หูฟังไร้สาย Skullcandy SESH EVO True Wireless

หูฟังไร้สาย Skullcandy SESH EVO True Wireless เป็นหูฟัง True Wireless สวมใส่แบบ In Ear รุ่นกลางจาก Skullcandy มาพร้อมราคาที่ไม่ได้สูงไปและไม่ได้ต่ำไป อัดแน่นไปด้วยสเปคแบบจัดเต็มไม่แพ้สินค้าเรือธงจากแบรนด์ดังรวมไปถึงยังโดดเด่นไม่แพ้สินค้าที่มีราคาสูงกว่าหลายเท่าอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปร่างหน้าตาการออกแบบที่มีความเท่ ทันสมัย พร้อมโลโก้ Skullcandy โดดเด่นและยังออกแบบโดยอิงตามหลักสรีระศาสตร์ทำให้สวมใส่ได้ง่าย สบาย และกระชับหูมากๆ อีกด้วย ด้านการเชื่อมต่อก็ให้สัญญาณที่มีความเสถียรสูง เชื่อมต่อได้ง่าย และให้ระยะการเชื่อมต่อที่ไกล การควบคุมก็ทำได้ง่ายดายเช่นกันด้วยปุ่มแบบกด Physical แตกต่างจากหลายรุ่นในปัจจุบันที่เป็นการควบคุมด้วยระบบสัมผัสซึ่งอาจจะเกิดการควบคุมผิดพลาดจากการไปโดนโดยไม่ตั้งใจได้ ตอบโจทย์สาย Sport ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP55 ใส่อออกกำลังกายได้สบายๆ รวมถึงวางทิ้งไว้ก็ไม่มีปัญหาเรื่องฝุ่น ใช้งานได้นานด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้รวม 1 วันเต็มและยังมาพร้อมฟังก์ชันชาร์จเร็วอีกด้วย ที่ขาดไม่ได้เลยคือแนวเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Skullcandy ที่โดดเด่นที่ย่านเบสที่ลงได้ลึก กระหึ่ม และยังให้เสียงย่านกลางและแหลมที่ครบครัน เรียกได้ว่าแค่ได้ฟังเพียงครั้งเดียวก็ติดใจอย่างแน่นอน

True Wireless สุดเท่ ใส่สนุกทั้งฟังเพลงและออกกำลังกาย

วัสดุ

ด้านวัสดุของ หูฟังไร้สาย Skullcandy SESH EVO True Wireless เลือกใช้เป็นพลาสติกแข็งแบบเดียวกับหูฟัง True Wireless รุ่นอื่นๆ ของ Skullcandy และแม้จะเป็นพลาสติกแต่ความหรูหราพรีเมียมไม่แพ้วัสดุแบบอื่นอย่างแน่นอน ในขณะเดียวกันด้านความแข็งแรงทนทานก็จัดเต็มเช่นเดียวกัน ทั้งส่วนของเคสและตัวหูฟังนั้นมีงานประกอบที่แน่นหนาแข็งแรงไม่ก๊อกแก๊กหรือพูดได้ว่าวัสดุและงานประกอบนั้นอยู่ในระดับพรีเมียมไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

การออกแบบและการสวมใส่

สำหรับการออกแบบและการสวมใส่ของ หูฟังไร้สาย Skullcandy SESH EVO True Wireless ต้องบอกเลยว่าทำมาเป็นอย่างดีและถือได้ว่าเป็นข้อดีของหูฟังรุ่นนี้ก็ว่าได้ โดยการสวมใส่นั้นเพียงแค่สอดท่อขับเสียงเข้ามาในหูเท่านั้น ตัวกูหังก็จะอยู่แน่นกระชับหูในทันที ไม่ต้องหมุนหรือบิดหูฟังให้วุ่นวายแบบในหูฟังบางรุ่น และแม้จะเป็นหูฟังแบบ In Ear ที่ต้องสอดเข้ามาในหูก็ตาม แต่บอกเลยว่าเรื่องของความสะดวกสบายในการสวมใส่นั้นจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ที่สำคัญคือแม้จะไม่รู้สึกว่าช่องหูถูกยัดจนแน่น แต่ตัวหูฟังกลับสามารถบลอคเสียงจากภายนอกได้ดีมากๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ให้วุ่นวาย ทั้งหมดนี้ด้วยการออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์นั่นเองที่ไม่เพียงแต่ทำให้สวมใส่ได้ง่ายและสบายหูเท่านั้น แต่ภายนอกของหูฟังก็ยังดูเท่มากๆ อีกด้วย

