Mini Review Logitech Pro X

7 ส.ค. 2562

Mini Review Logitech Pro X

คุณภาพแบบ Logitech ที่ทุกคนถูกใจ

ถ้าจะพูดถึงแบรนด์เกมมิ่งที่มีผู้ใช้งาน Loyalty ที่สุดนอกจาก HyperX แล้วก็ดูเหมือนจะมี Logitech นี่แหละที่แฟนคลับจะไม่ขยับตัวย้ายบ้านกันซักเท่าไหร่ นั่นก็เพราะตัวผลิตภัณฑ์ของ Logitech นั้นได้รับการ QC อย่างดีในราคาสมเหตุสมผล จับตลาดลูกค้า Mid-Tier และ Low-Tier ได้เป็นอย่างดี แถมยังเอาใจเหล่าลูกค้าด้วยการผลิตชิ้นส่วนสำคัญ ๆ ใช้เองไม่ว่าจะเป็นสวิทซ์คีย์บอร์ด หรือเมาส์เซนเซอร์ ทำให้ได้ต้นทุนที่ถูกแต่สามารถการันตีคุณภาพได้ แถมยังช่วงส่งให้สินค้าของ Logitech สามารถออกแบบได้อย่างยืดหยุ่นขึ้นนั่นเอง และแน่นอนเจ้าหูฟังเกมมิ่ง Logitech Pro X ตัวนี้ก็มาพร้อมกับ Original Driver ขนาด 50 มม. จาก Logitech ทำให้มันสามารถขับเสียง 7.1 Dolby Surround ได้อย่างยอดเยี่ยมกว่าหูฟังตัวไหน ๆ ในราคาใกล้เคียงกันนั่นเอง

หูฟังไมค์เทพ Blue Vo!ce

นอกจากคุณภาพการผลิตมาตรฐาน Logitech ที่ไม่ว่าใครก็ต้องยอมรับแล้ว มันก็ยังมาพร้อมกับไมโครโฟน Blue ซึ่งเป็นค่ายผลิตไมโครโฟนที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จักอย่างเจ้า Blue Yeti นั่นเองซึ่ง Vo!ce ก็เรียกได้ว่าเป็นไมค์อีกตัวที่ถือว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ แถมยังมาพร้อมกับราคาเปิดตัวแค่ 129.99 ดอลล่าห์ หรือประมาณ 4000 บาทเท่านั้นเอง ทำให้หลาย ๆ คนฮือฮากับการร่วมมือกันครั้งนี้พอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งความพิเศษของไมค์ Blue Vo!ce บนหูฟังเกมมิ่ง Logitech Pro X คือการลดเสียงรบกวนอย่างมีประสิทธิภาพ และส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูงออกไป ทำให้การันตีได้เลยว่าเสียงที่ส่งไปนั้นจะชัดเจน รายละเอียดครบถ้วนรวมไปถึง เสียงใส สามารถฟังออกได้ง่าย ๆ ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ สำหรับเกมเมอร์ เพราะการสื่อสารที่ติดขัดในบางช่วงนั้นอาจจะหมายถึงความเป็นความตายเลยก็ว่าได้

การใช้งานที่หลากหลายด้วย EQ

นอกจากไมค์คุณภาพสูงแล้วหูฟังเล่นเกม Logitech Pro X ยังมาพร้อมกับการปรับแต่งเสียงผ่าน Software ได้ในตัว ทำให้นอกจากใช้เล่นเกมแล้วยังสามารถเอาไปใช้ ดูหนังฟังเพลงได้อีกด้วย โดยการเซฟ Presets เอาไว้ แล้วก็เปลี่ยนเมื่อต้องการใช้งานนับว่าสะดวกมากเลยจริง ๆ  แถมบอดี้ของมันยังแข็งแรงด้วยวัสดุโลหะ และอลูมิเนียม ด้วยการผสมกันของวัสดุทั้งสองอย่างทำให้ได้หูฟังที่แข็งแรงและน้ำหนักเบาสุด ๆ

และท้ายที่สุดแล้ว หูฟังเกมมิ่ง Logitech Pro X ยังมี Sound Card แถมมาให้ใช้งานคู่กันอีกต่างหาก และยังรองรับการเชื่อมต่อทั้ง USB และ AUX 3.5 ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานทั้ง Device ที่รองรับ และการใช้งานจริงอีกด้วย ด้วยราคาที่มาแบบไม่แรงมากสบายกระเป๋าทำให้เจ้าหูฟังตัวนี้เหมาะกับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2