แนะนำ 4 ชุดโฮมเธียเตอร์ รุ่นไหนดี? เสียงกระหึ่ม มิติเสียงสมจริง

8 พ.ย. 2565

แนะนำ 4 ชุดโฮมเธียเตอร์ รุ่นไหนดี? เสียงกระหึ่ม มิติเสียงสมจริง

ในปัจจุบันการรับชมภาพยนตร์นั้นมีการพัฒนาทางเทคโนโลยีไปไกลมาก จากเดิมที่จะต้องไปรับชมที่ภาพยนตร์ ออกไปซื้อหรือเช่าแผ่น DVD, Blu-Ray ให้วุ่นวายกลายเป็นสามารถรับชมภาพยนตร์และซีรีส์ได้หลากหลายเรื่องจากที่บ้าน ด้วยเทคโนโลยีการ Streaming ผ่านแอปต่างๆ เช่น Netflix, Amazon Prime, Disney+ hotstar และอื่นๆ นั่นเอง ที่ไม่เพียงแค่สามารถรับชมภาพยนตร์หลากหลายเรื่องได้จากที่บ้านเท่านั้น แต่ในเรื่องระบบเสียงก็ถูกพัฒนาเทคโนโลยีไปไกลๆ มาก ทำให้ระบบเสียงจากแอปดูหนังต่างๆ ได้รับการพัฒนาไปอีกไกล เพราะไม่เพียงแค่ระบบเสียง Stereo เท่านั้น แต่หลายๆ แอปยังมาพร้อมระบบเสียงรอบทิศทางแบบเดียวกับในโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ Surround 5.1 ไปจนถึง Dolby Atmos เลยทีเดียว ซึ่งการจะรับชมภาพยนตร์ให้ได้ประสบการณ์เสียงรอบทิศทางแบบเดียวกับในโรงภาพยนตร์นั้น จำเป็นต้องมีระบบลำโพงที่สามารถขับเสียงได้รอบทิศทางแบบเดียวกับในโรงภาพยนตร์ ซึ่งตรงนี้ทำให้ลำโพงแบบชุดโฮมเธียเตอร์เข้ามามีบทบาทนั่นเอง


และเพื่อเป็นการเอาใจผู้ที่กำลังมองหา ชุดโฮมเธียเตอร์ และยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อหรือจับจองรุ่นใดดี หรือไม่แน่ใจว่ารุ่นใดจะมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่นเหมาะกับตนเองมากที่สุด จาก ชุดโฮมเธียเตอร์ หลากหลายรุ่นที่มีให้ได้เลือกซื้อและจับจองเป็นเจ้าของ ในครั้งนี้ mercular.com จึงได้รวบรวมเอา แนะนำ 4 ชุดโฮมเธียเตอร์ รุ่นไหนดี? เสียงกระหึ่ม มิติเสียงสมจริง มาแนะนำเป็นตัวเลือกให้กับผู้อ่านทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นใดบ้าง และแต่ละรุ่นจะน่าสนใจแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ


