Keychron แบรนด์แมคคานิคอลคีย์บอร์ด ที่ไม่ว่าหันไปทางไหนก็เจอแต่คนใช้กัน กดกันเสียงต๊อกๆ แต๊กๆ กันไปหมด ตัวคีย์บอร์ดมีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ Full-Size จนมีขนาด 40% ที่กำลังจะออกมาให้เราได้ใช้งานกันเร็วๆ นี้ รวมถึงรุ่นที่ออกมาแต่ละรุ่นก็มีความโดดเด่นของตัวเอง ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายสุดๆ 

นอกจาก Keychron ตระกูล Q ที่ตอนนี้เรียกเสียงฮือฮาและเป็นที่นิยมในหมู่นักเล่นคัสตอมคีย์บอร์ด ตอนนี้ Keychron ได้ออกคีย์บอร์ดตระกูลใหม่ในชื่อ Keychron V ซึ่งวันนี้ ทาง Mercular ขอพาไปรู้จักกับคีย์บอร์ดตัวใหม่กับบทความ “พรีวิว Keychron V4 คีย์บอร์ด 60% ซีรีส์ใหม่ เอาใจคนชอบไฟ RGB” ใครที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดขนาด 60% และชอบไฟ RGB ต้องไม่พลาดตัวนี้เลยครับ

ที่ผ่านมา Keychron ได้ออกคีย์บอร์ดและอุปกรณ์เสริมมากมายเพื่อให้เหล่านักเล่นคีย์บอร์ดได้เลือกใช้กัน ซึ่งคีย์บอร์ดแต่ละรุ่นเองก็มีจุดเด่นไม่แพ้ใคร ตั้งแต่ตระกูล K ที่พร้อมใช้งาน เปิดโลกแมคคานิคอลคีย์บอร์ดให้กับใครหลายๆ คน ตามมาติดๆ ด้วยคีย์บอร์ดตระกูล Q ที่นอกจากจะพร้อมใช้งาน ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานได้คัสตอมเพิ่มเติม เพิ่ม ลด ปรับแต่งคีย์บอร์ดเพื่อให้ได้สัมผัสและเสียงที่ต้องการ จนมาถึงตอนนี้ Keychron ได้ออกคีย์บอร์ดตระกูลใหม่ในชื่อ Keychron V ที่มองครั้งแรกอาจจะรู้สึกไม่แตกต่างกับ Q มากนัก แต่หากลองมองดีๆ ลองสัมผัส หรือลองดูสเปกโดยรวม จะอ๋อขึ้นมาทันที เพราะนอกจากจะจัดเต็มชิ้นส่วนภายในเพื่อให้การประสบการณ์พิมพ์ที่ดีไม่แพ้ใคร ยังมีการปรับแต่งนิดหน่อย เอาใจคนรักไฟ RGB ด้วย แล้วคีย์บอร์ด Keychron V จะมีความน่าสนใจอย่างไร ตามมาดูกันครับ

Keychron V ตอนนี้เปิดตัวมาแล้ว 2 รุ่น ได้แก่ Keychron V1 ที่ตอนนี้ได้ออกขายบนเว็บไซต์ของทางแบรนด์ที่ต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย และที่ออกมาใหม่และเป็นตัวเอกของเราในวันนี้คือ Keychron V4

Keychron V4 เป็นคัสตอมคีย์บอร์ดขนาด 60% ซึ่งเป็นขนาดที่ตอนนี้เริ่มได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ตัวคีย์บอร์ดถูกตัดส่วนตัวเลขหรือชุดนัมแพดออก ตัดปุ่มฟังก์ชัน (ปุ่มF) ปุ่มทิศทาง และปุ่มคำสั่งหลายปุ่มออกไป เหลือเพียงคีย์ตัวอักษร ตัวเลขด้านบน และปุ่มคำสั่งที่จำเป็นต่อการใช้งาน นั่นทำให้มันมีปุ่ม FN มากถึง 2 ปุ่ม เพื่อให้ผู้ใช้งานกดร่วมกับคีย์อื่นๆ เพื่อเป็นคีย์ลัดกดคำสั่งครับ

แต่หากกลัวว่าปุ่มน้อยจัง จะกดตัวอื่นๆ ได้อย่างไร ตรงนี้ไม่ต้องกังวลเลยครับ ตัวคีย์บอร์ดสามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมปรับแต่งอย่าง QMK และ VIA ที่สามารถปรับแต่งได้เยอะ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนคำสั่งรายปุ่ม การสร้างปุ่มมาโคร และการสร้าง Layer หลายชั้น ซึ่งทำให้ปุ่มที่หายไปกดใช้ได้แน่นอน เพียงแค่ต้องทำให้ชินมือเสียก่อน จะได้พิมพ์ได้อย่างถนัด คล่องนิ้วครับ

ความแตกต่างระหว่าง Keychron V และ Keychron Q มีอยู่ด้วยกันหลายจุดเลยทีเดียวครับ เริ่มกันที่จุดแรก วัสดุที่ทางแบรนด์เลือกใช้ ตัวเก่าๆ ของ Keychron จะเป็นอะลูมิเนียมที่ผ่านการตัดแต่ง CNC แต่สำหรับ Keychron V4 ตัวนี้จะเป็น Solid ABS Plastic แทน ซึ่งหากอ้างอิงจากวัสดุเท่านั้น พลาสติก ABS เองก็ได้ความแข็งแรง ทนทานในระดับหนึ่งเลยครับ แต่สิ่งที่แลกมาคือความใสขุ่นของตัวเคส แม้จะไม่ได้ใสเหมือนคีย์บอร์ดตัวอื่นที่เลือกใช้พลาสติกใสแจ๋ว แต่ความใสขุ่นของตัว V4 นี้ก็ทำให้แสงไฟ RGB ลอดออกมาได้อย่างเห็นชัด ก็สวยไปอีกแบบครับ