การเชื่อมต่อ

ด้านการเชื่อมต่อของ หูฟังไร้สาย Skullcandy SESH EVO True Wireless ก็ต้องบอกเลยว่าทำได้ง่ายดายมากๆ ตั้งแต่การเชื่อมต่อครั้งแรกที่เพียงหยิบหูฟังทั้ง 2 ข้างออกจากเคสก็จะเข้าสู่โหมด Pairing หรือโหมดเชื่อมต่อโดดยอัตโนมัติ จากนั้นกดเชื่อมต่อที่ Smartphone ก็เป็นอันเชื่อมต่อสำเร็จ ส่วนการเชื่อมต่อคตรั้งต่อไปนั้นเพียงหยิบหูฟังออกจากเคสทั้ง 2 ข้างจากนั้นกดปุ่มที่ตัวหูฟังข้างซ้ายหรือขวาก็ได้ กดค้างไว้เป็นเวลา 4 วินาที ตัวหูฟังก็จะเข้าสู่โหมดเชื่อมต่อหรือ Pairing Mode จากนั้นกดเชื่อมต่อที่ Smartphone ก็จะเป็นอันเชื่อมต่อได้สำเร็จเช่นเดียวกัน

เคสสำหรับชาร์จและพกพา

สำหรับเคสของ หูฟังไร้สาย Skullcandy SESH EVO True Wireless นั้นมีขนาดที่เล็กกะทัดรัด และมีน้ำหนักเบา ตัวฝาเคสสามารถแง้มออกและเปิดค้างเอาไว้ได้ รวมถึงที่ตัวเคสยังมาพร้อมไฟ LED แสดงจำนวนแบตเตอรี่คงเหลือที่มีไฟแสดงผลทั้งหมด 4 จุดหรือระดับแบตเตอรี่ 4 ระดับนั่นเอง ข้อดีคือช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายดายว่าควรจะชาร์จแบตเตอรี่เพิ่มเมื่อใด และยังมาพร้อมปุ่มข้างๆ ไฟแสดงผลสำหรับกดเพื่อตรวจสอบปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ โดยตัวเคสใช้การชาร์จผ่านสาย USB C ที่ได้รับความนิมสูงและยังช่วยให้ชาร์จได้รวดเร็วกว่า Micro USB ด้วย

การควบคุมและใช้งาน

สำหรับการควบคุมของ หูฟังไร้สาย Skullcandy SESH EVO True Wireless สามารถควบคุมได้สะดวก และแม่นยำมากๆ หรือเรียกได้ว่าง่ายกว่าหูฟังควบคุมด้วยระบบสัมผัสที่อาจะเกิดการควบคุมผิดพลาดจากการไปโดนส่วนที่เป็นระบบสัมผัสโดยไม่ตั้งใจได้ ซึ่งปุ่มควบคุมแบบกดหรือ Physical ของ หูฟังไร้สาย SkullCandy Dime True Wireless นั้นสามารถกดได้ง่ายด้วยปุ่มที่มีขนาดใหญ่ และควบคุมการทำงานได้อย่างครบครันดังนี้

รีวิวเสียง

สำหรับไดรเวอร์เสียง ในรุ่นนี้ก็ให้มาข้างละ 6 มิลลิเมตร ปรับจูนเสียงมาตามสไตล์ของ Skullcandy ซึ่งหากยังไม่ถูกใจก็สามารถปรับเปลี่ยน EQ เสียงได้อีกถึง 3 แบบได้แก่ เพลง, หนัง และ Podcast ซึ่งจะให้แนวเสียงที่เหมาะกับกิจกรรมนั้นๆ สำหรับเสียงโดยรวมจะคล้ายๆ กับในรุ่น INDY EVO โดยจะออกแนวเบสแน่นกว่าลงได้ลึกตูมตามกว่านั่นเอง

