Logitech G502 ซีรีส์เมาส์เกมมิ่งที่ครองใจเกมเมอร์ ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว สวิตซ์เมาส์คุณภาพที่รองรับการกดหลายล้านคลิก เซนเซอร์ที่พร้อมติดตามทุกการเคลื่อนไหว จำนวนปุ่มที่เยอะสะใจ จะกี่ร้อยสกิล กี่พันท่าที่ต้องกด เมาส์เกมมิ่ง Logitech G502 พร้อมเป็นตัวแทนแขนขาของผู้เล่นให้ออกท่าได้ดั่งใจคิด

ในปี 2022 นี้ ทาง Logitech ก็ได้ปล่อยเมาส์เกมมิ่งตัวใหม่ในซีรีส์ G502 ที่ถูกพัฒนาให้เก่งกว่าเดิมและพร้อมเป็นสหายคู่กายของเกมเมอร์มากขึ้นในชื่อ Logitech G502 X ซึ่งไม่ได้ออกมาตัวเดียว แต่ให้มาถึง 3 ตัวด้วยกัน เมาส์แต่ละตัวก็มีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง ซึ่งสอดคล้องกับ G502 เดิม ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้งานได้อย่างง่ายดาย มีทั้งเมาส์ไร้สาย เมาส์มีสาย และเมาส์ที่มาพร้อมไฟ RGB ที่เหล่าเกมเมอร์ชื่นชอบ 

วันนี้ Mercular ขอมาสรุปรวบยอดให้ฟัง Logitech G502 และ G502 X มีความแตกต่างกันอย่างไร โดยเราหยิบตัวที่เกมเมอร์ชอบมากที่สุดอย่าง Logitech G502 X vs G502 Hero และ G502 X Lightspeed vs G502 Lightspeed เมาส์เกมมิ่งตัวใหม่นี้จะทำให้เกมเมอร์ตื่นเต้นได้แค่ไหน ตามมาดูกันครับ

ก่อนจะเริ่มไปเปรียบเทียบเมาส์เกมมิ่งรุ่นเทพอย่าง Logitech G502 และ Logitech 502 X เรามาดูกันว่าทำไมเมาส์เกมมิ่งซีรีส์ G502 ทั้งสองรุ่นนี้ถึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากเหล่าเกมเมอร์ 

ดีไซน์สุดเท่

ไม่ว่าจะรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า Logitech G502 Series มีดีไซน์ที่เท่และแปลกตาเมื่อเทียบกับเมาส์เกมมิ่งตัวอื่น ตัวเมาส์จะไม่ได้มีความยาวเสมอกันไปตลอด แต่มีความพุ่งไปขวาเมื่อมองจากมุมบน นอกจากความเท่แล้ว มันยังเข้ามือเป็นอย่างมาก ด้วยการออกแบบนี้จะเข้ากับผู้ใช้งานเมาส์มือขวาสุดๆ จับแล้วถนัดมือ มีส่วนโค้งเว้าที่สอดคล้องกับการจับเมาส์ หนึบมือ เหวี่ยงเมาส์ได้อย่างสบายใจ

เซนเซอร์คุณภาพ Hero 25K

Hero 25K เป็นเซนเซอร์ที่ทาง Logitech G502 เลือกใช้ มันพร้อมติดตามทุกการเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำ แน่นอนว่าเกมเมอร์บางสายมีการหมุนเมาส์และเคลื่อนเมาส์ตลอดเวลาอย่างเกม FPS หากเซนเซอร์ไม่เคลื่อนไหวพร้อมกับมือของผู้ใช้งาน นอกจากจะหัวร้อนแล้ว บางจังหวะอาจหมายถึงผลแพ้ชนะได้เลย เซนเซอร์ Hero 25K นี้ถือเป็นตัวชูโรงของทาง Logitech อีกตัวเลยครับ มีความแม่นยำสูง ติดตามทุกการเคลื่อนไหวอย่างตรงจุด สม่ำเสมอ และสามารถปรับแต่ง DPI ได้ตั้งแต่ 100 - 25,600 DPI เลยทีเดียว

