เลือกประเภทของหูฟังอย่างไร ให้เหมาะกับคุณ?

25 ต.ค. 2559

เลือกประเภทของหูฟังอย่างไร ให้เหมาะกับคุณ?

ประเภทของหูฟังนั้นมีหลากหลายประเภท คงปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนมากมักจะแถมมาจากแบรนด์โทรศัพท์มือถือ แต่อย่างไรก็ดี มีนักฟังเพลงหลายคนที่ซื้อหูฟังเพื่อให้เข้ากับสไตล์การฟังเพลงของตนเอง แต่..เราจะรู้ได้อย่างไรว่า หูฟังแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะตัวอะไรบ้าง วันนี้ Mercular.com จะมาแนะนำรายละเอียดต่างๆ เบื้องลึกว่าหูฟังแต่ละประเภทนั้นมีจุดเด่น จุดด้อยอย่างไร เพื่อประกอบการตัดสินใจสำหรับเลือกซื้อหูฟัง ให้กับเหล่านักฟังเพลงมือใหม่หลายๆคนด้วยครับ


**ก่อนจะเริ่มลงรายละเอียดขอกล่าวตรงนี้ก่อนว่า ทางเราขออนุญาตพูดถึงภาพรวมของคุณลักณะประเภทหูฟังต่างๆ แน่นอนว่าหูฟังแต่ละตัวมักจะมีข้อยกเว้น เช่นหูฟังประเภทนี้ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย มียี่ห้อนี้ทำแบบนี้ก็ได้เป็นต้น แต่ในบทความเราจะพูดถึงลักษณะโดยภาพรวมเพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ


บนท้องตลาดทุกวันนี้ประเภทหูฟังที่คุ้นหูคุ้นตา เห็นได้ทั่วไป และเป็นที่นิยม จะมีด้วยกัน 3 ประเภทหูฟังหลัก คือ


1. หูฟังเอียร์บัด (Earbuds)

2. หูฟังแบบเสียบหู (In-Ear)

3. หูฟัง Headphone (Full-Size) โดยสำหรับ Headphone จะถูกซอยย่อยออกมาอีก 2 ประเภทคือ

headphone type หูฟัง

หูฟัง Earbuds หรือหูฟังเอียร์บัด

headphone type หูฟังมีกี่ประเภท

มันคือประเภทหูฟังที่เราเชื่อว่าแทบทุกคนจะต้องเคยเห็นและผ่านมา เพราะนี่คือหูฟังที่ปฏิวัติวงการเครื่องเสียงอย่างแท้จริง หูฟังประเภทเอียร์บัดถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ประมาณปี 1980 หลายคนคงจำกันได้กับเจ้า Sony Walkman ในตำนานที่ดังเป็นพลุแตก และมาดังกันแบบสุดๆในชื่อ “หูฟังไอโฟน” หรือถ้าจะพูดให้ถูกหูฟังที่แถมมากับ iPhone 


สิ่งที่ทำให้หูฟังประเภท Earbuds เป็นที่แพร่หลายเพราะส่วนใหญ่หูฟังเอียร์บัดจะมีราคาค่อนข้างถูก และหาซื้อได้ทั่วไป สะดวกในการพกพา โดยที่ให้เสียงที่มีคุณภาพในราคาจับต้องได้ ในส่วนของเสียงจะมีจุดเด่นที่ สามารถเก็บรายละเอียดได้ดี (แต่ไม่เท่าหูฟัง In-ear) เสียงค่อนข้างโปร่ง ฟังสบาย เวทีเสียงกว้างพอประมาณ แต่หูฟังประเภทเอียร์บัดกันเสียงข้างนอกไม่ค่อยได้ ซึ่งก็มีข้อดีเหมือนกันเพราะจะทำให้เราไม่เกิดอันตรายระหว่างเดินทางนั่นเอง ข้อเสียอีกอย่างหนึ่งก็คือใส่นานๆแล้วเจ็บหู แถมยังหลุดง่ายเวลาเคลื่อนไหวเร็วๆอีกด้วย


หูฟังประเภท Earbuds ปัจจุบันได้รับความนิยมน้อยลงและผู้ผลิตหลายรายหันไปทำหูฟัง In-ear กันมากกว่า แต่ก็ยังมี หูฟัง Earbuds ที่ให้เสียงระดับเทพที่คนมักพูดถึงได้แก่ เจ้า Sennheiser MX985 (รุ่นเก่า MX980) ดีไซน์สวยและให้เสียงที่ดีมากๆ หรือ Yuin PK1 และ Yuin PK2 เป็นต้น

