบ คือ M1 Max และ M1 Ultra นอกจากนี้มีระบบควบคุมความร้อน ประกอบด้วยตัวเป่าลม 4,000 รูสองด้านช่องอากาศไหลเวียน และมาพร้อมกับช่องเสียบครบไม่ว่าจะเป็น Thunder Bolt 4 ช่อง, USB-C, RJ45 LAN, HDMI, USB-A, ช่องเสียบหูฟัง และ มีช่องเสียบ Card Reader ประสิทธิภาพ Mac Studio มาพร้อมมีเดียทรงพลัง สามารถเล่นวิดีโอ ProRes 422 ระดับ 8K ได้ถึง 18 สตรีมพร้อมกัน เรียกได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่ไม่เคยมีคอมพิวเตอร์เครื่องไหนทำออกมาก่อนในโลกนี้

สำหรับราคา Mac Studio ประเทศไทย

• Mac Studio ขุมพลัง M1 Max = 69,900 บาท
• Mac Studio ขุมพลัง M1 Ultra = 139,900 บาท

Studio Display

ตัวเครื่องมาในรูปแบบกล่องเหมือนกับ Mac mini แต่จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า ตัวฐานเครื่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 7.7 x 7.7 นิ้ว และความสูง 3.7 นิ้ว ช่องเสียบมี Thunderbolt 4 ให้ 1 ช่อง รองรับการจ่ายไฟ 96W และ USB-C ที่ต่อหน้าจอพร้อมกัน 5 หน้าจอพร้อมกัน และ รองรับฟีเจอร์ Spatial Audio Mac Studio มาพร้อมด้วยขุมพลังอย่างชิป M1 Max และ M1 Ultra ชิปทรงพลังใหม่ล่าสุด มีชิปให้เลือก 2 แบบ คือ M1 Max และ M1 Ultra พร้อมพื้นที่เก็บข้อมูล Mac Studio แบบ SSD จะมีความเร็วสูงสุด 7.4GB/s สูงสุดถึง 8TB โดยประสิทธิภาพของ M1 Ultra สามารถเล่น 8K ProRes 422 มากสุดถึง 18 สามารถที่จะสตรีมพร้อมกัน ในส่วนของ M1 Max มี Unified Shared Memory 64GB และ M1 Ultra 128GB ทำให้การส่งข้อมูลเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนภายในมีระบบระบายความร้อนด้านในตัวที่เป็นการทำงานเงียบมากจนน่าตกใจ

สำหรับราคา Studio Display ประเทศไทย

• อยู่ที่ประมาณ 54,900 บาท