รวม 5 หูฟัง Aftershokz รุ่นไหนดี ที่ควรมีจับจองเป็นเจ้าของ
24 พ.ย. 2565
ในบรรดา หูฟัง ที่มีให้เลือกมากมายหลากหลายประเภทในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น หูฟังมีสาย หูฟังไร้สาย หูฟัง True Wireless และอื่นๆ หลักในเรื่องของการสวมใส่นั้นจะมีให้เลือกอยู่ 4 ประเภทได้แก่ สวมใส่แบบ In Ear, Earbud, Over Ear และ On Ear โดยการสวมใส่แต่ละประเภทก็ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่มีความชื่นชอบแตกต่างกันออกไป เช่น หูฟัง In Ear ก็จะตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการสวมใส่แบบสอดหรือยัดเข้าไปในช่องหู เพื่อเสียงที่ครบถ้วนทุกย่านและทุกรายละเอียด รวมถึงเสียงเล็ดลอดออกจากหูฟังน้อยมากๆ ส่วนหูฟังประเภท Earbud ก็จะตอบโจทย์คนที่ไม่ต้องการสอดหูฟังเข้าไปในช่องหูลึกมากนัก จะเน้นการสวมใส่แบบแปะช่องหูชั้นนอกเป็นหลัก ซึ่งประสบการณ์เสียงที่ได้ก็จะมีย่านเสียงที่เล็ดลอดออกไปพอสมควรซึ่งแลกมากกับการสวมใส่ที่สบายช่องหูนั่นเอง
และนอกจากหูฟังหลายๆ ประเภทที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น หูฟังอีกประเภทที่ต้องบอกเลยว่ามาแรงมากๆ นั่นก็คือ หูฟังแบบเปิดหู Open Ear หรือไม่ต้องสอด ยัด หรือแปะเข้าไปในหู โดยจะใช้เป็นการขับเสียงผ่าน Bone Conduction หรือการสั่นสะเทือนเข้าสู่กระดูกแก้มแทน จากแบรนด์ที่เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่ริเริ่มหูฟังประเภทนี้เลยก็ว่าได้คือแบรนด์ Aftershokz นั่นเอง โดยต้องบอกเลยว่าการขับเสียงผ่านการสั่นสะเทือนของกระดูกแก้มนั้นแม้จะไม่ได้สอดเข้าไปในช่องหู แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนามาอย่างยาวนานทำให้ในปัจจุบันการขับเสียงผ่านการสั่นสะเทือนที่กระดูกแก้มสามารถให้ประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยมไม่น้อยไปกว่าหูฟังแบบทั่วๆ ไปเลยทีเดียว
และเพื่อเป็นการเอาใจผู้ที่กำลังมองหา หูฟัง Aftershokz และยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อหรือจับจองรุ่นใดดี หรือไม่แน่ใจว่ารุ่นใดที่จะเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ในครั้งนี้ mercular.com จึงได้รวบรวมเอา รวม 5 หูฟัง Aftershokz รุ่นไหนดี ที่ควรมีจับจองเป็นเจ้าของ มาแนะนำเป็นตัวเลือกให้กับผู้อ่านทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นใดบ้าง และแต่ละรุ่นจะน่าสนใจแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ
5 หูฟัง Aftershokz ในบทความนี้
หูฟัง Aftershokz OpenMove Sport Headphone
สเปคเด่น
เทคโนโลยีการสั่นสะเทือน: รุ่นที่ 7
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.1
แบตเตอรี่: 6 ชั่วโมง
มาตรฐานกันน้ำ: IP55
