หนึ่งในเกมมิ่งเกียร์ชิ้นสำคัญที่ช่วยกำชัยชนะในการเล่นเกม คือคีย์บอร์ดกลไก หรือ Mechanical Keyboard ซึ่งมีปัจจัยการทำงานหลักที่ขึ้นอยู่กับสวิทช์หรือตัวส่งสัญญาณของคีย์ต่าง ๆ ที่จะทำให้เกิดความแตกต่างของสัมผัสในการพิมพ์ ความรวดเร็ว และความแม่นยำที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละตัว และด้วยความละเอียดอ่อนนั้นทำให้ผู้ใช้เริ่มมีทางเลือกในการออกแบบสัมผัสบนหน้าคีย์บอร์ดเกมมิ่งเป็นของตัวเอง และเพื่อตอบสนองรสนิยมบนแป้มพิมพ์ของผู้ใช้งานที่หลากหลาย เมื่อเวลาผ่านไปจึงได้เกิดสวิทช์คีย์บอร์ดต่าง ๆ ขึ้นมาหลายรูปแบบและด้วยปริมาณรุ่นอันมหาศาลเหล่านั้นเอง ทำให้เกิดคำถามว่าแล้วสวิทซ์คีย์บอร์ดตัวไหนกันที่ดีที่สุด ?

Cherry MX Switch Keyboard

เริ่มกันที่ Cherry MX เปิดตัวในปี 1985 ของ Cherry ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมคีย์บอร์ด เป็นเพราะความโดดเด่นลื่นไหลและทนทานของตัวสวิทช์คีย์บอร์ดที่ทำให้บริษัทต่าง ๆ เข้ามาจับจองเป็นบริษัทคู่ค้าและพยายามใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นกับคีย์บอร์ดของตัวเอง จากการพัฒนากลไกของคีย์บอร์ดที่ยังไม่มีแนวทางแน่ชัดในยุคนั้นถูก MX Switch ของ Cherry ตีกรอบเข้ามาให้มีทิศทางชัดเจน และเกินการพัฒนาไปในแนวทางเดียวกัน ด้วยความเป็นออริจินัลนี้เอง ทำให้ Cherry มีจำนวนรุ่นของ สวิทช์มากที่สุด และตอบสนองผู้ใข้งานได้ทั่วถึงและกว้างขวาง ตัวชิ้นงานมีความมาตรฐาน โดยให้ความรู้สึกแน่นเนื้อ แม้ว่าจะพิมพ์ลงไปในคีย์แบบ Linear ก็ตาม และยังเป็นที่ไว้วางใจจากผู้ใช้งานทั่วโลกอีกด้วย

ข้อดี

• มีความน่าเชื่อถือ และมาตรฐาน
• มีรุ่นให้เลือกใช้มากมาย
• สามารถหาซื้อหาเปลี่ยนได้ง่าย

รุ่นที่แนะนำ

• Vamilo VA108M (Cherry MX Silver)

Outemu Switch Keyboard

Outemu แบรนด์จากญี่ปุ่นที่ใช้ความเป็นประเทศอุตสาหกรรมเช่นเดียวกันพัฒนาตัวเองขึ้นมาอยู่ในจุดที่เรียกว่าทัดเทียมกับ Cherry ที่เป็น ออริจินัลเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าสวิทช์คีย์บอร์ดส่วนมากจะถูก Cherry กลบ ๆ กระแสไปบ้างแต่ตัว Outemu Red กลับกลายเป็นตัวยอดฮิตอีกตัวหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะตัวสวิทช์ต้องการน้ำหนักมากกว่า Cherry Red มากกว่าเล็กน้อยทำให้ภาพรวมเรื่องความแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิม และทำให้สวิทช์มีความเข้ามือมากกว่า ส่วนรุ่นอื่น ๆ นั้นไม่ต่างกับ Cherry มากนัก ทำให้หลาย ๆ บริษัทก็นำตัว Outemu ไปใช้ในคีย์บอร์ดของตัวเองแทนการสั่งซื้อจาก Cherry

ข้อดี

• คุณภาพเทียบเท่า Cherry
• มีเสียง และสัมผัสที่แตกต่างออกไปเหมาะสำหรับคนรำคาญเสียง Blue ของ Cherry
• ราคาถูก

รุ่นที่แนะนำ

• Nubwo Illusion (Outemu Red)

