3 ก.พ. 2563
ทำความรู้จัก Bluetooth Codec มีอะไรบ้าง?
เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยเห็นหรือได้ยินคำว่า aptX กันมาบ้าง โดยเฉพาะเวลาเลือกซื้อ หูฟังไร้สาย ที่แน่นอนจะต้องมีคำศัพท์ดังกล่าวขึ้นมาเป็นจุดขายของรุ่น จริงๆแล้วคำนี้คือชื่อของ Codec ไร้สายซึ่งเป็นเทคโนโลยีการส่งสัญญาณชนิดหนึ่ง ซึ่งถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ สำหรับ Bluetooth Codec คือ การเข้ารหัสและถอดรหัสสัญญาณไร้สายที่บีบอัดสัญญาณจากต้นทาง (เครื่องเล่นเพลง, โทรศัพท์มือถือ) ไปยัง หูฟังไร้สาย ผ่านช่องทาง การเชื่อมต่อ Bluetooth โดยแต่ละ Codec ก็จะให้สัญญาณเสียงความละเอียดที่ไม่เท่ากัน เรียกค่าสัญญาณนี้ว่า Bitrate มีหน่วยเป็น Kbps หรือ Kilobyte Per Second ความหมายก็คือใน 1 วินาทีสามารถส่งสัญญาณได้กี่ Kilobyte ยิ่งค่าสูงเท่าไหร่ คุณภาพของเสียงที่ได้ก็จะสูงตามขึ้นไปด้วย
ซึ่งการที่จะฟังเพลง Hi-Res ผ่านการเชื่อมต่อไร้สายนั้น จำเป็นต้องใช้การเชื่อมต่อ Bluetooth ควบคู่ไปกับ Codec ที่สามารถส่งสัญญาณได้ Bitrate สูงๆ แต่ Bluetooth Codec ตัวไหนที่จะส่งสัญญาณ Hi-Res ได้นั้น ก่อนอื่นเรามาดูกันว่าในปัจจุบันมี Bluetooth Codec กี่ชนิด และอะไรบ้างครับ
SBC
สำหรับ Codec ตัวแรกอย่าง SBC นั้นถือเป็น Codec ขั้นพื้นฐานในทุกอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth โดยสามารถส่งสัญญาณความละเอียด Bitrate ได้สูงถึง 320 Kbps หรือระดับสูงสุดของการบีบอัดไฟล์แบบ MP3 โดยจะเน้นในเรื่องความเสถียรของสัญญาณส่วนการเชื่อมต่อซะมากกว่า ทำให้บางครั้งค่า Bit-Rate เกิดอาการขึ้นๆลงๆ ให้ความละเอียดเสียงไม่เต็มที่ เป็นข้อเสียของตัว SBC ทำให้ Codec ตัวนี้ไม่ได้รับความนิยมมากนัก
AAC
AAC หรือ Advance Audio Coding เป็น Codec ที่ได้รับความนิยมทั้งบน YouTube PlayStation และระบบปฏิบัติการณ์ Apple iOS สามารถส่งสัญญาณความละเอียดได้สูงถึง 250 Kbps ออกแบบมาสำหรับการใช้งานกับไฟล์ AAC ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการใช้ Bitrate ที่น้อยกว่าแต่ให้คุณภาพเสียงได้ดีกว่าหรือเทียบเท่ากับไฟล์ MP3 ที่มี Bitrate มากกว่า ทำให้แม้จะส่งสัญญาณที่ Bitrate น้อยกว่าแต่ให้สัญญาณที่เสถียรและคุณภาพเสียงที่ดีกว่า SBC นั่นเอง
aptX
เทคโนโลยีจากผู้ผลิตชิปประมวลผลอย่าง Qualcomm ซึ่งพูดได้เลยว่าเป็น Codec ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการส่งสัญญาณที่เสถียรและมีความละเอียดสูงถึง 48 kHz/ 16 bit หรือที่ 352 Kbps เทียบเท่าความละเอียดไฟล์จากแผ่น CD ที่บันทึกข้อมูลจากห้องอัดเสียงหรือที่เรียกว่า Lossless คือไฟล์ที่ไม่ผ่านการบีบอัดหรือลดทอนใดๆ
aptX HD
ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับไฟล์ Hi-Res หรือก็ไฟล์ที่มีความละเอียดสูงระดับ Lossless พัฒนามาจาก aptX ของ Qualcomm โดย aptX HD สามารถส่งสัญญาณความละเอียดที่ 48 kHz/24 bit LCPM หรือที่ 576 Kbps ซึ่งสูงกว่าระดับ CD Quality ซะอีก เหมาะสำหรับฟังเพลง Hi-Res ที่ความละเอียดสูงกว่า Lossless และสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถอ่านเพิ่มได้ที่นี่ สัญญาณ Bluetooth apt-X HD คืออะไร?