รวม 5 หูฟัง Aftershokz รุ่นไหนดี ที่ควรมีจับจองเป็นเจ้าของ รุ่นแรกกับ หูฟัง Aftershokz OpenMove Sport Headphone Shokz OpenMove หูฟังไร้สายขับเสียงผ่านสั่นสะเทือนของกระดูกแก้ม ได้รับการพัฒนาการสั่นสะเทือนและการขับเสียงมาเป็นรุ่นที่ 7 สามารถสวมใส่ได้สบายและกระชับศีรษะด้วยน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 29 กรัมเท่านั้น การเชื่อมต่อเลือกใช้เป็น Blutooth 5.1 เชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายกับทุกอุปกรณ์ และให้ระยะการเชื่อมต่อที่ไกลถึง 10 เมตรโดยไม่มีอะไรกั้น มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ กันเหงื่อ และกันฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP55 จะใส่วิ่งยาวๆ จนเหงื่อชุ่มตัว หรือใส่วิ่งกลางฝนก็บอกได้เลยว่าไม่มีปัญหา สำหรับการสนทนาโทรศัพท์นั้นก็สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัดด้วยไมโครโฟนในตัว ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 6 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ภายในตัว พร้อมปุ่มควบคุมแบบปุ่มกดที่ใช้งานได้สะดวกไม่แพ้ปุ่มกดแบบสัมผัส
ข้อดี
- ขับเสียงผ่านเทคโนโลยี Bone Conduction รุ่นที่ 7
- สวมใส่สบายแบบคาดหลังศีรษะ ไม่บีบหรืออึดอัด
- ควบคุมง่ายทุกความต้องการด้วยปุ่มแบบกด
- เสียงทรงพลัง ปรับจูนมาเป็นอย่างดีโดยเฉพาะย่านเบส
ข้อควรระวัง
- เสียงอาจจะไม่ได้ดังมากเท่าหูฟังประเภทอื่นๆ
- สำหรับบางคนใส่ไปนานๆ อาจปวดโหนกแก้มได้
หูฟัง Aftershokz OpenRun Sport Headphone
สเปคเด่น
เทคโนโลยีการสั่นสะเทือน: รุ่นที่ 8
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.1
แบตเตอรี่: 8 ชั่วโมง
มาตรฐานกันน้ำ: IP67
รุ่นที่ 2 ของ รวม 5 หูฟัง Aftershokz รุ่นไหนดี ที่ควรมีจับจองเป็นเจ้าของ กับ หูฟัง Aftershokz OpenRun Sport Headphone หูฟังไร้สายขับเสียงผ่าน Bone Conduction ที่ได้รับการพัฒนาการสั่นสะเทือนมาเป็นรุ่นที่ 8 สวมใส่ได้สบายและกระชับศีรษะด้วยน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 26 กรัมเท่านั้น การเชื่อมต่อมาพร้อม Bluetooth เวอร์ชัน 5.1 ที่สามารถเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายทุกอุปกรณ์ ตอบโจทย์ทั้งฟังเพลง ดูหนัง และเล่นเกมครบจบในตัวเดียว มาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำ กันเหงื่อ และกันฝุ่น IP67 สามารถล้างน้ำได้แต่ไม่สามารถใส่ว่ายน้ำได้ ด้านการสนทนาโทรศัพท์รับเสียงได้อย่างคมชัดด้วยไมโครโฟนในตัว ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 8 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ภายในตัว ใส่วิ่งได้ยาวๆ หรือจะออกกำลังกายยาวๆ ก็ไม่มีปัญหาเพราะแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้อย่างยาวนานถึงครึ่งวัน
ข้อดี
- ขับเสียงผ่านเทคโนโลยี Bone Conduction รุ่นที่ 8
- สวมใส่สบายแบบคาดหลังศีรษะ ไม่บีบหรืออึดอัด
- ควบคุมง่ายทุกความต้องการด้วยปุ่มแบบกด
- เสียงทรงพลัง ปรับจูนมาเป็นอย่างดีโดยเฉพาะย่านเบส
ข้อควรระวัง
- เสียงอาจจะไม่ได้ดังมากเท่าหูฟังประเภทอื่นๆ
- สำหรับบางคนใส่ไปนานๆ อาจปวดโหนกแก้มได้
หูฟัง Aftershokz OpenSwim Sport Headphone
สเปคเด่น
เทคโนโลยีการสั่นสะเทือน: รุ่นที่ 8
การเชื่อมต่อ: ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย
แบตเตอรี่: 8 ชั่วโมง
มาตรฐานกันน้ำ: IP68
