คุ้มจริงไหม? หูฟังเกมมิ่ง ถูกVSแพง

6 ส.ค. 2561

คุ้มจริงไหม? หูฟังเกมมิ่ง ถูกVSแพง

ในปัจจุบันกีฬาอีสปอร์ตได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ซึ่งก็ส่งผลดีต่อวงการเกมในวงกว้าง ทำให้ตลาดการซื้อขายอุปกรณ์เล่นเกม หรือ เกมมิ่งเกียร์ได้รับความนิยมขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหูฟังเกมมิ่ง ที่เปรียบเสมือนอวัยวะหนึ่งของร่างการที่ขาดไม่ได้ เพราะทุกการเล่นเกม เสียง คือสิ่งสำคัญที่ช่วยชี้เป็นชี้ตาย ทำให้เราชนะนั่นเอง ในขณะเดียวกันก็มีคำถามมากมายว่าจำเป็นต้องใช้หูฟังเล่นเกมราคาแพงๆหรือไม่ แล้วหูฟังเกมมิ่งถูกกับแพงต่างกันตรงไหน บทความนี้ Mercular.com จะไขความแตกต่างให้กระจ่างเองครับ มาติดตามกันเลย

วัสดุ ดีไซน์ ความสบายในการสวมใส่

ลำดับแรกเราจะมาพูดถึงลักษณะภายนอก ที่สามารถจับต้องได้ อย่างวัสดุของหูฟังเกมมิ่งกันก่อน ส่วนใหญ่ตามท้องตลาดหูฟังสำหรับเล่นเกมที่มีราคาถูก มักจะใช้วัสดุที่เป็นพลาสติก มีน้ำหนักเบา ส่วนหนังที่บุอยู่บริเวณ Head Band จะเป็นหนังเทียมที่มีฟองน้ำอยู่ด้านใน ช้อดีของหูฟังแบบนี้คือมีน้ำหนักเบา แต่จะไร้ซึ่งความสบายในการสวมใส่ รวมถึงความคงทนน้อยด้วยนั่นเอง ในขณะเดียวกันถ้าเป็นหูฟังราคาแพง ในส่วนของงานประกอบและการเลือกใช้วัสดุมักมีความปราณีตมากกว่า โดยโครงสร้างหลักจะใช้วัสดุที่เป็นอะลูมิเนียม ประกอบกับพลาสติกบางส่วน เพื่อยังคงน้ำหนักที่เบาอยู่ ส่วน Head Band มักจะใช้หนังแท้ หรือ ฟองน้ำชนิดพิเศษที่มีความนุ่ม ใส่สบาย และสามารถระบายความร้อนได้มากกว่า เหมาะสำหรับการเล่นเกมต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานนั่นเอง

คุณภาพเสียงขณะใช้งาน

หากพูดถึงเสียง แน่นอนว่าองค์ประกอบสำคัญจะอยู่ที่ไดรเวอร์หูฟัง และกำลังขับเป็นหลัก ข้อแตกต่างที่สังเกตได้ชัดเจนจะเป็นเรื่องของรายละเอียดเสียงเล็กๆน้อย โดยจะเห็นชัดเจนในการเล่นเกมแนว FPS หรือ First-Person Shooting อย่าง CSGO หรือ PUBG หากเรายืนอยู่ในจุดเดียวกับเพื่อน แล้วมีเสียงเข้ามาใกล้ๆ ขณะที่เพื่อนได้ยิน เรากลับไม่ได้ยิน นี่เป็นผลจากการที่หูฟังเก็บรายละเอียดไม่ครบ หรือเกิดข้อจำกัดบางอย่างที่ทำให้เราไม่ได้ยินนั่นเอง อีกกรณีหนึ่งที่ Pro-Player ส่วนใหญ่นิยมใช้กันก็คือการฟังเสียง จังหวะที่ฝั่งตรงข้าม Reload กระสุน ซึ่งต้องใช้หูฟังที่เก็บรายละเอียดดีๆเข้ามาช่วย แต่กรณีหูฟังราคาถูกทางแก้ส่วนใหญ่ที่เกมเมอร์มักใช้กันคือหาการ์ดเสียง (Sound Card) เข้ามาช่วยขยายสัญญาณ เพิ่มกำลังขับ เพื่อดึงศักยภาพหูฟังตัวนั้นออกมา ซึ่งสุดท้ายแล้วราคารวมๆกันก็ จะได้หูฟังราคาแพงที่ครบเครื่องกว่า และสามารถต่อยอดได้อีกไกลนั่นเอง โดยส่วนใหญ่หูฟังราคาแพงมักมีตัวแปลงสัญญาณในตัว (DAC) ทำให้รายละเอียดที่ออกมาดีขึ้น หรือใช้ไดรเวอร์ที่มีคุณภาพกว่า สามารถให้เสียงโอบล้อม และมีความสมจริงมากขึ้น

