ทำความรู้จัก Truly Wireless ว่าที่หูฟังแห่งอนาคต

9 พ.ย. 2560

ทำความรู้จัก Truly Wireless ว่าที่หูฟังแห่งอนาคต

ในช่วงปีที่ผ่านมาหลังจากที่ Apple เปิดตัวหูฟัง Airpod ไปก็เรียกเสียงฮือฮาในวงการหูฟังเป็นอย่างมาก เพราะไม่รู้ว่าจะเรียกเจ้า Airpod นี้เป็นหูฟังประเภทไหนดี? บ้างก็บอกว่ามันคือหูฟัง Earbud แบบไร้สาย บางที่ก็บอกว่ามันเป็นหูฟัง Hybrird ที่ผสมผสานระหว่างหูฟัง Earbud และหูฟัง In-Ear โดยใส่เทคโนโลยีไร้สายเข้ามานั่นเอง แต่ในที่สุดหูฟังที่มีลักษณะคล้ายๆ Airpods ก็มีคำนิยามอย่างเป็นทางการเสียที ซึ่งในบทความนี้ Mercular.com จะพามาทำความรู้จักกับ หูฟังประเภทนี้ที่ได้ชื่อว่า Truly Wireless หรือ True Wireless กันครับ

หูฟัง True Wireless คืออะไร?

สำหรับหูฟัง Truly Wireless เป็นหูฟังไร้สายที่มีลักษณะคล้ายกับหูฟัง In-Ear และ Earbud จุดเด่นอยู่ที่ความสะดวกสบายในการใช้งานเนื่องจากมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก อีกทั้งยังไม่มีสายมากวนใจเวลาใช้งานอีกด้วย โดยการใช้งานหูฟังประเภทนี้ก็ง่ายแสนง่าย เพียงเชื่อมต่อหูฟังกับเครื่องเล่นเพลง ผ่านสัญญาณบลูทูธ เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานได้ทันที ส่วนใหญ่แล้วหูฟัง Truly Wireless จะรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth เวอร์ชั่น 4.0 ขึ้นไป (ถ้าให้ดีต้อง Bluetooth 5.0) ดังนั้นหากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อรองรับ Bluetooth 4.0 ขึ้นไป ก็หมดปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อที่ไม่เสถียรได้เลยครับ สามารถฟังเพลงได้อย่างยาวนานโดยอาศัยการชาร์จเพียงครั้งเดียวนั่นเอง

ในปัจจุบันหูฟัง Truly Wireless ที่เราเห็นในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็น Apple Airpods, Beoplay E8 3rd Gen, Jabra Elite Sport หรือแบรนด์น้องใหม่อย่าง Huawei Freebuds 3 ต่างก็มีเอกลักษณ์ทั้งในเรื่องของเสียงและฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เช่น Airpods และ Huawei Freebuds มักจะเจาะกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานฟังเพลงทั่วไปมากกว่า ส่วน Jabra และ Plantronics เอง จะออกไปในแนวหูฟังออกกำลังกาย ซึ่งตรงจุดนี้ทั้งสองแบรนด์ทำได้เยี่ยมมากในแง่ของฟังก์ชันต่างๆที่อัดเข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Jabra Elite75t ตัวใหม่ที่พึ่งเปิดตัวกับ Mercular.com ไปล่าสุด ถือว่าเป็นหูฟังออกกำลังกาย Truly Wireless ที่อัจฉริยะแห่งปี 2020 นี้เลยก็ว่าได้ครับ

เสียงดีจริงไหม สู้หูฟังมีสายได้รึเปล่า?

อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่าหูฟัง Truly Wireless ในปัจจุบันใช้สัญญาณบลูทูธเวอร์ชัน 4.0 ขึ้นไปหมดแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่รองรับ apt-X โดยปริยาย ซึ่งเจ้า Bluetooth apt-X ที่ว่าเนี้ย สามารถส่งข้อมูลได้เร็ว (3 Mbps) และมีอัตราการ Streaming คุณภาพสูงสุดที่ 44.1kHz/16bit ซึ่งเทียบเท่ากับคุณภาพที่เราเล่นจากแผ่น CD Audio เลยทีเดียว ดังนั้นถ้ามองในเรื่องคุณภาพเสียงที่ส่งออกมาแล้ว ถือว่าเสียงดีสู้หูฟังทั่วไปได้เลยทีเดียว โดยกรณีนี้เครื่องเล่นเพลงต้องรองรับ apt-X ด้วยนะครับ หากมีคุณภาพต่ำกว่า ก็จะไม่สามารถส่งสัญญาณให้เสถียรได้นั่นเอง และจุดที่สำคัญที่สุดคือไฟล์เพลง หากใช้หูฟัง คุณภาพดีแค่ไหน แต่ไฟล์เพลงคุณภาพต่ำ ก็ไม่สามารถเล่นเพลงที่ไพเราะออกมาได้ครับ

ทำไมจึงเป็นหูฟังแห่งอนาคต?

ในอนาคตอันใกล้นี้เทคโนโลยีไร้สายจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกเลย หูฟังไร้สายจะมาแทนหูฟังแบบมีสายแน่นอน ความสะดวกสบายในการใช้งานจะมาเป็นอันดับหนึ่ง เริ่มจากสมาร์ทโฟนที่พัฒนาการชาร์จแบบไร้สาย รวมถึงหูฟัง Truly Wireless ที่พัฒนาออกมาเรื่อยๆ ทั้ง Apple Samsung, Xiaomi, Huawei ต่างก็ออกหูฟังของตัวเองมา และตอบโจทย์ในเรื่องของเสียงได้อย่างเต็มที่ ซึ่งตรงจุดนี้แบรนด์หูฟังยักษ์ใหญ่ต่างออกหูฟังเข้าสู่ตลาด True Wireless Stereo เป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็น Sony เองที่ส่ง Sony WF-1000XM3 ลงสู่สนามรับศึกหนักกับ Airpods Pro ในด้านของโหมดตัดเสียงรบกวน (Active Noise-Cancelling)  หรือแม้กระทั่งด้านเกมมิ่ง ก็มีหูฟัง True Wireless สำหรับเล่นเกมออกมาอย่าง Razer Hammerhead True Wireless ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างมากจากเกมเมอร์

สรุปเหตุผลง่ายๆ ที่ส่ง Truly Wireless ให้เป็นหูฟังแห่งอนาคต

  1. ความสะดวกสบายในการใช้งานมากกว่าหูฟังทุกประเภท
  2. เสียงดีทัดเทียมหูฟังแบบมีสายหรือหูฟังประเภทอื่นๆ
  3. ราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ เนื่องจากมีการแข่งขันสูง
  4. มีฟังก์ชันที่คุ้มค่า ครอบคลุมทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน
  5. การลงทุนในตลาดค่อนข้างสูง ทำให้มีโอกาสพัฒนา เติบโตได้อีกมาก

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับบทความเกี่ยวกับหูฟังไร้สาย Truly Wireless ที่ได้นำเสนอไป หากใครที่กำลังมองหาอยู่ในท้องตลาด ณ ตอนนี้มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกเลยไม่ว่าจะเป็น Sony WF-1000XM3, Jabra Elite 75t, Huawei Freebud3 หากใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือมีเนื้อหาอยากแบ่งปันเพิ่มเติม สามารถแนะนำหรือติชมมาที่ Facebook: Mercular.com ได้เลยครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2