"กล้องสุดเทพที่มาพร้อม ภาพ 5K และการถ่ายทำแบบ 360 องศา"

เรียกได้ว่าเป็นจังหวะฮือฮาจริง ๆ สำหรับแฟน Action Camera ที่วางแผนจะจับจองเจ้า GoPro Hero 8 มาเป็นเจ้าของในสิ้นปีนี้ เพราะทาง GoPro นั้นก็ปล่อย Leak ทั้งสเปค ทั้งดีไซน์ออกมายั่วน้ำลายอย่างต่อเนื่อง แต่ใครจะไปคิดว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดจะเป็นแผนการดัดหลังแฟน ๆ ให้ควรญครางด้วยความสุขปนเศร้าอีกครั้ง เพราะใน วันเปิดตัว Hero 8 อย่างเป็นทางการ เจ้าแบรนด์ตัวดีก็ปล่อยตัวที่ Top กว่า GoPro Black ออกมาอย่าง GoPro Max ที่มาพร้อมกับความละเอียดภาพระดับ 5K และความละเอียดภาพ 16.6 MP เรียกได้ว่านอกจากให้แฟน ๆ ได้ดีใจกับกล้องรุ่นใหม่แล้ว (และเสียใจกับเงินที่ต้องจ่ายเพิ่ม) คนที่เจ็บที่สุดก็คงไม่พ้น DJI ที่เพิ่งเปิดตัวกล้อง Action Cam รุ่นใหม่อย่าง OSMO Action และ Pocket ไปต้นปีเพื่อหวังจะชนกับ Hero 8 ที่หน้าแทบชาเมื่อเจ้า Max ตัวนี้แทบจะ Outspec OSMO Action แบบจัง ๆ เรียกได้ว่า เจ้า Hero 8 และ Max นั้นทำให้ GoPro พร้อมชนกับคู่แข่งของตัวเองแบบสุด ๆ เราลองไปแอบมองกันดูซิว่าเจ้ากล้องทั้งสองตัวนี้มีอะไรโดดเด่นกันบ้าง

คุณภาพวีดีโอระดับ 5K

“จะเอาจอที่ไหนไปฉาย” หลาย ๆ คนอาจจะโอดครวญทันที่ที่เห็นภาพที่คมกริบของกล้อง GoPro Max แต่ สำหรับคอวีดีโอและสาย Post ตัวจริงอาจจะยิ้มออก เพราะการถ่ายไฟล์เผื่องานที่จะ Final นั้นในทางโปรดัคชั่นถือว่าช่วยทำให้งานทำได้ง่ายขึ้น ฉะนั้นในการทำงานเราอาจจะเห็นบ่อย ๆ ที่ถ่ายงานระดับ 4K มาเพื่อทำงานในระดับ 2K เป็นต้น ไฟล์ระดับ 5K เองเมื่อเอามาย่อขนาดก็จะทำให้ได้คุณภาพของไฟล์ดิบที่ดีขึ้นสามารถเกรดสีได้ละเอียดขึ้นด้วย ฉะนั้นต่อให้เราจะเอาไฟล์ของเราไปฉายในจอระดับ 2K สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็นไฟล์ 4K ของ Hero 8 และ 5K ของ GoPro Max ก็ช่วยทำให้ภาพของเรามีคุณภาพมากขึ้นอยู่ดี

มุม Power Pano และ จับภาพ 360 องศา

เจ้ากล้องตัวใหม่ตัวนี้มาพร้อมกับการใช้งานถ่ายภาพในโหมดใหม่อย่าง Power Pano ที่สามารถต่อภาพ Panorama ได้อย่างเนียนกริ๊บ เมื่อมาพร้อมกับเลนส์ 2 ฝั่งทำให้มันรับภาพได้ 360 องศา แถมสามารถใช้ได้ทั้งโหมด ภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่ง ให้คุณสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใคร ผ่านเจ้ากล้องจิ๋วตัวนี้เพียงตัวเดียว แต่เดี๋ยวก่อนนอกจากมันจะรับภาพได้แบบ 360 องศาสแล้วเจ้า GoPro Max ตัวนี้ยังสามารถรับเสียงได้แบบ 360 องศาด้วยไมค์ถึง 6 ตัว ทำให้คุณ Post งานได้อย่างมีคุณภาพ และสมจริงไม่ว่าจะเป็นภาพหรือเสียง !

ลาก่อนฝันร้ายยามค่ำคืน

โบกมือลากับฝันร้ายของแฟน ๆ GoPro ที่ทำงานตอนกลางคืนแพ้ OSMO ได้เลย เพราะทั้ง Hero8 และ Max นั้นสามารถทำงานตอนกลางคืนได้อย่างยอดเยี่ยม จะตั้ง Time lapse  ข้ามคืนก็สบายหายห่วง แถม Hero 8 ยังตอกย้ำความสามารถในการ ใช้งานสู้แสงด้วย Super Photo + HDR ที่ต่อให้ถ่ายย้อนแสงก็สามารถเก็บสี และสู้แสงได้สบาย ๆ  ให้คุณได้ภาพที่คุณถูกใจไม่ว่าจะเป็นที่ไหนเวลาใด

Max Hyper Smooth อะไรคือสั่นไม่รู้จัก!

สำหรับกันสั่นของ GoPro Max นั้นเป็นกันสั่นระบบใหม่ที่เรียกว่า Max Hyper Smooth ที่บอกได้คำเดียวว่า แม้เจ้าจะนิ่งไปไหน ถ้าใครได้ดูวีดีโอโปรโมทของ GoPro แล้วคุณจะพบกับความลื่นไหลของตัวภาพ ประหนึ่งอยู่ในฉาก CG หรืออยู่ในโลก Virtual อย่างไรอย่างนั้น จนบางทีก็แอบสงสัยไปว่าเขาแอบใช้ CG ทำรึเปล่าก็ไม่รู้ ที่แน่ ๆ คือกันสั่นของเจ้ากล้องรุ่นใหม่ตัวนี้นิ่งสุดกว่าตาของมนุษย์เสียด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับGoPro Hero 8 ที่มาพร้อมกับ Hyper Smooth 2.0 + Boost ที่ทำงานได้ลื่นไหลไม่แพ้กัน

สำหรับเจ้ากล้องแอคชั่นแคมตัวใหม่จากบ้าน GoPro นั้นพูดได้คำเดียวน่าจะแพ้น้อง ๆ และเพื่อนข้ามค่ายแค่เรื่องของการกันน้ำอย่างเดียวเพราะมันสามารถใช้งานในน้ำได้ลึกที่สุดเพียง 5 เมตรเท่านั้น (GoPro รุ่นอื่น ๆ ได้ 10 เมตร OSMO Action 11 เมตร) และ Slow-motion ที่มองยังไงก็รู้ว่ากั๊ก เพราะทำได้แค่ 2x นั้นในขณะที่น้อง ๆ ของตัวเองนำหน้าไปไกลถึง 8x เท่านั้น อีหรอบนี้ GoPro Max รุ่นต่อไปต้องมีอัพเกรดสโลโมชั่นชัวร์ ๆ ไม่น่าพลาด โดยราคาเปิดตัวของ GoPro Hero8 อยู่ที่ 14,500 บาท และ GoPro Max ราคา 17,000 บาท ห่างจากเพื่อนบ้านอย่าง OSMO ไม่มาก เรียกได้ว่าเจ้า GoPro เปิดตัวกันได้อย่างน่าจับตามองจริง ๆ โดยตัวสินค้าก็จะวางขายในวันที่ 24 ตุลาคมนี้แล้ว !