ปุ่มเยอะสะใจ แถมปุ่มเล็งเป้าลากหัวคมๆ

Logitech G502 เป็นเมาส์เกมมิ่งที่มีปุ่มเยอะจุใจ เมื่อเทียบกับเมาส์เกมมิ่งมาตรฐานทั่วไปที่มีอยู่ที่ 6 ปุ่ม แต่ Logitech G502 มีให้มากกว่า 10 ปุ่มเลยทีเดียว ชาวเกม MOBA หรือ MMORPG ต้องถูกใจ เพราะปุ่มที่มากกว่านี้จะช่วยให้เราสามารถตั้งค่าปุ่มเสริมเหล่านั้นให้กลายเป็นคำสั่งที่ใช้ในเกม ไม่ต้องพึ่งการกดจากคีย์บอร์ดเพียงอย่างเดียว เข้าถึงการใช้งานสกิลได้อย่างรวดเร็ว และอีกปุ่มที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือปุ่มเล็งเป้าที่อยู่บริเวณนิ้วโป้ง ปุ่มนี้จะช่วยลดความเร็ว หรือลดความละเอียดของค่า DPI ลงมา ส่งผลให้เราสามารถเล็งเป้าได้คมมากยิ่งขึ้น และกลับมาใช้ความเร็วปกติได้อย่างรวดเร็ว 

อีกปุ่มนึงที่มีใน Logitech G502 คือปุ่มสำหรับเปลี่ยนการหมุนของ Scroll Wheel หรือล้อหมุนที่อยู่กลางเมาส์นั้นเอง มีให้เลือกใช้สองรูปแบบ รูปแบบแรกคือการหมุนแบบแม่นยำ ตัวล้อหมุนจะมีแรงต้าน หมุนน้อยไปน้อย หมุนแรงไปแรงตามที่ใจเราต้องการ และอีกรูปแบบคือการหมุนอิสระ เหมือนเป็นการคลายล็อคของล้อหมุนให้หมุนไปเลื่อยๆ ออกแรงนิดหน่อยก็ไปได้ไกล เหมาะสำหรับการดูข้อมูลจำนวนมาก หรือเลื่อนหน้าเว็บไซต์ลงเร็วๆ ซึ่งการหมุนสองแบบนี้จะช่วยให้เราใช้ทำงานหรือเล่นเกมได้สะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยครับ 

การเชื่อมต่อที่เสถียร

Logitech G502 Series มีการเชื่อมต่อให้เลือกทั้งแบบมีสาย และไร้สาย ในด้านของการเชื่อมต่อมีสายก็ไร้กังวล เพราะมีความเสถียรสุดๆ ไม่ต้องคอยชาร์จแบตเตอรี่ แต่หากเป็นไร้สายหลายคนยังกังขา จะส่งข้อมูลได้รวดเร็วแค่ไหน จะมีช่วงหน่วงหรือไม่เสถียรหรือไม่ ต้องบอกเลยว่าหายห่วงสุดๆ ครับ เพราะทางแบรนด์เลือกใช้ Lightspeed เทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายที่ดีที่สุดของ Logitech ในปัจจุบัน การเชื่อมต่อบนสัญญาณความไวสูงนี้ถูกทดสอบว่าตัวเมาส์มีอัตราการตอบสนองคำสั่งเพียง 1 มิลลิวินาทีในขณะที่เมาส์ไร้สายทั่ว ๆ ไปจะมีความเร็วส่งสัญญาณอยู่ที่ 5 – 20 มิลลิวินาที ทำให้มั่นใจได้เลยว่าการส่งสัญญาณ Lightspeed จะทำให้เมาส์ของคุณทำงานได้ไม่ต่างจากเมาส์มีสายทั่ว ๆ ไป หรืออาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ

