สำหรับแบรนด์ JBL ในปัจจุบันนั้น นอกจากจะมีสินค้าใน Categories ลำโพงพกพาไร้สาย หูฟังไร้สาย และ หูฟัง True Wireless ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในด้านต่างๆ แล้วนั้น ยังมีซีรีส์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานเฉพาะทางอีกด้วย เช่น การใช้งานฟังเพลงในระดับมอนิเตอร์ ระดับ DJ และระดับ Stereo เป็นต้น ซึ่งหลังจากที่ทางแบรนด์ ได้ทำการปล่อยสินค้าประเภท หูฟังไร้สายตอบโจทย์การใช้งานฟังเพลงระดับสูงอย่างในซีรีส์ JBL Club ออกไปในรุ่น JBL Club ที่มีทั้ง Categories Over-Ear และ On-Ear เช่นในรุ่น JBL CLUB 950NC และ CLUB 700BT ก็ต้องบอกเลยว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและขึ้นแท่นเป็นอีกซีรีส์ยอดนิยมในปัจจุบัน และด้วยความนิยมในตัวสินค้าที่มีมาก รวมกับกระแสความนิยมเทคโนโลยีไร้สายอิสระอย่าง True Wireless ทำให้ทางแบรนด์ JBL ไม่รอช้าเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ล่าสุดจากซีรีส์ Club ในรูปแบบ True Wireless กับรุ่น JBL Club Pro+ ตัวนี้นี่เอง ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆ ซึ่งจะมีอะไรพิเศษบ้างนั้น เรามาดูกันเลยครับ

JBL Club Pro+ เป็นหูฟัง True Wireless ที่ต้องบอกเลยว่าพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการออกแบบที่ทำออกมาได้อย่างสวยงาม หรูหรา พรีเมียม เป็นอย่างมาก รวมถึงยังออกแบบโดยคำนึงถึงหลักสรีระศาสตร์ ทำให้สามารถสวมใส่ได้ง่าย พอดี กระชับ เบาสบายหู ใส่ได้นานตลอดวันโดยไม่ล้าหรืออึดอัดหู มาพร้อมการควบคุมด้วยระบบสัมผัส ควบคุมได้ง่ายดายทันใจเพียงปลายนิ้ว และที่สำคัญยังมาพร้อมฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวน Adaptive Noise Cancelling ANC อีกด้วย ทำหน้าที่ตัดเสียงรบกวนจากภายนอกให้เหลือแต่เสียงเพลงเพราะๆ ด้วยแนวเสียงแบบ JBL Pro Sound และไดรเวอร์ภายในแบบ Dynamic Drivers ขนาด 6.8 มิลลิเมตร ข้างละ 1 ตัว ซึ่งนอกจากตัดเสียงรบกวนแล้วแน่นอนว่ายังมาพร้อมฟังก์ชั่นรับเสียงจากภายนอก Ambient Aware และ TalkThru แบบครบครันอีกด้วย

มาพร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth โดยเชื่อมต่อข้างซ้ายและขวาอย่างอิสระไม่ต้องมีข้างหลักและข้างรองให้วุ่นวาย ให้สัญญาณที่คมชัด เสถียร ไม่มีอาการหลุดหรือกระตุกมากวนใจ รวมถึงยังไม่มีอาการดีเลย์ของภาพและเสียงขณะรับชม YouTube และ Netflix อีกด้วย สวมใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ ด้วยฟังก์ชั่นกันน้ำกันเหงื่อมาตรฐาน IPX4 จะออกกำลังกายไปด้วยฟังเพลงไปด้วย เหงื่อออกหนักเพียงใดก็ไม่มีปัญหา และยังมาพร้อมไมโครโฟนที่สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัด รองรับการสนทนาในระบบเสียง Stereo ด้วยเทคโนโลยีไมค์คู่ และแบตเตอรี่สุดอึด ใช้งานได้ต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง และชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 3 ครั้ง รวมแล้วใช้งานได้นานถึง 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว ตัวเคสรองรับการชาร์จเร็วผ่าน USB-C รวมถึงรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi อีกด้วย

โดยในตอนนี้สินค้ายังไม่เข้าไทย และเปิดตัวราคาอยู่ที่ $199.95 ซึ่งถ้าหากเข้ามาจัดจำหน่ายที่ไทยเมื่อไหร่ทาง Mercular.com จะรีบนำมาจำหน่ายและรีวิวให้รับชมกันอย่างแน่นอนครับ