ข้อดี


  • พกพาง่าย
  • ราคาไม่แพง
  • ปลอดภัยเพราะได้ยินเสียงภายนอก

ข้อเสีย


  • กันเสียงรบกวนภายนอกไม่ได้เลย
  • หลุดง่าย และใส่ไม่ค่อยพอดีเพราะขนาดหูแต่ละคนไม่เท่ากัน
  • ใส่นานๆแล้วมักจะเจ็บรอบรูหู

หูฟัง In-ear

headphone type หูฟังมีกี่แบบ

ถัดมาหูฟังแบบเสียบหู หรือหูฟัง In-ear จัดได้ว่าเป็นประเภทของหูฟังที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน นอกจากความสะดวกในการพกพาแล้ว หูฟังแบบ In-Ear สามารถกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีมากๆ ด้วยความที่จุกยางหรือจุกโฟมมีหลายขนาดและ ถูกสอดเข้าไปในรูหูจนปิดสนิทจึงทำให้หูฟังสวมใส่ได้พอดี และหลุดได้ยาก  ในด้านเสียงมีจุดเด่นคือรายละเอียดได้ชัดเจนและครบครัน เนื่องความที่หูฟังอยู่ใกล้รูหู และการกันเสียงรบกวนที่ดีเยี่ยม จึงทำให้ได้เสียงรายละเอียดดีขึ้นไปอีกขั้น ข้อควรระวังของหูฟังประเภทนี้คือเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากหูฟังประเภทนี้สามารถกันเสียงได้ดีมากๆ ทำให้เราไม่ค่อยได้ยินเสียงจากภายนอก บางครั้งอาจเกิดอันตรายได้ และสำหรับคนที่ชอบเปิดเสียงดังมากๆก็จะเป็นอันตรายต่อหูได้เช่นกัน

ข้อดี


  • พกพาง่าย
  • กันเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม
  • รายละเอียดเสียงชัดเจน ครบถ้วน

ข้อเสีย


  • ไม่ได้ยินเสียงรบกวนภายนอก อาจได้รับอันตรายได้
  • ถ้าเปิดเสียงดังจะเป็นอันตรายต่อหู

หูฟัง Headphone (Full-size)

headphone type ซื้อหูฟัง

สุดท้ายหูฟัง Headphone ถือว่าเป็นประเภทของหูฟังที่เก่าแก่มีมานานหรือที่คนชอบเรียกว่าหูฟังคาดหู สามารถแบ่งได้อีก 2 แบบ นั่นก็คือ แบบแนบหู (On-Ear) กับ แบบครอบหู (Over-Ear)


หูฟัง On-ear หรือหูฟังแนบหู

headphone type ซื้อหูฟังแบบไหนดี

เริ่มที่หูฟังประเภทแบบแนบหู On-Ear เป็นหูฟังคาดหูที่มีขนาดเล็กลงมา โดยเวลาใส่ตัวฟองน้ำหูฟังจะแนบพอดีที่ใบหู จุดเด่นของหูฟังประเภทนี้คือให้เสียงที่กว้างขวาง ฟังสบายตามลักษณะของหูฟัง Full-size แต่ย่อขนาดให้เล็กลง ถึงแม้จะทำให้เสียงด้อยลงมาบ้างแต่ก็แลกมากับความสามารถในการพกพาด้วยน้ำหนักที่เบากว่า Full-size ขนาดใหญ่ ทำให้สะดวกในการพกพาไปไหนมาไหนนั่นเอง อีกทั้งยังกันเสียงจากภายนอกได้ดีในระดับนึง แต่ด้วยความที่ตัวฟองน้ำแนบหูพอใส่ไปนาอาจจะทำให้เกิดอาการร้อนใบหู หรือเหงื่อชุ่มหูได้เช่นกัน


สำหรับหูฟังประเภท On-ear ยอดนิยมพักหลังๆมักจะมาในรูปแบบไร้สายหรือหูฟังบลูทูธกันมากขึ้น เช่น AKG Y50BT หรือว่า Sennheiser Momentum 2.0 Wireless ที่ให้เสียงได้ยอดเยี่ยมถือว่าเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบแนวเสียงฟังสบาย เวทีเสียงกว้าง เสียงสมจริง แต่ยังต้องการการพกพาที่สะดวก

ข้อดี


  • น้ำหนักเบา ง่ายต่อการสวมใส่ และมักจะมากับดีไซน์สวยงาม
  • หูฟังบางรุ่นพับเก็บได้จึงทำให้ง่ายต่อการพกพา
  • หยิบใช้สะดวกระหว่างเดินทาง
  • ให้เสียงฟังสบาย เวทีเสียงกว้าง เป็นธรรมชาติ