4 ชุดโฮมเธียเตอร์ ในบทความนี้


ชุดลำโพง Sony HT-A9 Home Theater

สเปคเด่น


การเชื่อมต่อ: Bluetooth, WiFi, Ethernet, HDMI eARC, S-Center Out


ระบบเสียง: 12 Channel


Subwoofer: ไม่มี

แนะนำ 4 ชุดโฮมเธียเตอร์ รุ่นไหนดี? เสียงกระหึ่ม มิติเสียงสมจริง รุ่นที่ 1 กับ ชุดลำโพง Sony HT-A9 Home Theater ชุดโฮมเธียเตอร์ขนาดกะทัดรัด ที่แม้จะมีตัวลำโพงเพียงแค่ 4 ตัว แต่ด้วยเทคโนโลยี 360 Spatial Sound Mapping ของ Sony ทำให้สามารถขับเสียงได้ในระบบเสียงแบบ 12 Channel เลยทีเดียว รองรับระบบเสียงรอบทิศทางสมจริงทั้ง Dolby Atmos® และ DTS:X ตัวลำโพงมีเพียง 4 ตัวพร้อมระบบวัดตำแหน่งผ่านไมโครโฟนคู่ภายในทำให้สามารถจูนระดับเสียงให้ถูกต้องและพอดีได้เองโดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องจัดวางให้ทำมุมพอดีหรือหาโต๊ะมาตั้งให้ลำโพงสูงพอดีกัน เหมาะกับการใช้งานในห้องแทบทุกประเภทที่มีขนาดและรูปทรงของห้องที่แตกต่างกัน การเชื่อมต่อครบครันทั้งไร้สายและมีสาย โดยส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายนั้นรองรับ Bluetooth และ WiFi การเชื่อมต่อแบบมีสายนั้นรองรับการเชื่อมต่อ HDMI eARC รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อ Ethernet ด้วยเช่นกัน รองรับบริการ Streaming ต่างๆ อย่างครบครัน ส่วนของสเปกและการขับเสียงมาพร้อมกับเทคโนโลยี Sound Field Optimization สำหรับการตรวจวัดระยะห่างระหว่างลำโพงและเพดานเพื่อการขับเสียงที่ถูกต้อง สมจริง และเหมาะกับรูปแบบห้อง ส่วนภายในประกอบไปด้วย Up-firing (X-Balanced Speaker Unit) สำหรับขับเสียงขึ้นเพดาน, Wide Directivity Woofer (X-Balanced Speaker Unit) หรือ วูฟเฟอร์ทิศทางเสียงกว้าง ที่ออกแบบมาให้ขับเสียงเบสได้มีมิติ กว้าง และสมจริงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี DSEE Extreme™ (Digital Sound Enhancement Engine) ที่จะปรับเสียงจากไฟล์ความละเอียดต่ำให้มีความใกล้เคียงกับเสียงต้นฉบับหรือเสียงระดับ Hi-Res

ชุดลำโพง Sony HT-A9 Home Theater เสียงดี

ลำโพง Klipsch Cinema 1200 Sound Bar

สเปคเด่น


การเชื่อมต่อ: Bluetooth, Wifi, HDMI eARC, HDMI, Optical, AUX/3.5 mm.


ระบบเสียง: 5.1.4 Channel


Subwoofer: มี

รุ่นที่ 2 จาก แนะนำ 4 ชุดโฮมเธียเตอร์ รุ่นไหนดี? เสียงกระหึ่ม มิติเสียงสมจริง กับ ลำโพง Klipsch Cinema 1200 Sound Bar ภายในประกอบด้วยไดร์เวอร์ขับเสียงทั้งหมด 9 ตัว แบ่งเป็น Midrange fiber composite 6 ตัว และ Tweeter แบบ Horn-loaded ที่เป็น Tweeter เอกลักษณ์ของแบรนด์ Klipsch ถึง 3 ตัว นอกจากมียังมีลำโพงสำหรับยิงเสียงขึ้นเพดานเพื่อสร้างระบบเสียงแบบ Dolby Atmos โดยเฉพาะอีก 2 ตัว ในส่วนของลำโพง surround คู่หลังนั้นเชื่อมสัญญาณแบบไร้สาย ติดตั้งไดร์เวอร์ขนาด 3 นิ้วและไดร์เวอรร์ระบบ Dolby Atmos เช่นเดียวกัน ในส่วนของ Subwoofer ได้ใช้ดอกลำโพงขนาดใหญ่ถึง 12 นิ้ว พร้อมกับแอมป์พลังสูงถึง 1,200 วัตต์ ให้เบสลูกใหญ่ กระชับ สะอาด ไม่มีอาการเบลอหรือเก็บตัวไม่ทันให้เห็น มาในดีไซน์สุดเท่ในโทนสีดำสนิท ผสมผสานความคลาสสิกสิกอันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์เข้ากับความทันสมัยได้อย่างน่ามอง ลำโพงทุกตัวในชุดทำจากไม้จริง ซึ่งช่วยในเรื่อง resonance ของเสียงให้มีความเป็นธรรมชาติ ลดการสั่นสะเทือนและ noise ได้เป็นอย่างดี ด้านการเชื่อมต่อมี Input แบบ Digital ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นแบบ HDMI eARC และยังมีช่องต่อแบบ HDMI Input ให้อีก 2 ช่อง นอกจากนี้ยังมีระบบ pass-through ที่รองรับได้ถึงความละเอียดแบบ 8K และรองรับการใช้งาน Input แบบ optical ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายนั้นสามารถทำได้ทั้งผ่าน Bluetooth และ Wi-Fi รองรับการเล่นแบบ Multi-Room ด้านแนวเสียงมาพร้อมระบบเสียง 5.1.4 แชนแนล ที่ใช้ซอฟต์แวร์จำลองให้เป็นเสียงแบบ 7.1.4 แชนแนล รองรับระบบ Dolby Vision HDR ช่วยให้ระบบ Home Cinema ที่บ้านนั้นใกล้เคียงกับโรงภาพยนตร์ขึ้นไปอีกระดับ และแน่นอนว่ามาพร้อม Surround Mode ที่เป็นการถอดรหัสเสียงเป็นระบบ Dolby Atmos 7.1.4 แชนแนล

