เชื่อว่าคนที่ชอบเที่ยวแนวลุยๆ ล้วนแล้วแต่อยากมีภาพสวย ๆ มาอวดเพื่อน ๆ ในโซเชียลกันอย่างแน่นอน แต่หลายครั้งก็ไม่มีภาพถ่ายความสนุก สวย ๆ ติดมือมาฝากกัน นั้นเพราะมีข้อจำกัดเรื่องของกล้องถ่ายภาพ กับสถานที่ ที่ไปเยือนไม่เอื้ออำนวย ซึ่งปัจจุบันมีการประดิษฐ์กล้อง Action Camera สุดแกร่ง ที่พร้อมจะลุยกับเราไปทุกหน ทุกแห่ง ทุกสภาพอากาศก็สามารถเก็บภาพบรรยากาศหรือบันทึกเรื่องราวทุกเหตุการณ์ของเรามาได้อย่างที่ไม่ทำให้เราผิดหวัง ซึ่งทุกวันนี้ศึกชิงตลาด Action Camera อันดุเดือดกำลังเป็นที่จับตามองว่าระหว่าง Yi Camera หรือ Go Pro ใครจะเป็นเจ้าตลาด Action Camera กันแน่ วันนี้เรามาจะมาเปรียบเทียบกันให้ทุกคนเห็นเลยว่า Yi Camera หรือ Go Pro ใครมีจุดเด่นหรือจุดด้อยอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย

 

Action Camera คืออะไร

Action Camera ก็คือ กล้องถ่ายรูปรูปแบบหนึ่ง ที่สามารถพกพาไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ง่าย รวมทั้งยังสามารถใช้เก็บภาพประทับใจทั้งภาพนิ่งหรือภาพวีดีโอได้ แม้ในตอนนั้นจะทำกิจกรรมแบบ Xtream ด้วยการเคลื่อนไหวไปด้วยก็ตาม โดยคุณสมบัติหลัก ๆ ของกล้องประเภทนี้คือมีความสามารถในการกันน้ำได้ หรือถ่ายใต้น้ำได้ สามารถเก็บภาพได้มุมกว้าง มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก จึงทำให้กล้องประเภทนี้กำลังได้รับความนิยมและมีส่วนแบ่งทางการตลาดกล้องถ่ายภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ

เปรียบเทียบ Yi Camera และ Go Pro ใครเจ๋งกว่ากัน ?

โดยกล้อง Action Cam จาก 2 ยี่ห้อดังที่เราจะนำมาเปรียบเทียบกันในวันนี้ว่าข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้างคือ ระหว่าง Hero 5 จากยี่ห้อ GoPro และ YI 4K จาก Xiaomi ที่ก็เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อตอนกลางปี 2016 จะมีข้อดี ข้อเสียต่างกันอย่างไรบ้างไปดูกันเลย

• ดีไซน์และการออกแบบภายนอก
  สำหรับ GoPro Hero 5 รุ่นนี้มีการเปรียบเปลี่ยนรูปร่างเล็กน้อย ด้วยการปรับขอบให้ดูโค้งมนและเรียบหรูยิ่งขึ้น หน้าจอด้านหลังเป็นระบบสัมผัส (จอ Touch screen) ส่วน Xiaomi YI 4K รูปร่างจะออกเป็นแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นหน้าจอสัมผัสเช่นเดียวกับ GoPro Hero 5 และมีช่องสำหรับเสียบ tripod ให้ในตัวเลยด้วย ต่างจากของ GoPro ที่ถ้าจะใส่ tripod ต้องใส่เคสหรือขาตั้งก่อน
• คุณภาพของภาพที่ได้
  เมื่อเปรียบเทียบถึงคุณภาพของกล้องทั้ง GoPro Hero 5 และ Xiaomi YI 4K ต่างก็รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K สูงสุดที่ 30 เฟรมต่อวินาที  เรียกว่าคุณภาพสูสีกันสุด ๆ และด้วยกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่ากันเรียกว่ากินกันไม่ลงเลยทีเดียว แต่ในตัวของ Hero 5 จะมีฟีเจอร์ Stabilization แบบใหม่ ช่วยให้วิดีโอสั่นน้อยลงและนิ่งมากขึ้นไปอีกแถมยังรองรับการถ่ายแบบ HDR อีกด้วย
• เซ็นเซอร์ และการเชื่อมต่อ
  ในเรื่องของการเชื่อมต่อนั้นทั้ง GoPro และ Xiaomi ล้วนรองรับการเชื่อมต่อผ่าน WiFi สามารถดึงข้อมูลออกมาใช้งานบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้อย่างสะดวก โดยรุ่น Hero 5 มีจุดที่เด่นกว่าคือ มีชิป GPS ในตัว ช่วยให้ระบุตำแหน่งบนพื้นโลกฝังลงในวิดีโอหรือรูปภาพได้
• แบตเตอรี่
  ในเรื่องขอแบตเตอรี่ในตัว Xiaomi จะให้มาที่ความจุ 1,400mAh ซึ่งระบุว่าสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ได้นาน 2 ชั่วโมง ส่วน GoPro Hero 5 มีขนาดแบตเตอรี่ที่เล็กกว่าเล็กน้อยคือ 1,220mAh

นอกจากฟีเจอร์หลักๆ ด้านการถ่ายวิโอแล้ว ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่แตกต่างกันเล็กน้อยอีกคือ GoPro Hero 5 มี Voice controls ควบคุมการทำงานผ่านเสียงพูด ซึ่ง Yi Camera ไม่มี นอกจากนี้ GoPro Hero 5 สามารถดำนำได้ลึก 10 เมตร โดยไม่ใช้เคสกันน้ำ ต่างจาก Yi Camera ที่ต้องใส่เคสก่อน แต่เมื่อเทียบราคาแล้ว Yi Camera มีราคาที่ถูกกว่า GoPro หลายเท่าตัวเลยทีเดียว ทิ้งท้ายนิดหน่อยสำหรับ Xiaomi ถือว่าเป็นแบรนด์มาแรงเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสมาร์ทโฟน หูฟัง หรือลำโพง ที่เตรียมพัฒนาให้มีความสามารถใกล้เคียง Google Home แล้วเช่นกัน