หลักการจับคู่หูฟังกับซาวด์การ์ดอย่างไรให้เทพ

16 ส.ค. 2561

หลักการจับคู่หูฟังกับซาวด์การ์ดอย่างไรให้เทพ

ด้วยวงการเกมในปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย มีเกมใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง และมีการเข้าถึงเกมในวงกว้าง ไม่ต้องหาซื้อแผ่นเกมหรือรอโหลดด้วยอินเทอร์เน็ต 56K อย่างเมื่อก่อน ทำให้อุปกรณ์เล่นเกมหรือเกมมิ่งเกียร์เป็นที่นิยมมากขึ้น นอกจากเมาส์เกมมิ่ง คีย์บอร์ดเล่นเกมแล้ว อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เราใช้เล่นเกมเป็นประจำคงหนีไม่พ้นหูฟังเกมมิ่งนั่นเอง โดยปกติแล้วการเล่นเกม เรามักจะใส่หูฟังเล่นเกมเพียงอย่างเดียวก็พอแล้ว แต่สำหรับหูฟังเกมมิ่งระดับไฮเอนท์ บางครั้งการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ยังไม่สามารถดึงศักยภาพออกมาได้สุด ดังนั้นการใช้การ์ดเสียงหรือ  Sound Card เข้ามาเสริม จะทำให้เพิ่มศักยภาพของหูฟังได้อีกเท่าตัวเลยทีเดียว ว่าแต่การจับคู่หูฟังกับ Sound Card มีหลักการอย่างไรบ้าง มาติดตามกันเลยครับ

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจับคู่กันก่อน

โดยทั่วไปแล้วหูฟังเกมมิ่งสำหรับเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็นตัวเล็กที่มีราคาไม่แพง หรือเป็นรุ่นใหญ่ ราคาสูง ต่างก็มีศักยภาพในตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งจุดประสงค์หลักที่เราจะทำการจับคู่กับซาวด์การ์ดก็คือการอัพเกรดคุณภาพ หรือดึงศักยภาพของหูฟังออกมาอีก (เหมือนเราขับรถ แล้วอยากแต่งเครื่องแรงๆเพิ่มครับ) ดังนั้นเราสามารถจับคู่หูฟังกับซาวด์การ์ดได้ตั้งแต่ตัวเล็ก ยันตัวใหญ่เลยนั่นเอง เพียงแต่การจับคู่นั้นต้องสอดคล้องกับหลักการที่กำลังจะพูดขึ้นในช่วงถัดไปครับ สำหรับการ์ดเสียง (Sound Card) เองก็มีทั้งแบบ Internal ที่ต้องติดตั้งลงไปในเครื่องติดกับ Mainboard และแบบ External ที่แยกออกมาเสียบช่อง USB มีลักษณะเหมือนกับ Hard disk ครับ ซึ่ง Sound Card หลักๆที่นิยมในตลาดตอนนี้จะมีเพียง Sennheiser GSX1000 Zowie Vital และ Creative SoundBlasterX G5 เท่านั้น โดยการจับคู่ในบทความนี้เราจะโฟกัสตัว External Soundcard กันก่อน ไปดูหลักการกันเลยดีกว่า

หลักการจับคู่หูฟังกับซาวด์การ์ดให้เทพ

1. สเปคหูฟัง ต้องสอดคล้องกับการ์ดเสียง (Sound Card) หากหูฟังต้องใช้กำลังขับสูง ควรเลือกใช้การ์ดเสียงที่มีกำลังสูง สามารถขับเสียงจากหูฟังออกได้เช่นกัน เช่น Beyerdynamic MMX 300 หากเราเลือกการ์ดเสียงราคาไม่แพง สเปคไม่สอดคล้องกันอย่าง Creative Sound BlasterX G1 อาจทำให้หูฟังอย่าง MMX 300 ขับเสียงหรือดึงศักยภาพออกมาไม่สุดนั่นเอง

2. ดูว่าหูฟังปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ ขาดองค์ประกอบอะไรบ้าง...หากเราเลือกหูฟังที่เสียงดี มีรายละเอียดครบอยู่แล้ว ขาดแต่ทิศทางที่แม่นยำ การเลือกการ์ดเสียงอย่าง Creative Sound BlasterX G5 ที่มี Scout Mode ที่เร่งเวทีเสียงให้กว้าง และสามารถกำหนดทิศทางได้แม่นยำ ก็จะทำให้หูฟังของเรามีองค์ประกอบที่ครบขึ้นนั่นเอง

3. ท้ายที่สุด คงหนีไม่พ้นเรื่องของราคา หากเราซื้อหูฟังราคาแพง แต่เลือกใช้ ซาวด์การ์ดราคาถูก อาจจะดึงศักยภาพหูฟังออกมาไม่สุด กลับกันหากหูฟังถูกแต่ซาวด์การ์ดแพง ตรงนี้จะเกิดอาการเลเวลตัน คือหูฟังทำได้เท่านี้ แต่จะใช้ซาวด์การ์ดแพงๆมาช่วย มันก็ทำอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่ครับ

หากใครยังนึกภาพ ไม่ออก หรือเห็นภาพไม่ชัดเจน เราลองมาดูการจับคู่หูฟังกับการ์ดเสียงที่ทีมงาน จัดเตรียมและแนะนำเป็นแนวทางสำหรับคนที่คิดจะซื้อชุดหูฟังเกมมิ่ง พร้อมซาวด์การ์ด แบบชุดเดียวจบ ครบและใช้ได้นาน ในบทความถัดไปครับ อย่าลืม! กด Subscribe เพื่อรับข่าวสาร โปรโมชั่น และบทความดีๆ เฉพาะที่ Mercular.com เท่านั้นจ้า

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2