รวม 5 หูฟัง Aftershokz รุ่นไหนดี ที่ควรมีจับจองเป็นเจ้าของ รุ่นที่ 3 กับ หูฟัง Aftershokz OpenSwim Sport Headphone หูฟัง Bone Conduction จาก Aftershokz ที่ได้รับการพัฒนาระบบการสั่นสะเทือนมาเป็นรุ่นที่ 8 สวมใส่ได้สบายสามารถใส่ไว้ใต้หมวกว่ายน้ำได้ไม่มีปัญหา และมาพร้อมน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 30 กรัมเท่านั้น ด้านการเชื่อมต่อในรุ่นนี้ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายใดๆ ทั้งสิ้นด้วยข้อจำกัดเรื่องการส่งสัญญาณขณะสวมใส่ว่ายน้ำนั่นเอง แลกมาด้วยหน่วยความจำภายในตัวที่มากถึง 4Gb สำหรับเก็บไฟล์เพลงสำหรับเปิดขณะว่ายน้ำ โดยรองรับสกุลไฟล์คุณภาพสูงอย่างครบครันทั้ง MP3, WMA, FLAC, WAV และ AAC มาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำ กันเหงื่อ และกันฝุ่น IP68 หรือก็คือสวมใส่ว่ายน้ำได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำใดๆ ทั้งสิ้น ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 8 ชั่วโมง ใส่ว่ายน้ำได้ยาวๆ เกือบครึ่งวันก็ไม่มีปัญหา
ข้อดี
- ขับเสียงผ่านเทคโนโลยี Bone Conduction รุ่นที่ 8
- ใส่ว่ายน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่ต้องกังวล
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บไฟล์เพลงถึง 4GB
- ควบคุมง่ายทุกความต้องการด้วยปุ่มแบบกด
ข้อควรระวัง
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายใดๆ ทั้งสิ้น
- เสียงอาจจะไม่ได้ดังมากเท่าหูฟังประเภทอื่นๆ
หูฟัง Aftershokz OpenRun Pro Sport Headphone
สเปคเด่น
เทคโนโลยีการสั่นสะเทือน: รุ่นที่ 9
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.1
แบตเตอรี่: 10 ชั่วโมง
มาตรฐานกันน้ำ: IP55
รุ่นที่ 4 ของ รวม 5 หูฟัง Aftershokz รุ่นไหนดี ที่ควรมีจับจองเป็นเจ้าของ กับ หูฟัง Aftershokz OpenRun Pro Sport Headphone หูฟัง Bone Conduction จาก Aftershokz ที่ได้รับการพัฒนาระบบการสั่นสะเทือนมาเป็นรุ่นที่ 9 สามารถสวมใส่ได้สบายและกระชับศีรษะด้วยน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 29 กรัม ด้านการเชื่อมต่อมาพร้อม Bluetooth เวอร์ชัน 5.1 เชื่อมต่อได้อย่างเสถียรและให้ระยะการเชื่อมต่อที่ไกลถึง 10 เมตรโดยไม่มีอะไรกั้น มาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำ กันเหงื่อ และกันฝุ่น IP55 รวมถึงด้านการสนทนาโทรศัพท์ก็สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัดด้วยเช่นกันด้วยไมโครโฟนคู่ในตัวพร้อมเทคโนโลยี Noise-Canceling ที่สามารถตัดเสียงแทรกได้เป็นอย่างดี สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 10 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ภายในตัว
ข้อดี
- ขับเสียงผ่านเทคโนโลยี Bone Conduction รุ่นที่ 9
- สวมใส่สบายแบบคาดหลังศีรษะ ไม่บีบหรืออึดอัด
- ควบคุมง่ายทุกความต้องการด้วยปุ่มแบบกด
- เสียงทรงพลัง ปรับจูนมาเป็นอย่างดีโดยเฉพาะย่านเบส
ข้อควรระวัง
- เสียงอาจจะไม่ได้ดังมากเท่าหูฟังประเภทอื่นๆ
- สำหรับบางคนใส่ไปนานๆ อาจปวดโหนกแก้มได้