ลำโพง Klipsch Cinema 1200 Sound Bar เสียงดี

ลำโพง Klipsch Cinema 800 + Surround 3 Sound Bar

สเปคเด่น


การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Ethernet, Bluetooth, HDMI-ARC, HDMI-eARC, AUX/3.5 mm., Optical Digital, RCA (Subwoofer Output)


ระบบเสียง: 5.1 Channel


Subwoofer: มี

รุ่นที่ 3 จาก แนะนำ 4 ชุดโฮมเธียเตอร์ รุ่นไหนดี? เสียงกระหึ่ม มิติเสียงสมจริง กับ ลำโพง Klipsch Cinema 800 + Surround 3 Sound Bar ชุดโฮมเธียเตอร์ไร้สายที่มาพร้อม Subwoofer ไร้สายด้วยเช่นกัน มาพร้อมขนาดที่ W: 48” x H: 2 ⅞” x D: 3 ⅜” หรือความยาวที่ 48 นิ้ว ส่วน Subwoofer อยู่ที่ W: 14 ¼” x H: 18 ½” x D: 14 ½” วัสดุเลือกใช้เป็นไม้แท้พร้อมรูปทรงแบบแท่งยาวที่คลาสสิคเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Klipsch ตอบโจทย์การใช้งานกับ TV ขนาด 48 นิ้วขึ้นไป และตอบโจทย์การวางในทุกห้องด้วยรูปร่างหน้าตาสุดคลาสสิค สามารถตั้งวางได้ทั้งบนตู้และแขวนติดผนังได้ตามต้องการ ด้านการเชื่อมต่อก็ให้มาอย่างครบถ้วนทั้งไร้สายและมีสายแบบที่ครบจบในตัวเดียว โดยการเชื่อมต่อไร้สายนั้นใช้ผ่าน Wi-Fi สำหรับใช้งานเป็นลำโพงอัจฉริยะและใช้งานเป็นลำโพง Multi-Roomรวมถึงเชื่อมต่อไร้สายได้ผ่าน Bluetooth ด้วยเช่นกัน ด้านการเชื่อมต่อมีสายก็ครบครันทั้ง HDMI-eARC ที่รองรับการส่งสัญญาณภาพผ่านแบบ 8K HDR Passthrough และเสียงผ่าน AUX/3.5 mm., Optical Digital รวมถึงเชื่อมต่อ Subwoofer แบบมีสายผ่าน RCA ได้อีกด้วย ด้านไดรเวอร์ประกอบไปด้วย ไดรเวอร์เสียงสูงทีเลือกใช้ Tweeters แบบ Soft Dome ขนาด 1” 3 ตัว ควบคู่ไป Tractrix® horns อันเป็นเอกลักษณ์ของ Klipsch และไดรเวอร์เสียงกลางเลือกใช้ไดรเวอร์แบบ Oval Fiber Composite Cone Woofers ขนาด 3” 4 ตัว ส่วน Subwoofer มาพร้อมไดรเวอร์ Woofer ขนาด 10” ที่ต้องบอกเลยว่าใหญ่และยิงเบสได้กระหึ่มถึงใจสุดๆ ขับเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos 5.1 ให้ประสบการณ์ไม่แพ้ในโรงภาพยนตร์แน่นอน