มาถึงช่วงเปรียบเทียบที่ทุกคนรอคอย Logitech G502 X vs Logitech G502 Hero RGB มีความคล้ายกันหลายจุด ทั้งรูปแบบการเชื่อมต่อ และเซนเซอร์ แต่จะมีส่วนไหนที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เราสรุปออกมาเป็นตารางเพื่อให่ง่ายต่อการเข้าใจแล้วครับ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย

จุดเด่นของ Logitech G502 X 

Logitech G502 X นี้จะแตกต่างจาก G502 Hero RGB ตรงที่ไม่ได้มีเหล็กถ่วงมาให้แล้ว จะเน้นเรื่องความเบาเป็นหลัก โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 89 กรัมเท่านั้น เป็นตัวเลขที่ไม่ได้เบามาก แต่ไม่ได้หนักจนเกินไป กำลังพอดีกับการใช้งานและเข้าได้กับเกมหลากหลายประเภท Logitech G502 X ตัวนี้จะเลือกใช้สวิตซ์ Hybrid Optical-Mechanical ที่ใช้แสงแทนการกระทบกันของแผ่นเหล็ก นอกจากจะส่งคำสั่งได้อย่างแม่นยำแล้ว ยังมีอายุการใช้งานมากกว่าสวิตซ์ทั่วไป กดคลิกได้หลายสิบล้านครั้ง ส่วนเรื่องไฟ RGB ตัวนี้จะไม่มีมาให้ มีเพียงไฟ LED แจ้งเตือนสถานนะเพียงเท่านั้น Logitech G502 X ตัวนี้จะเหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการเมาส์ปุ่มเยอะ ชอบดีไซน์เอกลักษณ์เฉพาะของ Logitecg G502 มีน้ำหนักกำลังพอดี สวิตซ์แบบแสงที่มีความแม่นยำและอายุการใช้งานยืดยาว ตัวนี้เป็นเมาส์เกมมิ่งตัวจบได้เลยครับ

จุดเด่นของ Logitech G502 Hero RGB

Logitech G502 Hero RGB เป็นเมาส์เกมมิ่งมีสายที่สามารถปรับแต่งศูนย์ถ่วงได้ ภายในชุดจะมีเหล็กถ่วงน้ำหนัก 3.6 กรัม 5 ก้อน และบริเวณฐานเมาส์ เมื่อเปิดฝาออกก็จะพบกับช่องสำหรับใส่เหล็กถ่วง มีทุกทิศ ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้างซ้ายขวา ข้อดีคือเกมเมอร์สามารถกำหนดศูนย์ถ่วงได้ด้วยตัวเอง จะให้มันหนักไปทางไหน รวมถึงเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับเมาส์ไปในตัวหากเป็นผู้ที่ชอบใช้งานเมาส์ที่มีน้ำหนักมากหน่อย นอกจากนี้ตัวเมาส์ยังมาพร้อมไฟ RGB เล็กๆ บริเวณโลโก้ Logitech ทางด้านดีไซน์ปุ่มคลิกขวาจะมีความยาวมากว่าทางปุ่มคลิกซ้ายตามที่เราได้เกริ่นไปในตอนต้น ทำให้มันรองรับนิ้วกลางที่มีความยาวที่สุดในห้านิ้วได้อย่างพอดี ใครที่อยากได้เมาส์มีสาย ปรับศูนย์ถ่วงได้ มีไฟ RGB พอกรุบกริบ ตัวนี้เหมาะเข้ามือเลยครัย