aptX LL (Low Latency)
Codec นี้จะไม่ได้เน้นในเรื่องของคุณภาพเสียงเป็นสำคัญ โดยจะให้ความละเอียดเสียงที่ใกล้เคียงกับ aptX แต่จะเน้นในเรื่องของการส่งสัญญาณที่มีความหน่วงต่ำ สำหรับใช้งานเวลาที่ต้องการรับชมภาพยนตร์ออนไลน์ YouTube หรือ เล่นเกมมือถือ ที่มักจะเจอปัญหาการดีเลย์ภาพไม่ตรงกับเสียง ถือเป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคนี้
LDAC
เป็นเทคโนโลยีการส่งสัญญาณไร้สายที่ Sony พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษรองรับ Bitrate ระดับ Hi-Res ที่ 96 kHz/24 bit หรือ 990 Kbps จัดว่าสูงมากเมื่อเทียบกับ Codec ชนิดอื่นๆ แรกเริ่มถูกออกแบบมาให้ใช้กับอุปกรณ์ของ Sony ทั้ง หูฟังไร้สาย เครื่องเล่นเพลง และ Smartphone เป็นต้น แต่ในปัจจุบันได้มีการแชร์สิทธิ์ไปให้แบรนด์อื่นๆด้วย เช่นแบรนด์ FiiO เป็นต้น
HWA
Codec ไร้สายรูปแบบใหม่จาก Huawei ที่เคลมเอาไว้ว่าสามารถส่งสัญญาณได้สูงกว่า LDAC ของ Sony หรือก็คือสูงกว่า 990 Kbps ขึ้นไปอีก ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ของ Huawei และสินค้าแบรนด์จีนเช่น หูฟังไร้สาย FiiO เครื่องเล่นเพลง Hiby เป็นต้น
UAT
Ultra Audio Transmission หรือ UAT เป็นการพัฒนาของแบรนด์ เครื่องเล่นเพลง Hiby ที่เรียกได้ว่าสามารถส่งสัญญาณได้ละเอียดที่สุดในขณะนี้ รองรับ Bitrate สูงถึง 192 kHz หรือ 1.2 Mbps สูงสุดเท่าที่เคยมีมา ในปัจจุบันใช้ในสินค้าเช่น DAC/Amp ไร้สาย Hiby และจะขยายไปสู่แบรนด์อื่นๆอีกในอนาคต
*สรุปตารางเปรียบเทียบความละเอียดสูงสุดของ Bluetooth Codec แต่ละชนิด
สรุปแล้ว จะฟังเพลง Hi-Res ผ่าน Bluetooth ต้องทำยังไง?
หากต้องการใช้งานฟังเพลง Lossy (ระดับสูง), Lossless หรือ Hi-Res ผ่าน Codec ไร้สายให้ได้ความละเอียดสูงสุดนั้น จำเป็นต้องมีทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกันดังนี้
1. เพลงคุณภาพสูงในระดับต่างๆ เช่น
- Apple AAC
- MP3/320 Kbps
- CD Lossless
- Hi-Res
โดยจะใช้เป็นไฟล์ดาวน์โหลตลงเครื่องหรือจะใช้เป็น App Music Streaming เพลงคุณภาพสูงที่มีในขณะนี้ก็ได้เช่น
- Apple Music (AAC)
- Spotify (MP3/320 Kbps)
- Joox (Lossless)
- Tidal (Lossless & Hi-Res)
2. เครื่องเล่นเพลงหรือ Smartphone ที่รองรับ Codec ไร้สายสูงสุดเทียบเท่ากับไฟล์ที่จะใช้เล่น เช่น หากต้องการเล่น ไฟล์ CD Lossless เครื่องเล่นก็จะต้องรองรับการส่งสัญญาณ aptX เป็นขั้นต่ำสุดด้วย โดยอุปกรณ์ที่รองรับ Codec ไร้สายระดับสูงในปัจจุบัน เช่น Smartphone Android รุ่นใหม่ๆหรือรุ่นเรือธง เครื่องเล่นเพลง Hi-Res จากแบรนด์ต่างๆ เช่น Sony FiiO หรือ Hiby ยกเว้น iPhone และอุปกรณ์ iOS ที่รองรับการส่งสัญญาณสูงสุดเพียง AAC เท่านั้น
3. หูฟังไร้สายที่รองรับ Codec ไร้สายสูงสุดเท่า 2 ข้อข้างต้น
เมื่อทั้ง 3 รองรับความละเอียดสูงสุดเท่ากันก็จะสามารถเล่นไฟล์และขับเสียงความละเอียดตามที่ต้องการ โดยมีข้อแม้ว่าหากส่วนใดส่วนหนึ่งใน 3 ส่วนนี้รองรับความละเอียดสูงสุดต่ำกว่าที่ต้องการ ตัวเสียงที่ได้ก็จะมีความละเอียดลดลงมาอยู่ในระดับเดียวกับส่วนที่รองรับความละเอียดต่ำกว่านั่นเอง
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ข้อมูลและความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่อง Codec ไร้สายให้มากขึ้น เพื่อการนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องต่อไป หากมีข้อมูลหรือเทคโนโลยีใหม่ๆในอนาคตมาอีกเมื่อไหร่ ทาง Mercular.com ก็จะนำมาอัพเดทกันอีกแน่นอน สวัสดีครับ