คุณภาพเสียงจากไมโครโฟน

อีกหนึ่งเสียงที่เราไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือ เสียงพูด จากไมโครโฟนของเรา ซึ่งเจ้าชนิดของไมโครโฟนที่หูฟังราคาถูกและราคาแพงเลือกใช้ก็แตกต่างกันมาก หากเราลองหยิบหูฟังมาทดสอบไมค์ดูจะพบว่าหูฟังที่มีราคาถูกจะมีการรับเสียงที่ไม่ค่อยชัดเจน มีเสียงอื่นๆเข้ามาแทรกเยอะ แล้วที่เป็นปัญหาสุดๆเลยก็คือเสียงกดคีย์บอร์ด และเสียงหายใจของเรานั่นแหละที่จะเข้าไปสร้างความรำคาญให้กับเพื่อนๆ ในขณะที่หูฟังราคาแพง เลือกใช้โมค์ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้ และเจาะจงรับเสียงพูดของเราเท่านั้น ทำให้การสื่อสารภายในทีม ราบรื่น ไม่สะดุดหรือสร้างความระคายเคืองให้กับหูเพื่อนในทีมครับ

ฟังก์ชั่นพิเศษ และการปรับแต่งเพิ่มเติม

ปิดท้ายที่ฟังก์ชั่นพิเศษที่เสริมเข้ามาไม่ว่าจะเป็นไฟ RGB  ที่มีลูกเล่นเยอะ สามารถเปลี่ยนสีได้ 16 ล้านสี หรือโปรแกรมปรับแต่งเสียง ที่สามารถปรับแต่งเสียงและเก็บเป็น Profile ไว้สำหรับเล่นเกมต่างๆ เช่นเกมแนว FPS ก็จะมีลักษณะการเล่นที่แตกต่างกัน อย่าง CSGO หรือ PUBG แน่นอนว่าการตั้งค่าย่อมไม่เหมือนกันนั่นเอง ซึ่งตรงจุดนี้ทั้งหูฟังเล่นเกมราคาถูกและราคาแพง อาจไม่แตกต่างกันมากนัก ดังนั้นให้เราโฟกัสไปที่วัสดุ ดีไซน์ การสวมใส่และเรื่องคุณภาพเสียงเป็นหลักดีกว่า น่าจะเห็นความชัดเจนระหว่างหูฟังเกมมิ่งราคาถูกกับแพงได้มากกว่า

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับความแตกต่างระหว่างหูฟังเกมมิ่งถูกและแพง ซึ่งในบางประเด็นอาจมีความคลุมเครือเล็กน้อย เนื่องจากแบรนด์ดังยอดนิยม มักจะมีไลน์สินค้าที่ครอบคลุมทุกช่วงราคา ดังนั้นแบรนด์จะค่อนข้างใส่ใจเรื่องคุณภาพและ QC เป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเป็น Low-brand หูฟังจากจีนที่มี QC ค่อนข้างต่ำต้องระวังเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี การเลือกหูฟังเล่นเกมถูกหรือแพง สามารถใช้ความแตกต่างข้างต้นประกอบการตัดสินใจได้ ถ้าถามว่าเลือกถูกหรือแพง แบบไหน...จะคุ้มค่ากว่ากัน อันนี้ต้องบอกตามตรงว่าถ้าเล่นจริงจัง เล่นบ่อย การซื้อหูฟังแพงย่อมใช้แล้วคุ้มกว่า เพราะหูฟังมีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน เรียกได้ว่าตัวเดียวจบ ตอบโจทย์มากกว่า และสิ่งสุดท้าย อย่าลืมเช็คเรื่องระยะเวลาประกัน และการส่งเคลม ในกรณีที่สินค้าชำรุดหรือมีปัญหานั่นเองครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2