มาต่อกันอีกตัวที่ได้รับความนิยมสูง สำหรับใครที่อยากได้เมาส์เกมมิ่งไร้สายสักตัว ต้องคุ้นเคยกับ Logitech G502 Lightspeed กันมาบ้างแล้ว เมาส์เกมมิ่งที่เลือกใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สาย Lightspeed ที่ดีที่สุดของทาง Logitech มาคราวนี้ออกรุ่นใหม่อย่าง Logitech G502 X Lightspeed จะมีความแตกต่างกับรุ่นก่อนอย่างไร แล้วมีจุดเด่นส่วนไหนบ้าง มาดูกันครับ

จุดเด่นของ Logitech G502 X Lightspeed

Logitech G502 X Lightspeed เป็นรุ่นที่พัฒนามาจากรุ่นเดิมอย่าง G502 Lightspeed แน่นอนว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดและน่าจะถูกใจเกมเมอร์อย่างแน่นอนคืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นเท่าตัว นั่นทำให้มันสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานสูงสุด 140 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ใช้ยาวๆ ลืมชาร์จกันไปเลย อีกส่วนที่เปลี่ยนคือสวิตซ์ที่เลือกใช้ Hybrid Optical-Mechanical สวิตซ์ที่รับคำสั่งด้วยแสง แทนการส่งคำสั่งแบบเดิมที่ใช้แผ่นโลหะกระทบกัน ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าสวิตซ์รูปแบบเดิมมากถึงหลายล้านครั้งเลยทีเดียว แม้จะไม่มีไฟ RGB มาให้ แต่ก็ทำให้มันมีน้ำหนักน้อยลงและมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่มากขึ้น Logitech G502 X Lightspeed เป็นเมาส์เกมมิ่งไร้สายที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเมาส์ปุ่มเยอะ ใช้งานได้ยาวนาน ไม่มีสายมาเกะกะ สวิตซ์แบบใหม่แบบสับที่ทำให้กดได้หลายล้านครั้ง ดีไซน์สวยงาม เกมเมอร์พลาดไม่ได้เลยครับ

จุดเด่นของ Logitech G502 Lightspeed

Logitech G502 Lightspeed เป็นเมาส์เกมมิ่งไร้สายในตระกูล G502 แน่นอนว่าไร้ความเกะกะของสาย ทางด้านการเชื่อมต่อ ก็ได้เทคโนโลยี Lightspeed ที่ดีที่สุดของเมาส์เกมมิ่งไร้สายของ Logitech ไม่มีอาการหน่วง หรือดีเลย์ให้ต้องกังวล ใช้งานลื่น ไร้ความไม่เสถียร อีกจุดเด่นหนึ่งของ Logitech G502 Lightspeed คือสามารถกำหนดศูนย์ถ่วงได้เหมือนกับตัว Hero เลยครับ มีเหล็กถ่วงน้ำหนัก 3.6 กรัม 5 ก้อน และบริเวณฐานเมาส์ เมื่อเปิดฝาออกก็จะพบกับช่องสำหรับใส่เหล็กถ่วง มีทุกทิศ ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้างซ้ายขวา สามารถปรับศูนย์ถ่วงได้ด้วยตัวเอง แต่น้ำหนักเดิมของมันก็อยู่ที่ 114 กรัมไปแล้ว อาจจะเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบเมาส์ที่มีน้ำหนักหน่อย เพื่อกำหนดการเคลื่อนไหวได้ดี ตัวเมาส์มีไฟ RGB เล็กน้อยที่บริเวณโลโก้ ปรับไฟได้หลากหลายรูปแบบ Logitech G502 Lightspeed จึงเหมาะสำหรับใครที่อยากได้เมาส์ไร้สายที่สามารถปรับศูนย์ถ่วงได้ มีไฟ RGB เล็กๆ พอเป็นพิธี เลือกใช้เซนเซอร์คุณภาพ แถมยังรองรับการใช้งานร่วมกับการชาร์จไร้สายพาวเวอร์เพลย์อีกด้วย

