หูฟังสุดฮิต ที่ชาวออฟฟิศต้องมี

26 ก.พ. 2561

หูฟังสุดฮิต ที่ชาวออฟฟิศต้องมี

สำหรับหนุ่มสาว ชาวออฟฟิศที่กำลังประสบปัญหาการทำงานไม่ราบรื่น ถูกรบกวนสมาธิด้วยเสียงรอบข้างตลอดเวลา รวมถึงต้องติดต่องานอยู่ตลอด จนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น เรียกได้ว่าใน 1 วัน ทำงานแบบ Multi-Tasking จนพลังงานหมดไปเยอะ ดังนั้นในบทความนี้ Mercular.com มีตัวช่วยสำหรับการทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งใกล้ตัวเล็กๆ อย่าง หูฟัง แต่หูฟังที่เรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ มิใช่หูฟังธรรมดา เพราะอัดแน่นด้วยฟังก์ชันต่างๆที่สร้างความสะดวกสบายให้กับชาวออฟฟิศอย่างแน่นอน โดยเราจะแบ่งออกตามลักษณะการใช้งานเป็นหลัก ว่าแต่คุณเป็นชาวออฟฟิศสายไหน มาติดตามกันเลย

สายโทร Non-Stop ติดต่อทั้งวัน

หากคุณเป็นคนที่โทรติดต่องานตลอดทั้งวัน แล้วต้องทำงานอย่างอื่นควบคุมกันไปด้วย การใช้หูฟังประเภท Headset หรือ หูฟังบลูทูธ สามารถช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะขณะที่คุณคุยโทรศัพท์ สามารถทำงานอย่างอื่นไปด้วยได้นั่นเอง โดยรุ่นที่เราแนะนำมีดังนี้

Plantronics Voyager Edge ราคา 2,990.-

เป็นหูฟังบลูทูธที่มีก้านยาวข้างเดียว มีห่วงดันใบหูด้านในที่ทำมาจากยาง หมดกังวลว่าจะหลุด มาพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวนถึง 3 ตัว ทำให้การสนทนาราบรื่นไม่ติดขัด อีกทั้งยังสามารถรับหรือวางสายด้วยคำสั่งเสียง พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้ยาวนานถึง 7 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับ Bluetooth 4.0 และ NFC ทำให้การเชื่อมต่อง่าย เสถียรตลอดทั้งวันครับ

อ่านรีวิวเต็ม/สั่งซื้อคลิก!

Jabra Stealth ราคา 1,990.-

จุดเด่นของหูฟัง Jabra Stealth อยู่ที่น้ำหนักเบา ทำให้การสวมใส่ แทบจะลืมไปเลยว่าใส่หูฟังอยู่ มาพร้อมเทคโนโลยีเฉพาะ Jabra อย่าง Noise Blackout ที่ตัดเสียงรบกวนออกหมด แม้ว่าจะอยู่ในห้องโถงที่มีผู้คนมากมาย ไมค์เสียงคมชัด อีกทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับ Jabra Assist Application ในการปรับค่าต่างๆได้อีกเช่นกัน

อ่านรีวิวเต็ม/สั่งซื้อคลิก!

สายงานละเอียด ต้องใช้สมาธิสูง

สำหรับหนุ่มสาว ชาวออฟฟิศที่ต้องใช้สมาธิโฟกัสกับงานสูง แต่กลับถูกรบกวนด้วยเสียงรอบข้างไม่ว่าจะเป็นจากคนภายในแผนก หรือคนที่มาติดต่องานต่างๆ ทำให้เสียสมาธิ วันนี้เรามี 2 หูฟังตัดเสียงรบกวน (Noise-Cancelling Headphone) มาแนะนำกันครับ

Plantronics Backbeat Pro 2 ราคา 7,190.-

เปิดกันที่หูฟังยอดฮิตแห่งปีอย่าง Plantronics Backbeat Pro 2 ที่เปิดตัวใหม่ๆ ทำเอาหลายๆคนอึ้งเลยทีเดียว ด้วยเสียงดีเกินกว่าจะเป็นหูฟัง Noise Cancelling นั่นเอง ทำให้ Backbeat Pro 2 ได้รับความนิยม ทั้งในและนอกออฟฟิศ บ้างก็ใส่ตลอดทั้งวัน กันเสียงรบกวนระหว่างการเดินทางเป็นต้น จุดเด่นของ Backbeat Pro 2 อยู่ที่ Smart Censor เวลาที่เรานำหูฟังลงมาไว้ที่หลังคอ เพลงจะหยุดเล่นโดยอัตโนมัติ หากนำกลับขึ้นไปใส่ฟัง เพลงก็จะกลับมาเล่นต่อเนื่องนั่นเอง นอกจากนี้ Plantronics Backbeat Pro 2 ยังมาพร้อม Bluetooth version 4.1 รองรับ apt-X ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเทียบเท่า CD ส่งผลให้เสียงดีขึ้นไปอีก ทั้งยังสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมงเลยครับ

อ่านรีวิวเต็ม/สั่งซื้อคลิก!

