4 Theme Lego ที่ต้องมีไว้สะสมในปี 2020

จุดเด่นของชุดนี้ก็คือ การเป็นชุดที่ออกมาเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของ Theme Lego Modular Buildings ทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสมเป็นอย่างมากนั่นเอง ภายในชุดจะมีตึกทั้งหมด 3 ตึกติดกัน ความสูง 3 ชั้น ในแต่ละชั้นสามารถใส่รายละเอียดต่างๆ ได้ เหมาะสำหรับการนำมาตกแต่งเป็นร้านต่างๆ มาพร้อม Minifigures ทั้งหมด 8 ตัวแต่ละตัวมีอาชีพที่แตกต่างกันไปได้แก่ หมอฟัน, คนชงกาแฟ, คนอบขนม, คนขายดอกไม้, พนักงานร้านขายเพลง, นักเต้น, ช่างถ่ายรูป, แฟนคลับเลโก้ และเด็กทารก ที่สำคัญ Assembly Square (10255) ยังเป็นสินค้าใกล้รีไทร์หรือก็คือเลิกผลิต ซึ่งหลังจากเลิกผลิตแล้วก็จะหาสะสมยากรวมถึงราคาจะสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัวด้วย

• อายุที่เหมาะสม : 16 ปีขึ้นไป
• ชิ้นส่วน : 4,200 ชิ้น
• Minifigures : 8 ตัว

จุดเด่นของชุดนี้คือนอกจากจะเป็นชุดที่ออกมาเป็นตัวแรกๆ ใน Theme Lego Modular Buildings แล้ว ยังมาพร้อมชิ้นส่วน Brick 1x8 สี Sand Green ที่ในปัจจุบันไม่ค่อยมีในชุดอื่นๆ ทำให้เป็นที่ต้องการอย่างมาก ซึ่งก็ทำให้ราคาของชิ้นส่วนนั้นพุ่งสูงถึงชิ้นละ 100-200 บาทเลยทีเดียว ทำให้การที่จะไปหาชิ้นส่วนจากภายนอกเพื่อมาต่อชุดนี้เป็นไปได้ยากมากๆ นั่นเอง เพราะในชุดต้องใช้ชิ้นส่วน Brick 1x8 สี Sand Green ถึง 50 ชิ้นเลยทีเดียว และชุดนี้สามารถนำไปต่อรวมกับชุดอื่นๆ ใน Theme นี้ได้นั่นคือ Market Street (10190) และ Café Corner (10182) เพื่อจำลองเป็น ถนนคนเดิน Shoping Street และในชุดนี้ยังมาพร้อม Minifigures ชาวเมืองอีก 4 ตัวด้วย

• อายุที่เหมาะสม : 16 ปีขึ้นไป
• ชิ้นส่วน : 2352 ชิ้น
• Minifigures : 4 ตัว

จุดเด่นคือเป็น 1 ในชุด Ultimate Collector's ที่ในชุดจะมีใบการันตีมาให้ โดยชุดนี้จะเป็นยาน Millennium Falcon ยานที่เรียกว่าเป็นตัวเอกของเรื่อง ที่ถูกสร้างตามขนาด Minifigures Scale นอกจากนี้ยังจัดเป็นชุดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของ Lego โดยมีชิ้นส่วนถึง 5,197 ชิ้นเลยทีเดียว มาพร้อมกับ Minifigures 5 ตัวที่เป็นตัวละครหลักของ Star Wars ใน ไตรภาคแรกของมหากาพย์ (4-5-6) ได้แก่ Han Solo, Chewbacca, Obi-Wan, Luke and Leia Skywalker สำหรับราคาในขณะที่เปิดตัวเมื่อปี 2007 นั้นอยู่ที่ $499.99 แต่ด้วยความ Classic และหายากมากๆ ทำให้ปัจจุบันราคาขึ้นสูงถึง $3,000 ใน EBAY เลยทีเดียว ซึ่งหากในชุดนี้แพงเกินไป ในปัจจุบันก็มีอีกรุ่นนั่นคือ UCS Millennium Falcon (75192) ที่มีขนาดใหญ่กว่าและยังจัดเป็นชุดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 1 ของ Lego ด้วยจำนวนชิ้นสูงถึง 7,541 ชิ้น และก็กำลังเป็นสินค้าใกล้รีไทร์หรือเลิกผลิตอีกด้วย ซึ่งหากเลิกผลิตราคาจะต้องสูงขึ้นอีกหลายเท่าแน่นอนครับ

• อายุที่เหมาะสม : 16 ปีขึ้นไป
• ชิ้นส่วน : 5,197 ชิ้น
• Minifigures : 5 ตัว

เป็นอีก 1 ชุดใน Series Ultimate Collector's สำหรับ Death Star™ หรือดาวมรณะที่ในภาพยนตร์นั้นสามารถระเบิดดวงดาวให้เป็นจุณได้ในการยิงเพียงครั้งเดียว และในเวอร์ชั่นของ Lego ก็มาพร้อมจุดเด่นที่สายสะสมพลาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 14 ของ Lego ณ ปัจจุบัน ด้วยชิ้นส่วนถึง 4,016 ชิ้น ภายในแบ่งเป็นห้องต่างๆ แต่ละห้องจำลองฉากเด่นจากภาพยนตร์ไตรภาคแรกของ Star Wars (4-5-6) มาพร้อม Minifigures ถึง 27 ตัว (23 แบบ) ประกอบไปด้วย Grand Moff Tarkin, Darth Vader, Emperor Palpatine, Imperial Navy Officer, Imperial Officer, Death Star Droid, Obi-Wan Kenobi, Chewbacca, Princess Leia, C-3PO, R2-D2, Imperial Astromech และ สัตว์ประหลาด Dianoga Trash Compactor เป็นต้น ที่สำคัญ Lego Death Star™ (75159) ยังเคยปรากฏในภาพยนตร์ Spider Man: Home Coming อีกด้วย ยิ่งช่วยเพิ่มความน่าสะสมให้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

