สำหรับมือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทแล้วล้วนไม่ถูกกับน้ำอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสทางภายนอก หรือในกรณีที่เลวร้ายอย่างการทำมือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตกน้ำอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะมีโอกาสอยู่ไม่น้อยที่น้ำจะทำให้มือถือเครื่องโปรดของเราพัง แต่ถ้าหากผู้ใช้งานสามารถตั้งสติและปฎิบัติตามวิธีอย่างเคร่งครัดแล้ว ย่อมมีโอกาสสูงที่มือถือหรือหูฟังไร้สายตัวโปรดจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้งอย่างไม่มีปัญหา ส่วนสาเหตุที่น้ำถึงไม่ควรโดนมือถือและวิธีการแก้ไขจะเป็นอย่างไร เมาดูกันเลยดีกว่าครับ

เมื่อเรารู้สาเหตุว่าทำไมน้ำจึงเป็นตัวร้ายที่ไม่ถูกกับมือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว เรามาดูกันดีกว่าครับว่าจะทำอย่างไรเมื่อเกิดปัญหามือถือตกน้ำโดยไม่ได้ตั้งใจกัน 

จริงๆ แล้วข้อนี้มักเป็นสิ่งที่เราๆ มักทำทันทีหลังจากที่มือถือตกน้ำเพื่อเช็คว่ามือถือเครื่องโปรดที่ใช้งานอยู่นั้นยังใช้งานได้ไหม แต่ในความเป็นจริงถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างมาก เพราะเมื่อผู้ใช้พยายามเปิดเครื่อง น้ำที่อยู่ภายในตัวเครื่องสามารถทำให้เกิดอาการไฟฟ้าลัดวงจรทันที! ฉะนั้นจึงอย่าเพิ่งตกใจรีบเปิดเครื่องทันที ทางที่ดีที่สุดคือพยายามไม่ให้มือถือเปียกน้ำไปมากกว่านี้
 

หากมือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ตกน้ำใช้งานแบตเตอรี่ที่สามารถถอดออกได้ ข้อแนะนำคือเราควรถอดแบตเตอรี่ออกกก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้มีกระแสไฟไหลเข้าไปในแผงวงจรจนเกิดอาการช็อตอีกครั้ง เพราะว่าอุปกรณ์บางอย่างแม้ว่าจะยังไม่ได้เปิดเครื่องใช้งานอยู่ก็ยังมีการจ่ายกระแสไฟอยู่บ้าง แต่มือถือของผู้ใช้งานไม่สามารถถอดออกได้ก็ต้องพยายามเช็ดคราบน้ำออกจากตัวเครื่องออกให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ไปพลางๆ รวมถึงการเช็ดภายในของมือถือว่ามีส่วนไหนที่เปียกน้ำอยู่บ้าง แต่ต้องระวัดนิดนึงหากใช้ผ้าปกติเช็ดเพราะอาจขูดขีดแผงวงจนจนเสียดายได้ ทางที่ดีควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่อ่อนนุ่มมากกว่า
 

หลังจากที่เราถอดแบตเตอรี่ออกจากตัวเครื่องมือถือและเช็ดคราบน้ำที่เปียกทั้งภายในและภายนอกได้ระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามน้ำอาจจะยังหลงเหลือตามส่วนที่เราไม่สามารถออกมาเช็ดได้รวมถึงละอองน้ำเล็กๆ ที่ทำให้เกิดความชื้นได้ในภายหลัง โดยวิธีในการทำให้เครื่องมือถือแห้งหมดจดนั้นมีสารพัดสารพันมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไดร์เป่าผมในการช่วยทำให้น้ำระเหยออกไปจากตัวเครื่องอย่างหมดจด แต่ก็ต้องระวังห้ามใช้ลมร้อนเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้วงจรภายในเสียหายได้ หรือจะเป็นการใช้คอนต้อนบัดจุ่มกับแอลกอฮอล์ล้างแผลเช็ดทำความสะอาดและเป่าลม เพราะคุณสมบัติของแอลกอฮอล์จะระเหยได้ไวกว่าน้ำ ทำให้แผงวงจรแห้งไวกว่าเดิม หรือท้ายที่สุดจะใช้ตัวช่วยสุดคลาสสิคอย่างการนำสมาร์ทโฟนที่เช็ดน้ำจนแห้งพอสมควรไปแช่น้ำข้าวสารแห้งเพื่อให้ข้าวสารดูดซับความชื้นของน้ำออกมาอย่างหมดจดก็ทำได้ 

แม้ว่าวิธีเหล่านี้อาจไม่ได้การันตีว่ามือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายจะกลับมาใช้งานได้ 100 เปอร์เซนต์ แต่ถ้าหากปฎิบัติตามวิธีนี้อย่างเคร่งครัดแล้ว มั่นใจได้เลยว่ามีโอกาสพอสมควรที่จะกลับมาใช้งานมือถือได้อีกครั้งครับ นอกจากนี้แล้วการเลือกใช้งานมือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างหูฟังไร้สายหรือลำโพงไร้สายที่มีมาตรฐานกันน้ำ IP Rating ก็ยังช่วยป้องกันการเปียกน้ำ ตกน้ำ ไม่ให้ก่อความเสียหายแก่สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ชนิดอื่นๆ ครับ โดยสามารถอ่านทำความรู้จักกับมาตรฐานกันน้ำ IP Rating เพิ่มเติมได้จากตรงนี้ครับ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานมือถือทุกๆ ท่านเข้าใจสาเหตุต้นตอของปัญหารวมถึงวิธีแก้ไขเมื่อมือถือตกน้ำมากขึ้นครับ สำหรับวันนี้ Mercular.com ขอลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