ข้อเสีย


  • ใส่ฟังนานๆใบหูมักจะร้อนและมีเหงื่อชุ่ม
  • กันเสียงภายนอกได้ไม่ดีเท่าที่ควร

หูฟัง Over-ear หรือหูฟังครอบหู

headphone type หูฟังมีทั้งหมดกี่แบบ

ถือว่าเป็นประเภทหูฟังที่นัก Audiophile ชื่นชอบกันมาก โดยสวมใส่แบบครอบหูจึงทำให้ใส่สบาย ฟังนานๆได้ ตัวหูฟังส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่ บางตัวใหญ่มากจนไม่สะดวกต่อการพกพา แน่นอนว่าสิ่งที่แลกมาทั้งหมดนั้นคือคุณภาพของเสียง ที่ให้เสียงได้เป็นธรรมชาติ สมจริง เวทีเสียงกว้างขวางมาก ฟังสบาย นักเล่นหูฟังหลายต่อหลายคนเมื่อได้มาลองใช้หูฟัง Over-ear แล้วมักจะติดใจในคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม ดังนั้นหูฟังประเภทนี้จึงเหมาะกับการใช้งานอยู่กับที่ซะมากกว่า พกพาได้แต่เป็นครั้งคราว แต่ก็มีบางรุ่นที่ทำออกมาให้สะดวกต่อการพกพาด้วยขนาดที่เล็กลง  จุดสำคัญของหูฟังประเภทนี้คือ หูฟัง Full-size บางตัวมักจะต้องการแอมป์มาช่วยขับเพื่อรีดศักยภาพของหูฟังเพื่อให้ได้เสียงที่ดีทีสุด


ตัวอย่างของหูฟัง Over-ear ระดับตำนานก็มีหลายรุ่นตั้งแต่ AKG K701 หรือ Sennheiser HD800 เป็นต้น ซึ่งหูฟังระดับนี้มักมีขนาดใหญ่ และต้องการแอมป์มาช่วยขับเพื่อให้ได้เสียงเต็มศักยภาพ โดยในปัจจุบันมีบางแบรนด์ที่ทำหูฟังแบบ Over-ear ขนาดพกพาได้เช่น Beats Studio 2 Wireless หรือ Sennheiser Momentum 2.0 Over-ear เป็นต้น


ข้อดี


  • สวมใส่สบาย ฟังได้เป็นระยะเวลานาน
  • คุณภาพเสียงดีเยี่ยม เวทีเสียงกว้างขวาง เป็นธรรมชาติ
  • ส่วนใหญ่หูฟังประเภทนี้แข็งแรง ทนทาน


ข้อเสีย


  • มีขนาดใหญ่พกพาไม่สะดวกเท่าที่ควร
  • ในหูฟังรุ่นระดับสูงๆมักจะต้องการแอมป์ช่วยขับ (สำหรับขา Audiophile ไม่ถือว่าเป็นข้อเสียซะทีเดียว)


มาถึงตอนนี้หลายๆคนคงจะเข้าใจประเภทของหูฟังกันพอสมควรแล้ว แต่เราจะสรุปให้อ่านกันอีกรอบหนึ่ง สั้นๆง่ายๆว่า ถ้าเน้นเรื่องเสียง ไม่เน้นพกพา หูฟัง Headphone แบบครอบหู (Over-Ear) ค่อนข้างกินขาด แต่ถ้าเน้นพกพาสะดวก เสียงเก็บรายละเอียดครบ คงต้องยกให้เจ้าหูฟังเสียบหู (In-Ear) หรือ เน้นพกพาเหมือนกัน แต่ไม่สะดวกเท่า In-Ear ซึ่งได้เสียงที่ดีกว่าแถมหน้าดูดีก็แนะนำให้ใช้ หูฟัง Headphone แบบแนบหู (On-Ear) และสุดท้ายหูฟังที่ใช้งานง่าย สะดวก ยึดความปลอดภัยเป็นหลักต้องเป็นหูฟังเอียร์บัดแน่นอน


โดยทั้งหมดนี้เราอ้างอิงข้อมูลจากค่าเฉลี่ยของหูฟังแต่ละประเภทเท่านั้น เพราะบางทีหูฟัง In-ear บางตัวก็ให้เวทีเสียงกว้างขวาง ที่สามารถเอาชนะหูฟัง Headphone ราคาต่ำกว่าได้เช่นกัน หวังว่าบทความนี้จะช่วยเพื่อนๆในการเลือกประเภทของหูฟังให้ถูกกับการใช้งานได้มากขึ้นไม่มากก็น้อย

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2