ลำโพง Klipsch Cinema 800 + Surround 3 Sound Bar เสียงดี

ลำโพง Klipsch Cinema 600 + Surround 3 Soundbar

สเปคเด่น


การเชื่อมต่อ: Bluetooth, HDMI ARC, AUX/3.5 mm., Optical


ระบบเสียง: 5.1 Channel


Subwoofer: มี

แนะนำ 4 ชุดโฮมเธียเตอร์ รุ่นไหนดี? เสียงกระหึ่ม มิติเสียงสมจริง รุ่นสุดท้ายกับ ลำโพง Klipsch Cinema 600 + Surround 3 Soundbar ชุดโฮมเธียเตอร์ที่ให้เสียงกระหึ่ม สมจริง พร้อมรูปลักษณ์สุดคลาสสิค ตั้งวางไว้บริเวณใดก็ดูน่าหลงใหล เชื่อมต่อง่ายดายและครบครันทั้งมีสายและไร้สาย มีขนาดอยู่ที่ 45 นิ้ว ทำให้เหมาะใช้งานกับ TV ขนาด 45 นิ้วขึ้นไป ส่วนของเรื่องเสียงทำได้กระหึ่มและดังถึงใจ จะเป็นห้องนอนขนาดใหญ่เตียง King Size หรือห้องนั่งเล่น ขนาด 4 ตารางเมตรขึ้นไป ไปจนถึงห้องทานข้าวแบบโต๊ะใหญ่นั่ง 6 คนขึ้นไปก็ไม่มีปัญหา ให้เสียงที่ดังกระหึ่มถึงใจแน่นอน เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่มาตอบโจทย์คนที่มีห้องกว้างๆ นั่นเอง โดยเฉพาะเมื่อเพิ่มลำโพง Surround เข้าไปเพิ่มเป็นระบบเสียง True Surround 5.1 รวมถึงการเชื่อมต่อก็ง่ายดายและเป็นแบบไร้สายเพียงเสียบ Dongle ของ Surround 3 เข้าที่ด้านข้างของ Klipsch Cinema 600 จากนั้นกด Pair ก็เป็นอันเชื่อมต่อเรียบร้อย ตัว Surround จะเชื่อมต่อและประมวลผลออกมาเป็นระบบเสียง 5.1 ให้โดยอัตโนมัติ โด เมื่อเพิ่มเสียงเข้ามาเป็น 5.1 จากมิติเสียงเดิม 3.1 ที่ก็กว้างและแจกแจงได้อย่างแม่นยำแล้ว ก็ยิ่งกว้างและมีรายละเอียดที่สมจริงมากยิ่งขึ้นไปอีก ทิศทางเสียงทั้งหน้าและหลังพุ่งมาอย่างแม่นยำ เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับความเป็นจริงอย่างมาก ยิ่งใช้รับชมภาพยนตร์ที่มีระบบเสียง Dolby Digital 5.1 ก็ต้องบอกเลยว่าให้ความรู้สึกแบบเดียวกับรับชมในโรงหนังแบบไม่ต่างกัน ตรงนี้ต้องบอกเลยว่า Klipsch ทำมาดีจริงๆ

ลำโพง Klipsch Cinema 600 + Surround 3 Soundbar เสียงดี

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ แนะนำ 4 ชุดโฮมเธียเตอร์ รุ่นไหนดี? เสียงกระหึ่ม มิติเสียงสมจริง ที่ทาง mercular.com ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าเป็น ชุดโฮมเธียเตอร์ ที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่มีความพรีเมียม เรียบหรู เป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์แบรนด์นั้นๆ ฟังก์ชันการใช้งานที่จัดเต็มทั้งในเรื่องการเชื่อมต่อที่ครบครันทั้งไร้สายและมีสาย ระบบเสียงที่มีความสมจริงให้ประสบการณ์แบบเดียวกับการรับชมในโรงภาพยนตร์ ที่พูดได้เลยว่าทั้ง 4 รุ่นที่นำมาแนะนำนั้นตอบโจทย์คนที่มองหา ชุดโฮมเธียเตอร์ และไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีอย่างแน่นอนครับ


ซึ่งทาง mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา ชุดโฮมเธียเตอร์ ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง ชุดโฮมเธียเตอร์ รุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2