มินิรีวิว หูฟังไร้สาย FiiO EH3 NC

5 ส.ค. 2562

มินิรีวิว หูฟังไร้สาย FiiO EH3 NC

หูฟังตัดเสียงไร้สายตัวแรกจาก FiiO

สำหรับแบรนด์ FiiO เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยการที่เป็นแบรนด์ที่เน้นในเรื่องของสินค้าเกี่ยวกับการฟังเพลง มีให้เลือกหลายหมวดไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ DAC-Amp ที่มีสินค้าให้เลือกหลายรุ่นจริง ๆ ทั้งแดคแอมป์แบบตั้งโต๊ะ หรือแบบพกพา รวมไปถึงแบบไร้สายก็มีให้เลือกกันตามการใช้งาน นอกจากนั้นยังมีในหมวดของสินค้าประเภท เครื่องเล่นเพลง Digital Music Player หรือที่มักจะเรียกกันสั้น ๆ ในวงการว่า DAP นั่นเอง ที่ก็มีให้เลือกตั้งแต่รุ่นเบสิคไปจนถึงรุ่น Hi-Res สำหรับคอเสียงคุณภาพสูงให้เลือกตามที่ชื่นชอบและที่สำคัญยังมาพร้อมราคาที่น่าคบหามาก ๆ อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีในส่วนของสินค้าหมวด หูฟัง FiiO ที่ก็มีให้เลือกหลากหลายรุ่นแบบ หูฟัง In-Ear แบบธรรมดาไปจนถึงระดับ Pro ก็มีให้เลือกด้วยเช่นกัน และล่าสุดกับการเปิดหมวดใหม่ของสินค้าจากทางแบรนด์ด้วยความที่ปัจจุบันต้องบอกเลยว่าเทคโนโลยีของสินค้าประเภท หูฟังตัดเสียง Active Noise Cancellation แบบไร้สายที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาด ทาง FiiO จึงไม่รอช้าปล่อยสินค้าในหมวดนี้เป็นตัวแรกของแบรนด์ในรุ่น FiiO EH3 NC นั่นเอง ซึ่งต้องบอกเลยว่ามาพร้อมความสามารถที่อัดแน่นไม่แพ้แบรนด์ใหญ่ ๆ ในตลาดอย่างแน่นอน

มินิรีวิว หูฟังไร้สาย FiiO EH3 NC ราคา

แบรนด์ FiiO บอกเลยคุ้มค่าแน่นอน

หูฟังตัดเสียงไร้สาย FiiO EH3 NC เป็นสินค้าในหมวดของ หูฟังครอบหู Over-Ear มาพร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth Version 5.0 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีข้อดีตรงที่ให้สัญญาณที่คมชัด มีความเสถียร และที่สำคัญยังประหยัดพลังงานอีกด้วย สามารถส่งสัญญาณเสียงไร้สายคุณภาพสูงได้ด้วยการรองรับ Codec ไร้สายขั้นสูงแทบทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น AAC, SBC, aptX, aptX HD, LDAC, LHDC (HWA) และนอกจากนั้นยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายที่ง่ายดายสุด ๆ เพียงแค่แตะเดียวอย่าง NFC อีกด้วย ส่วนของเสปคภายในนั้นสามารถขับเสียงได้เต็มคุณภาพสุด ๆ ด้วยไดร์เวอร์ภายในแบบ Titanium-Plated Dynamic Driver ขนาดใหญ่ถึง 45 มิลลิเมตรที่ต้องบอกเลยว่าขับเสียงได้ดังกระหึ่มครบทุกย่านอย่างแน่นอน

มินิรีวิว หูฟังไร้สาย FiiO EH3 NC ซื้อ ขาย

พร้อมฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวนที่ไม่แพ้แบรนด์ใหญ่ ๆ

ตัวสินค้ายังมาพร้อมความสามารถในการตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation ANC ที่ทำงานร่วมกับระบบพิเศษ FeedForward (FF) และ FeedBack (FB) แบบ Hybrid ทำให้ตัดเสียงได้อย่างเงียบกริบไร้เสียงรบกวนมากวนใจอย่างแน่นอน นอกจากนั้นยังรองรับการเชื่อมต่อสายแบบ Output ผ่าน USB Output อีกด้วย รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อแบบมีสายผ่าน AUX/3.5 mm. สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเชื่อมต่อแบบมีสาย เรียกได้ว่าครบครันจริง ๆ  นอกจากนั้นยังมาพร้อมแบตเตอรี่ในตัว ใช้งานไร้สายได้ต่อเนื่องยาวถึง 40 ชั่วโมงและเปิดโหมด Standby ได้ยาวนานถึง 1000 ชั่วโมงเลยทีเดียว ต้องบอกเลยว่าน่าสนใจแบบสุด ๆ

โดยในตอนนี้สินค้ายังไม่เข้าไทย เปิดตัวที่ราคาราว ๆ $200-250 ซึ่งถ้าหากเข้ามาจัดจำหน่ายที่ไทยเมื่อไหร่ทาง Mercular.com จะรีบนำมาจำหน่ายและรีวิวให้รับชมกันอย่างแน่นอน สวัสดีครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2