เหนือกว่ารุ่น M11 กับ รุ่น M11 Pro

พูดถึงแบรนด์ FiiO ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นแบรนด์เกี่ยวกับเครื่องอุปกรณ์เกี่ยวกับการฟังเพลงที่ต้องบอกเลยว่าได้รับความนิยมแบบสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นหมวดของ หูฟัง In-Ear ระดับ Hi-Res In-Ear Monitor หรือจะเป็นสินค้าในหมวด DAC-Amp ก็ได้รับความสนใจอย่างมากมายเช่นกัน และอีกหมวดหนึ่งที่ต้องบอกว่า FiiO เป็นแบรนด์ต้น ๆ ในตลาดนั่นก็คือหมวดของเครื่องเล่นเพลงหรือ Digital Music Player หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า DAP นั่นเอง โดยล่าสุดทาง FiiO ก็เพิ่งเปิดตัวรุ่น เครื่องเล่นเพลง FiiO M11 DAP ไปไม่นานซึ่งก็มาพร้อมฟังก์ชั่นและความสามารถที่อัดแน่นจัดเต็มมาก ๆ แน่นอนว่าได้รับความนิยมจากแฟน ๆ มากด้วยเช่นกัน และล่าสุดเพื่อตอบโจทย์ผู้ฟังเพลงที่ต้องการสเปคที่เหนือไปกว่านั้นอีก ทาง FiiO จึงไม่รอช้าเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ออกมาเพิ่มกับรุ่น FiiO M11 Pro ที่มาพร้อมสเปคที่สูงยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมนั่นเอง

รูปทรงที่ดูเท่ล้ำสมัย อัดแน่นไปด้วยความสามารถอันเต็มเปี่ยม

ในรุ่นใหม่ M11 Pro นั้นยังมาพร้อมรูปร่างที่ดูเท่ ล้ำสมัยเช่นเคย โดยส่วนของด้านหน้าจะเป็นจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 5.15 นิ้ว (แนวแทยง) ความละเอียดสูงถึง 1440 x 720 เลยทีเดียว ส่วนของขนาดก็กำลังดี หยิบถือได้พอดีมือที่ 130 x 70.5 x 16.5 มิลลิเมตร และน้ำหนักที่เบากำลังดีเพียง 220 กรัมเท่านั้น พร้อมส่วนของเสปคที่ได้รับการอัพเกรดให้เหนือไปกว่ารุ่นธรรมดาไม่ว่าจะเป็น DAC Chips ที่ครั้งนี้เปลี่ยนมาใช้รุ่น AK4497EQ โดยใส่มาให้ถึง 2 ตัวเลยทีเดียว นอกจากนั้นในส่วนของชิพแอมป์นั้นก็ยังเลือกใช้ชิพที่รองรับระบบเสียงแบบ THX-AAA อีกด้วย เรียกได้ว่าให้เสียงกระหึ่มถึงใจและสมจริงมาก ๆ กันเลยทีเดียว นอกจากนั้นในส่วนของความจำภายในหรือ ROM ก็ขยับมาใช้ขนาดใหญ่ขึ้นที่ 64GB เก็บเพลง Hi-Res ได้อย่างจุใจโดยไม่ต้องใส่เมมเพิ่ม และส่วนของแบตเตอรี่ที่เพิ่มขนาดมาให้จาก 3800 เป็น 4370 mAh ใช้งานได้ต่อเนื่องกันยาวนานจุใจไปเลย

พร้อมด้วยฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่ทำให้เหนือกว่ารุ่นอื่น ๆ

นอกจากนั้นยังมาพร้อมฟังก์ชั่นและความสามารถที่น่าสนใจอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น การรองรับ Outputs ครบทุกรูปแบบทั้ง 2.5 3.5 และ 4.4 ไม่ว่าจะมีหัวเสียบแบบไหนก็ใช้งานได้ทั้งสิ้น นอกจากนั้นยังรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Wifi 2.4 และ 5 Ghz รวมไปถึงรองรับการสตรีมมิ่งผ่าน AirPlay รองรับในส่วนของฟังก์ชั่นใหม่จาก FiiO อย่าง FiiO Link ส่วนของ LDAC ก็รองรับแบบ 2-Way รองรับไฟล์เพลงแทบทุกชนิดทั้ง Lossy ไปจนถึง Lossless เช่น DSD เป็นต้น ส่วนของการเชื่อมต่อ USB ก็รองรับ USB-C ที่ช่วยในเรื่องของการส่งสัญญาณอย่างรวดเร็วจะส่งไฟล์ Hi-Res ขนาดใหญ่แค่ไหนก็ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย นอกจากนั้นยังช่วยในเรื่องของการชาร์จแบตเตอรี่โดยมาในส่วนของฟังก์ชั่นชาร์จไว Quick Charge เพียง 3.5 ชั่วโมงก็สามารถชาร์จได้เต็มแล้วนั่นเอง

โดยในตอนนี้สินค้ายังไม่เข้าไทย เปิดตัวที่ราคาราว ๆ $600-700 ซึ่งถ้าหากเข้ามาจัดจำหน่ายที่ไทยเมื่อไหร่ทาง Mercular.com จะรีบนำมาจำหน่ายและรีวิวให้รับชมกันอย่างแน่นอน สวัสดีครับ