• อายุที่เหมาะสม : 14 ปีขึ้นไป
• ชิ้นส่วน : 4,016 ชิ้น
• Minifigures : 23 ตัว

จุดเด่นของชุดนี้คือการจำลองปราสาท Hogwarts ทั้งหมดให้อยู่ในขนาด Micro Scale ภายในและโดยรอบปราสาทมีการจำลองสถาณที่จากฉากเด่นในเรื่อง และภายในชุดยังมาพร้อมกับ Microfigures รวบรวมตัวละครหลักเช่น แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ และตัวละครอื่นๆ มากถึง 27 ตัว รวมถึง Minifigures ผู้ก่อตั้ง Hogwarts ทั้ง 4 ตัว ซึ่งพิเศษตรงที่ไม่มีออกมาในชุดอื่นอีก งานนี้บอกเลยว่าสายสะสมห้ามพลาด

• อายุที่เหมาะสม : 16 ปีขึ้นไป
• ชิ้นส่วน : 6,020 ชิ้น
• Minifigures : 4 ตัว
• Microfigures : 27 ตัว

สำหรับชุดนี้จุดเด่นของชุดคือการที่เป็นชุดแรกและชุดเดียวของ Lego ที่ให้ Centaur Figures หรือคนครึ่งม้ามาถึง 2 ตัว รวมไปถึงยังมี Minifigures Umbridge รุ่นที่ 2 ที่ในปัจจุบันมีเพียงแค่ 2 รุ่นเท่านั้น ซึ่งรุ่นแรกในปัจจุบันนั้นมีราคาแพงมาก ทำให้ในชุดนี้ซึ่งเป็นรุ่นที่ 2 จึงกลายเป็นรุ่นที่หลายๆ คนกำลังต้องการเป็นอย่างมากนั่นเอง

• อายุที่เหมาะสม : 8 ปีขึ้นไป

• ชิ้นส่วน : 253 ชิ้น

• Minifigures : 3 ตัว

• Centaur Figures : 2 ตัว

จุดเด่นของชุดนี้คือมีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 13 ของ Lego ณ ปัจจุบัน ด้วยชิ้นส่วนมากถึง 4,080 ชิ้น และเป็นชุดแรกที่ Lego ซื้อลิขสิทธิ์จาก Disney มาทำตัวต่อ Brick ตอบโจทย์ทั้งสายสะสมและแฟนๆของ Disney มาพร้อม Minifigures ที่ไม่มีในชุดอื่นๆ ได้แก่ Mickey Mouse, Minnie Mouse (เสื้อจุด), Donald Duck, Daisy Duck และ Tinker Bell ยกเว้น Donald Duck ที่ออกในชุด Minifigures The Disney Series (71012) ด้วย ที่สำคัญในชุดนี้ยังเป็นชุดที่นักฟุตบอลชื่อดังระดับโลกอย่าง David Beckham ซื้อมาต่อกับลูกสาวจนเป็นที่ฮือฮาใน Social อีกด้วย รวมถึงสินค้าชุดนี้ยังเป็นสินค้าใกล้รีไทร์หรือเลิกผลิต ซึ่งหากเลิกผลิตราคาจะต้องสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัวอย่างแน่นอน

• อายุที่เหมาะสม : 16 ปีขึ้นไป
• ชิ้นส่วน : 4,080 ชิ้น
• Minifigures : 5 ตัว

จุดเด่นของชุดนี้คือเป็นรถไฟที่วิ่งได้จริง โดยส่วนของรางนั้นสามารถต่อทิศทางได้ตามที่ต้องการ มีทั้งรางตรง และรางโค้งให้มาในชุด และส่วนของพลังงานในการขับเคลื่อนมาพร้อมกับ Power Set ที่จะให้พลังงานกับตัวรถไฟ ใช้งานได้ง่ายผ่าน App บน Smartphone ทำให้สามารถควบคุมได้อย่างอิสระ พูดได้เลยว่าตอบโจทย์ และถูกใจทั้งแฟน Disney รวมถึงแฟนของ Lego Theme รถไฟอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมาพร้อม Minifigures ที่ไม่มีในชุดอื่นถึง 5 ตัวได้แก่ Mickey Mouse (ชุดคนขับรถไฟ), Minnie Mouse (เสื้อไม่มีจุด), Chip, Dale (ชุดพนักงานรถไฟ) และ Goofy บอกได้เลยว่าน่ารักสุดๆ

• อายุที่เหมาะสม : 12 ปีขึ้นไป
• ชิ้นส่วน : 2,925 ชิ้น
• Minifigures : 5 ตัว