มาต่อกันที่ภายนอกกันอีกสักเล็กน้อย ในคีย์บอร์ดตระกูล Q นั้นจะไม่มีขาตั้งมาให้ แต่ตัวคีย์บอร์ดีไซน์มาให้ลาดเอียงเข้ากับมืออยู่แล้ว ทีนี้ก็อาจจะไม่เข้ามือใครหลายๆ คน เพราะแม้จะเอียง แต่ก็มีความหนาและสูงประมาณนึง ทำให้ต้องใช้งานร่วมกับที่รองข้อมือถึงจะพิมพ์ถนัด Keychron V เลยได้เปลี่ยนใหม่ให้มีความสูงน้อยลง ชันไม่มาก และเสริมด้วยขาตั้งที่ปรับได้ 2 ระดับด้วยกัน ช่วยเพิ่มความเข้ามือ แต่หากคิดว่ามันสูงไป ทางเลือกอย่างที่รองข้อมือก็เป็นอีกตัวช่วยที่ดีเลยครับ นอกจากจะเพิ่มความสูง ยังลดการกดทับข้อมือได้อีกด้วย

มาสู่ภายในกันบ้าง อย่างแรกที่เปลี่ยนไปคือการ Mounting หรือวิธีการยึดเคสคีย์บอร์ด เข้ากับแผง PCB และเพลท ทางด้าน Keychron Q จะเป็นการ Gasket mount มีข้อดีคือเด้ง ยวบลง และมีเสียงต๊อกเป็นเอกลักษณ์ ส่วนทาง Keychron V4 จะใช้วิธี Tray mount นอกจากจะทำตัวคีย์บอร์ดมีราคาเข้าถึงง่ายมากขึ้น ทางด้านการมอดหรือแต่งเพิ่มเติมก็ทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แต่สัมผัสการพิมพ์ก็จะไม่สม่ำเสมอกันเท่าไหร่ เพราะใช้น็อตยึดแทน สัมผัสตัวที่ใกล้และไกลน็อตก็จะแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลยครับ ตรงนี้จะบอกว่าอันไหนดีกว่ากันก็ไม่ได้ด้วยครับ

แผ่นซับเสียงภายในเองก็มีการเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตัวนี้จะเลือกใช้ Silicon Pad เป็นตัวซับเสียงด้านล่าง ช่วยลดเสียงที่ไม่พึงประสงค์ แต่นอกนั้นก็แทบจะเหมือนเดิมเลยครับ พอพูดว่าเหมือนเดิม ตัวนี้ก็เลือกใช้แผงวงจรแบบ Hot-Swappable ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนและถอดสวิตซ์ได้ด้วยตนเองง่ายๆ โดยไม่ต้องบัดกรีให้เสียเวลา และคีย์แคปที่เลือกใช้วัสดุ PBT โปลไฟล์ OSA พิมพ์ตัวอักษรแบบ Double-shot เหมือนเดิมครับ ซึ่งตรงนี้ตัวเดิมก็ดีอยู่แล้ว ทั้งด้านความแข็งแรงของคีย์แคป และตัวอักษรที่ติดแน่น ทนนาน

ทางด้านการเชื่อมต่อ Keychron V4 ตัวนี้เชื่อมต่อแบบมีสายผ่านพอร์ต USB-A เข้ากับอุปกรณ์ และ USB-C เข้ามายังคีย์บอร์ด รองรับการใช้งานร่วมกับโน๊ตบุ๊คและคอมพิวเตอร์บนระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS ครอบคลุมแบบนี้ ไม่ว่าใครก็ใช้งานได้อย่างสบายๆ เลยครับ

Keychron V4 ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดราคาในตอนนี้ แต่ถ้าอ้างอิงจาก Keychon V1 ที่มีราคาอยู่ที่ $94 หรือที่ประมาณ 3400 บาท คาดว่า V4 ราคาก็คงไม่หนีไปจากนี้มากเท่าไหร่ แต่สิ่งที่รู้แน่นอน คือ Keychron V4 ได้ประกาศวันที่คาดว่าจะลงให้กับหน้าเว็บไซต์ของทางแบรนด์ที่ต่างประเทศ ในวันที่ 23 สิงหาคม 2556 นี้ครับ และคาดว่าคนไทยก็น่าจะได้สัมผัสกับมันในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน

ใครที่กำลังรอ Keychron V4 คีย์บอร์ดขนาด 60% เคสใสขุ่นแสงวิบวับตัวนี้อยู่ ก็อย่าลืมติดตามกับทางเรา ตัวเด็ดๆ ใหม่ๆ น่าสนใจแบบนี้ เราไม่พลาดแน่นอน หรือหากกำลังมองหาแมคคานิคอลคีย์บอร์ดหรือคัสตอมคีย์บอร์ดอยู่ ที Mercular เรามีสินค้าให้เลือกมากมาย คัดสรรจากแบรนด์ดัง มีอุปกรณ์ครบ จบในที่เดียวครับ