หูฟัง Aftershokz OpenComm Bluetooth Headset
สเปคเด่น
เทคโนโลยีการสั่นสะเทือน: รุ่นที่ 7
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.1
แบตเตอรี่: 16 ชั่วโมง
มาตรฐานกันน้ำ: IP55
รุ่นสุดท้ายของ รวม 5 หูฟัง Aftershokz รุ่นไหนดี ที่ควรมีจับจองเป็นเจ้าของ กับ หูฟัง Aftershokz OpenComm Bluetooth Headset หูฟัง Bone Conduction จาก Aftershokz ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งาน Call Center โดยเฉพาะ สวมใส่แบบคาดไปทางด้านหลังศีรษะและได้รับการพัฒนาการสั่นสะเทือนและการขับเสียงมาเป็นรุ่นที่ 7 สวมใส่ได้สบายและกระชับศีรษะด้วยน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 33 กรัมเท่านั้น มาพร้อมจุดเด่นคือไมโครโฟนบูมและก้านที่ยื่นออกมาพอดีกับช่องปาก ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีตัดเสียงแทรก ทำให้เสียงพูดที่ได้นั้นมีความคมชัดสูงมาก ไม่พลาดทุกการสนทนา ด้านการออกกำลังกายมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ กันเหงื่อ และกันฝุ่น IP55 การเชื่อมต่อเลือกใช้เป็น Blutooth 5.1 เชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายกับทุกอุปกรณ์ และให้ระยะการเชื่อมต่อที่ไกลถึง 10 เมตร ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 16 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ภายในตัว ใช้เวลาในการชาร์จเพียง 1 ชั่วโมงจาก 0 - 100% เท่านั้น
ข้อดี
- ขับเสียงผ่านเทคโนโลยี Bone Conduction รุ่นที่ 7
- Boom Mic พร้อมฟังก์ชันตัดเสียงแทรก
- แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่อง 16 ชั่วโมง
- ควบคุมง่ายทุกความต้องการด้วยปุ่มแบบกด
ข้อควรระวัง
- เสียงอาจจะไม่ได้ดังมากเท่าหูฟังประเภทอื่นๆ
- สำหรับบางคนใส่ไปนานๆ อาจปวดโหนกแก้มได้
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ รวม 5 หูฟัง Aftershokz รุ่นไหนดี ที่ควรมีจับจองเป็นเจ้าของ ที่ทาง mercular.com ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าเป็น หูฟัง Aftershokz ที่ไม่เพียงแต่ขับเสียงผ่านการสั่นสะเทือนของกระดูกแก้มเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่จัดเต็ม ตอบโจทย์ครบถ้วนทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการสวมใส่ที่กระชับ สบายหู สวมใส่ได้ต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่ต้องยัดหรือสอดเข้าไปในหู ฟังก์ชันการเชื่อมต่อไร้สาย มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน ที่สำคัญคือมาพร้อมแนวเสียงที่พูดได้ว่าดี ฟังสนุก ให้เสียงที่ครบถ้วนทุกย่านและทุกรายละเอียดไม่แพ้กับหูฟังแบบทั่วๆ ไป รับรองได้ว่าทั้ง 5 รุ่นที่นำมาแนะนำนั้นตอบโจทย์คนที่มองหา หูฟัง Aftershokz และไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีอย่างแน่นอนครับ
ซึ่งทาง mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา หูฟัง Aftershokz ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง หูฟัง Aftershokz รุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