Logitech Romer-G Switch

การออกแบบตัวกลไกให้มีรูปทรงตาม Cherry นั้นก็เพื่อที่หลาย ๆ บริษัทจะสามารถประหยัดต้นทุนในการพัฒนารูปทรงของ Keycaps หรือตัวแป้นลงไป และใช้ร่วมกับบริษัทอื่น ๆ ได้ แต่บริษัทใหญ่ ๆ หลาย ๆ เจ้าก็มองแตกต่างกันออกไป ทำให้เกิดสวิทช์ที่มีความเฉพาะตัวมากขึ้น เช่น Romer-G ด้วยการออกแบบที่เฉพาะตัว Romer-G  Linear กลายเป็นสวิทช์คีย์บอร์ดที่มีความเร็วในการตอบสนองว่องไวที่สุด และการันตีคุณภาพและความทนทานด้วยชื่อของ Logitech ผู้พัฒนาของมัน ซึ่งในเรื่องของการพิมพ์อาจจะไม่แตกต่างกันมากนักแต่สำหรับเกมเมอร์แล้ว Romer-G เป็นสวิทช์ตัวนึงที่น่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียว

ข้อดี

• การรันตีด้วยแบรนด์ Logitech ใช้ได้นาน ทน และมีคุณภาพ
• ความเร็วการตอบสนองสูงที่สุด

รุ่นที่แนะนำ

• Logitech G613 Wireless (Romer-G Linear)

Buckling Spring

นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ถูกผลิตออกมาเพื่อกระตุ้นตลาดการแข่งขันของคีย์บอร์ดกลไก อันเป็นผลพวงที่เกิดจากการเปิดตัว MX Switch ของ Cherry แล้ว กระแสของการโมดิฟายคีย์บอร์ดกลไกที่ตามมาก็ทำให้ สวิทช์ รุ่นเก่า ที่ใช้งานดีกลับมาบูมอีกครั้ง โดยเฉพาะ Buckling Spring Switch ที่หมดกระแสไปตั้งแต่ปี 1980 แต่ในปัจจุบันผู้ใช้งานคีย์บอร์ด สำหรับพิมพ์ 100 ทั้ง 100 ต่างยกให้เจ้า Buckling Spring กลับมาเป็นสวิทช์สำหรับพิมพ์ที่ดีที่สุดตลอดกาลนั่นเอง

ข้อดี

• คีย์แข็งมีความแม่นยำ และเสียงอันเป็นเอกลักษณ์
• สปริงที่เด้งสู้นิ้ว มีระยะเวลาคืนตัวเร็ว พิมพ์ได้มันมือ
• อายุการใช้งานค่อนข้างนานและมีความคลาสสิค

รุ่นที่แนะนำ

• Unicomp Spacesaver (Buckling Spring)

สรุป

แม้ว่า Cherry จะสร้างมาตรฐานให้กับคีย์บอร์ดกลไกจนเป็นสากล เกิดการจำแนกค่าต่าง ๆ และให้ข้อมูลเหล่านี้แก่ผู้ใช้งานเพื่อตัดสินใจซื้อก็ตาม แต่การตัดสินว่าคีย์สวิทช์ชิ้นไหน หรือของใครเป็นที่สุดนั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้จริง เพราะความแตกต่างของสัมผัสและความรู้สึกนั้นเป็นของเฉพาะคน บางคนอาจจะชอบสัมผัสของ Cherry ที่ถูกจำกัดความไว้ว่ากดสนุกพิมพ์เพลิน หรือความเบาบางและลื่นไหลของ Outemu หรือจะเป็น Buckling Spring ที่มีความคลาสสิค ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ฉะนั้นที่บทความนี้ต้องการนำเสนอก็ทำได้แค่พูดถึงแบรนด์สวิทช์คีย์บอร์ดชั้นนำที่มีคุณภาพ มีส่วนแบ่งการตลาดที่น่าจับตามอง และจุดยืนของตัวเองที่แตกต่างชัดเจนโดดเด่น และสามารถทำงานได้อย่างมีมาตรฐานไม่ทำให้ผู้ซื้อผิดหวังเท่านั้น ส่วนสวิทช์คีย์บอร์ดตัวไหนจะเป็นตัวที่ใช่ผู้ใช้งานก็ต้องลองเลือกด้วยตัวของคุณเอง เพราะสวิทซ์คีย์บอร์ดนั้นก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาทิการเข้ามาของ Optical Switch ก็เป็นอีก 1 ทางเลือกที่เราอยากจะแนะนำให้คุณรู่จัก เช่น Razer Opto Switch ที่มาพร้อมกับสัมผัสที่ลื่นไหล และความทนทานกว่าสวิทซ์ทั่ว ๆ ไป  โดยที่ใครสนใจเจ้าสวิทซ์ตัวนี้สามารถเข้าไปอ่านต่อได้ที่บทความ "Opto-mechanical Switch ใหม่ของ คีย์บอร์ด Razer มีทีเด็ดอะไรบ้าง" ได้เลย