Sony WH-1000Xm2 ราคา 14,990.-

พึ่งจะเปิดตัวไปหมาดๆ สำหรับหูฟัง Sony WH-1000Xm2 รุ่นนี้เป็นรุ่นต่อยอดที่กลบจุดอ่อนรุ่นเดิมได้อย่างมิดชิด กลายเป็นหูฟัง Noise Cancelling ที่น่าจับตามองมากที่สุดในปีนี้ ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม ทันสมัย บวกกับฟองน้ำที่ใส่สบาย และหูฟังที่มีน้ำหนักเบาเพียง 275 กรัม ทำให้คุณสามารถสวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน โดยที่ไม่รู้สึกเมื่อยล้า อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดไฮเทคอย่าง Digital Noise-Cancelling คือหลังจากที่ตัดเสียงรบกวนแล้วจะไม่ทำให้เราหูอื้อ หรือ อีดอัด (หรือได้ยินเสียงวิ้งๆ) ซึ่งแตกต่างจากหูฟังทั่วไปโดยสิ้นเชิง อีกทั้งยังมาพร้อมตัวช่วยปรับความดันสภาพอากาศสำหรับผู้ที่เดินทางโดยเครื่องบินด้วยนั่นเอง แบตเตอรี่สามารถ Standby ได้ถึง 40 ชั่วโมงเลยทีเดียว

อ่านรีวิวเต็ม/สั่งซื้อคลิก!

โดยจุดเด่นของหูฟัง Noise-Cancelling จะอยู่ที่การตัดเสียงรบกวน รวมถึงระบบ Open-Mic ที่เปิดรับเสียงจากภายนอกเข้ามา โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาถอดหูฟังออกเลยทีเดียว ในเรื่องของการใช้งานอย่างรับสาย พูดคุยโทรศัพท์ก็ทำได้อีกเช่นกัน เรียกได้ว่าค่อนข้างครบเครื่องเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถฟังเพลงได้อย่างปกติ ราบรื่น ซึ่งเราสามารถเลือกฟังเพลงที่ทำให้เราเกิดสมาธิอย่างเพลงบรรเลงก็ยังได้นั่นเอง

สายสุขภาพ ออกกำลังกาย หลังเลิกงาน

ปิดท้ายที่สายรักสุขภาพ เลิกงานปุ๊ป ไปวิ่งออกกำลังกาย หรือเข้าฟิตเนสปั๊ป เราก็มีหูฟังออกกำลังกายมาแนะนำกันครับ ซึ่งหูฟังออกกำลังกายที่ว่าเนี่ยก็มีฟังก์ชันสามารถพูดคุยโทรศัพท์ได้ปกติ แม้จะมีงานด่วนเข้ามาก็สามารถรับสายได้อย่างสะดวกนั่นเอง ว่าแต่จะมีตัวไหนบ้างมาชมกันเลย

Aftershokz Trekz Titanium ราคา 3,490.-

สุดยอดหูฟัง นำเทรนด์การฟังเพลงแบบใหม่ อาศัยการสั่นส่งสัญญาณเสียงไปยังกระดูกแทนการยัดหูฟังเข้ารูหูแบบปกติ ได้รับความนิยมสูงเมื่อปีที่ผ่านมา จุดเด่นของ Aftershokz Trekz Titanium คือขณะที่เรากำลังออกกำลังกาย สามารถได้ยินเสียงรอบข้างไปในตัวด้วย สร้างความปลอดภัยได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งตัวหูฟังยังกันเหงื่อได้ปกติ รวมถึงมีไมโครโฟนสำหรับพูดคุยโทรศัพท์ด้วยเช่นกัน สามารถใช้งานได้ทั้งการออกกำลังกายกลางแจ้งและในร่มอย่างในฟิตเนสได้ไม่หวั่นนั่นเอง

อ่านรีวิวเต็ม/สั่งซื้อคลิก!

Jaybird X3 ราคา 5,490.-

ปิดท้ายที่ Jaybird X3 แบรนด์หูฟังออกกำลังกายที่มีเอกลักษณ์ รูปร่างหน้าตาสวยงาม การออกแบบที่หรูหราผสมผสานกับฟังก์ชันการใช้งานที่ลงตัว ด้วยน้ำหนักที่เบา ใส่สบาย บริเวณสายคล้องหลัง มีปุ่มควบคุมการเล่นเพลง พร้อมกับไมโครโฟนสำหรับคุยโทรศัพท์อยู่ ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในส่วนของการใช้งานฟังเพลงปกติ Jaybird X3 สามารถปรับเสียงผ่าน Application Jaybird MySound ได้ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าใช้งานได้หลากหลาย ครบครันจริงๆ

อ่านรีวิวเต็ม/สั่งซื้อคลิก!

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับบทความนี้ หากใครมีหูฟังอื่นๆ ที่อยากนำเสนอให้กับเพื่อนๆ อย่าลืมมาแชร์ความคิดเห็น ผ่านการคอมเม้นท์ที่ Facebook: Mercular.com กันนะครับ ว่าแต่ใครใช้หูฟังรุ่นไหนกันอยู่บ้างเอ่ย?

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2