• เสียงกลาง: ย่านกลางเนื้อเสียงมีความอิ่มและหนา เสียงร้องคมชัด การจัดวางเสียงมีความถอยเข้าไปข้างหลังเล็กน้อย แต่ภาพรวมรายละเอียดเสียงต่างๆ ยังคงแจกแจงได้พอประมาณด้วยภาพรวมเสียงออกไปในโทนอุ่น ทำให้เสียงกลางไม่ใสมากแบบหูฟังที่เน้นย่านกลางและเสียงแหลม โดยเสียงจะออกไปในโทนทุ้มๆ 
• เสียงสูง: เสียงแหลมนั้นปรับจูนมาเป็นอย่างดี เนื้อเสียงมีความเรียบเนียน หนา รายละเอียดเสียงสูงขับออกมาได้ในระดับหนึ่ง ไม่ถึงกับรายละเอียดพริ้วแพรวพราว แต่ก็เก็บได้พอสมควร เสียงมีความอิ่มชุ่มฉ่ำไม่บาดหู ทอดปลายเสียงออกไปได้ไกล ไล่ตัวโน๊ตได้ตรง และปลายเสียงไม่พร่าแตก
• เสียงเบส: เสียงเบสแรงลงได้ลึกและมีความอิ่มตัวสูงมาก ความเข้มข้นของเบสหนักแน่นถึงใจ สามารถคอนโทรลความแม่นยำของเบสได้เป็นอย่างดี ภาพรวมคือเสียงเบสออกไปในโทนอุ่นจนบางครั้งก็ไปบดบังย่านอื่นเล็กน้อย ซึ่งหากเป็นผู้ที่ชื่นชอบย่านเบสอิ่มๆ แน่นๆ ตูมตาม เสียงรวมออกไปในโทนทุ้ม ก็จะต้องชื่นชอบแนวเสียงของ หูฟังไร้สาย Skullcandy SESH EVO True Wireless อย่างแน่นอน แต่ถ้าหากเป็นผู้ที่ชอบเสียงใสๆ โปร่งๆ เน้นย่านกลางและสูงก็อาจจะไม่รู้สึกไม่ตอบโจทย์นัก
• เวทีเสียง: เวทีเสียงขนาดปานกลาง มีเนื้อที่ระหว่างกันเล็กน้อย ภาพรวมสามารถจัดวางเครื่องดนตรีได้อย่างเป็นระเบียบ ไม่ทับกัน โดยเสียงที่เด่นออกมาจะเป็นเสียงย่านเบสหรือเครื่องดนตรีขับเสียงเบสเป็นหลัก เช่นกลอง กีต้าร์เบส เป็นต้น ส่วนเครื่องดนตรีย่านเสียงกลางและเสียงแหลมจะอยู่ลึกไปด้านในเล็กน้อย ทำให้บางครั้งอาจถูกกลบไปบ้าง

แนวเพลงที่เหมาะสม: Pop / Pop-Rock / Rock / Hip-Hop

สรุป หูฟังไร้สาย Skullcandy SESH EVO True Wireless เหมาะกับใคร?

หูฟังไร้สาย Skullcandy SESH EVO True Wireless ราคาน่าคบหา อยู่ในระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับมาตรฐานและชื่อแบรนด์ Skullcandy และยิ่งเมื่อเทียบกับฟังก์ชันการใช้งานที่ให้มาด้วยก็ต้องบอกเลยว่า ราคาคุ้มค่า ไม่สูงเกินอย่างแน่นอน โดย Skullcandy SESH EVO เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสินค้าประเภท หูฟัง True Wireless ที่มาพร้อมรูปร่างหน้าตาสุดเท่ ไม่ซ้ำใคร เข้ากับสไตล์ทุกเพศทุกวัย ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานฟังเพลง ดูหนัง ไปจนถึงสาย Sport ที่มองหา หูฟังออกกำลังกาย ด้วยฟังก์ชันกันน้ำกันเหงื่อมาตรฐาน IP55 รวมไปถึงการควบคุมที่ก็ทำได้อย่างง่ายดายที่สำคัญคือเพิ่ม-ลดเสียงได้ที่ตัวอีกด้วย เรียกได้ว่าสะดวกสุดๆ และตอบโจทย์การใช้งานพกพาด้วยแบตเตอรี่ในตัวที่เมื่อรวมแบตฯ จากเคสก็ใช้งานได้นานถึง 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว พูดได้เลยว่าใช้งานได้ 1 วันเต็มสบายๆ