หลังจากที่ปล่อยให้แบรนด์อื่นๆ เข้ามารุกตลาดมานานก็ถึงเวลาที่แบรนด์กล้อง Action Camera เจ้าใหญ่อย่าง GoPro จะกลับมาทวงบังลังก์กล้องจิ๋วด้วยการเปิดตัว GoPro Hero 10 Black ในวันที่ 16 กันยายน 2564 แถมยังปล่อยขายในวันถัดมาอีกด้วย แน่นอนว่าในวาระที่กล้องรุ่นนี้ขึ้นหลักสิบไม่ได้มีแค่อัพเกรดทั่วไปนิดหน่อย แต่จัดหนักจัดเต็มทั้งตัวกล้อง ตัวระบบ และฟีเจอร์เด็ดๆ จนบอกได้เลยว่าทิ้งห่างกล้องตัวเก่าอย่าง GoPro Hero 9 Black ไปเลย แต่ว่าจะทิ้งห่างขนาดไหน และมีอะไรเจ๋งๆ เพิ่มขึ้นมาบ้าง เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย

ในคราวนี้กล้อง GoPro Hero 10 Black ได้รับการอัพเกรดชิปเซ็ตเป็น GP2 หน่วยประมวลผลตัวล่าสุดที่ทำให้ระบบของกล้องตอบสนองได้ไวขึ้นทั้งการถ่ายและการใช้งาน และยังอัพเกรดความละเอียดสูงสุดของวิดีโอไปถึง 5.3K ที่ 60 fps และในส่วนของความละเอียด 4K ก็ไม่น้อยหน้า เพราะสามารถถ่าย Slow Motion ได้ถึง 120 fps แล้ว และยังถ่าย Slow Motion ได้สูงสุด ที่ 2.7K 240fps หรือย่อแบบสั้นๆ คือสโลว์ได้ถึง 8 เท่า!!! ส่วนของภาพนิ่งก็ยังไม่น้อยหน้า นำมาด้วยความละเอียด 23 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพนิ่ง Frame Grab ขณะถ่ายวิดีโอได้ถึง 19.7 ล้านพิกเซล และอัลกอรีทึมพิเศษที่เพิ่มเข้ามาอย่าง Local Tone Mapping และ 3D Noise Reduction ที่มาช่วยในเรื่องการถ่ายในที่แสงน้อย และที่เขียนมานี่ยังไม่หมดนะ ยังมีฟีเจอร์ช่วยถ่ายอีกมากมายทั้งของเก่าอัพเกรดและของใหม่แกะกล่องซึ่งเราจะพูดถึงในข้อถัดไปกัน

แน่นอนว่ากล้อง GoPro Hero 10 Black ไม่ได้มีแค่คุณภาพไฟล์ที่เปลี่ยนไป แต่ยังมีฟีเจอร์พิเศษต่างๆ ที่ได้รับการยกเครื่องกันแบบยกใหญ่ และฟีเจอร์ใหม่ที่จะได้ลองใช้ครั้งแรก ลองมาดูกันก่อนเลยดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง

หลายคนที่เคยใช้ GoPro รุ่นก่อนๆ คงจำกันได้ว่าการย้ายโอนไฟล์แต่ละครั้งนั้นยุ่งยากแค่ไหน ซึ่งพอถึงรุ่น Hero 10 Black ก็ได้มีการยกระดับการถ่ายโอนไฟล์ให้ดียิ่งขึ้น ได้แก่การถ่ายโอนด้วยระบบ Cloud ที่คราวนี้ไม่จำกัดจำนวนและขนาดของไฟล์อีกต่อไป ส่วนการโอนไฟล์แบบไร้สายเข้ามือถือด้วยแอปพลิเคชัน Quikที่เร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 30% และถ้าคิดว่ายังเร็วไม่พอ GoPro ยังเพิ่มการโอนไฟล์ผ่านสาย USB ของกล้องเข้ากับมือถือผ่าน Quik เหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมคือเร็วกว่าการโอนไร้สายถึง 50%!!! เรียกว่าเร็วซ้อนเร็วเลยก็ว่าได้

อีกสิ่งที่เปลี่ยนไปของกล้อง GoPro Hero 10 Black คือกล่องบรรจุภัณฑ์ที่คราวนี้ไม่ใช่กล่องพลาสติกตามเดิม แต่กลายมาเป็นกระเป๋ากล้องที่สามารถนำมาใช้งานได้จริง และไม่เพียงแค่กระเป๋าที่รักษ์โลก เพราะอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่เคยใช้ในรุ่นHero 9 Blackรวมถึงแบตเตอรี่ก็ยังสามารถใช้งานร่วมกับ Hero 10 Blackได้เหมือนเดิม ไม่ต้องเอาไปทิ้งให้เป็นมลพิษต่อโลกอีกแล้ว

สำหรับ GoPro Hero 10 Black นั้นก็ยังคงเป็นกล้อง Action Camera เหมือนเดิม ตัวกล้องมีขนาดประมาณ 7 x 3.2 x 4.7 เซนติเมตร มีน้ำหนักรวม 153 กรัม มีจอ LCD ด้านหน้าขนาด 1.4 นิ้ว สำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ และจอหลังทัชสกรีนขนาด 2.27 นิ้ว และยังคงสามารถกันฝุ่นกันน้ำได้ลึกถึง 10 เมตร มีเมาท์ Folding Finger ติดไว้ใต้กล้องเหมือนกับ Hero 8 และ 9 Black หน้าเลนส์ของ GoPro Hero 10 Black นั้นยังทำออกมาให้ทนต่อการขีดข่วนและกันน้ำเข้าได้เป็นอย่างดี แถมยังถอดเปลี่ยนไปใช้หน้าเลนส์แบบอื่นก็ได้ด้วย และสุดท้ายคือสีของโลโก้แบบใหม่จากเดิมที่เป็นสีขาวเปลี่ยนเป็นสีฟ้าคราม ที่แสดงถึงขุมพลังที่ชิปเซ็ป GP2 และกล้อง GoPro Hero 10 Black จะแสดงออกมาให้เราได้เห็นกัน

ถือว่าสร้างกระแสตอนเปิดตัวได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าพอสมควรสำหรับกล้อง GoPro Hero 10 Black ที่อัพเกรดระบบใหม่มาสมกับคอนเซ็ปต์ที่ว่า “Speed With Ease” และ “Better Everything” โดยต้องความความชอบให้ชิปเซ็ตตัวใหม่ล่าสุดอย่าง GP2 ที่ทำให้ระบบภายทำงานโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว การยกระดับของภาพและวิดีโอที่สูงกว่ากล้องรุ่นเดิมอย่างมาก ฟีเจอร์และโหมดการถ่ายต่างๆ ที่มีมาให้ใช้งาน รวมถึงดีไซน์แพคเกจและการใช้งานอุปกรณ์เสริมร่วมกับกล้องรุ่นเก่าก็แสดงถึงแนวทางของ GoPro ที่ดีขึ้น ส่วนใครก็อ่านมาถึงตอนนี้แล้วรู้สึกว่าโดนป้ายยาเรียบร้อยก็ไม่ต้องไปไหน เพราะทาง Mercular.com ก็มีกล้อง GoPro Hero 10 Black ให้คุณสั่งซื้อออนไลน์ได้เหมือนกัน ตามไปตำกันได้ที่    >>>ลิงค์นี้เลย<<<<   ส่วนตอนนี้ผู้เขียนขอเอากล้องตัวนี้ออกไปถ่ายรูปก่อน ไว้เจอกันใหม่อีกครั้ง