อยากที่เราบอกไป Logitech G502 X ออกมาให้ถึง 3 รุ่นด้วยกัน ซึ่งเราได้เห็น Logitech G502 X และ Logitech G502 X Lightspeed กันไปบ้างแล้ว มาดูตัวที่ 3 ที่เรายังไม่ได้พูดถึงกันอย่าง Logitech G502 X Plus ตัวนี้จะมีความแตกต่างกับอีก 2 รุ่นอย่างไร เรามาดูกันครับ

จุดเด่นของ Logitech G502 X Plus

Logitech G502 X Plus เป็นเมาส์เกมมิ่งไร้สายที่มีไฟ RGB มาให้ ซึ่งแตกต่างกับอีก 2 รุ่นที่มีเพียงไฟ LED แจ้งเตือนสถานะ ไฟ RGB นี้สอดแทรกอยู่บนลวดลายของเมาส์ สวยงามสุดๆ ทางด้านการเชื่อมต่อแบบไร้สายก็ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน นั่นคือเทคโนโลยี Lightspeed หมดกังวลความไม่เสถียร เซนเซอร์ Hero 25K ติดตามทุกการเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำและสม่ำเสมอ โดยตัวนี้จะมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุดที่ 120 ชั่วโมง แม้จะน้อยกว่าตัว Logitech G502 X Lightspeed แต่ก็ถือว่าเยอะกว่าเมาส์เกมมิ่งไร้สายตัวอื่นๆ พอสมควรเลย อีกเรื่องคือน้ำหนักของ Logitech G502 X Plus จะเยอะที่สุดในบรรดา Logitech G502 X มีน้ำหนักอยู่ที่ 106 กรัม แม้จะดูเยอะไปเสียหน่อย แต่ตอบโจทย์กับเกมเมอร์ที่ชอบเมาส์มีน้ำหนักอยากแน่นอน เคลื่อนไหวได้คงที่มากขึ้น Logitech G502 X Plus จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่สนใจอยากได้เมาส์ไร้สายตัวใหม่จากซีรีส์ Logitech G502 X มีไฟ RGB สวยงาม เชื่อมต่อไร้สายไร้ความไม่เสถียร เซนเซอร์คุณภาพ ดีไซน์เท่ น่าใช้งานสุดๆ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับการเปรียบเทียบเมาส์ไร้สายทั้ง 4 รุ่น ที่เราเลือกมา แต่ละรุ่นมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก เมื่อมีรุ่นใหม่ หลายคนอาจจะสับสนว่ามันแตกต่างกันอย่างไร มีอะไรที่เหมือนกันบ้าง เพราะรุ่นเดิมอย่าง G502 นั่นทำไว้ดีมาก เมื่อออกรุ่นใหม่ หลายคนก็คอยจับตาว่ามันจะทำออกมาได้ดีเหมือนรุ่นเดิมอย่างไร ซึ่งจากที่ดู ทั้ง 4 ตัวที่เรานำมาให้ดูก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป แม้จะเป็นรุ่นเก่าก็ยังคงใช้งานได้ดี ใครที่อยากปรับเปลี่ยนศูนย์ถ่วงของตัวเมาส์ Logitech G502 ซีรีส์ยังคงทำได้ดีอยู่ แต่หากอยากได้ทรงเดิม แต่เพิ่มประสิทธิภาพสวิตซ์ให้ดีขึ้นด้วยการใช้สวิตช์ไฮบริดออปติคอล-แมกคานิคอล ดีไซน์ที่ทันสมัย อายุการใช้งานแบตเตอรี่มากกว่าเดิมเท่าตัว Logitech G502 X ซีรีส์จะตอบโจทย์เกมเมอร์อย่างคุณสุดๆ ครับ

หากใครกำลังมองหาอุปกณ์เกมมิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเมาส์เกมมิ่ง คีย์บอร์ดเกมมิ่ง หูฟังเกมมิ่ง ที่ Mercular เรามีสินค้าให้เลือกมากมาย คัดสรรจากแบรนด์ดัง การรับประกันหลังการขายหายห่วง