4 ธ.ค. 2566
เชื่อว่าทุกวันนี้ใครหลายคนหันมาใส่ใจกับสุขภาพร่างกายของตัวเองกันมากขึ้น หลังจากที่เราทุกคนผ่านพ้นสถานการณ์โควิค-19 มา หนึ่ง Smart Gadget ที่ยังคงได้รับความนิยมกันอย่างต่อเนื่อง และยังคงเป้นกระแสกันอยู่ตลอดคือ สมาร์ทวอทช์ หรือนาฬิกาอัจฉริยะ ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะใส่เพื่อติดตามค่าสุขภาพ ติดตามการนอนหลับ ติดตามการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งวางแผนการออกกำลังกาย และอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าใส่ติดตัวในชีวิตประจำวันได้ทุกวัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สาย Active พร้อมลุยทุกกิจกรรมได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว
ทำความรู้จักกับ Garmin และ Apple Watch กันก่อน
แน่นอนว่าในตอนนี้ถ้านึกถึงสมาร์ทวอทช์ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแบรนด์ที่หลายคนจะนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ คงต้องยกให้ Garmin หรือ Apple Watch ที่ทำเอาหลายคนใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อกันนานอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับใครที่กำลังลังเล ไม่รู้ว่าควรเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์แบรนด์ไหนดี ถึงจะตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานของตัวเองได้มากที่สุด ทาง Mercular.com ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เดี๋ยวตามไปดูพร้อมกันได้เลยครับ
จุดเริ่มต้นสมาร์ทวอทช์จาก Garmin
แบรนด์ Garmin นั้นเป็นแบรนด์จากสหรัฐอเมริกา ที่เริ่มต้นเข้าสู่วงการสมาร์ทวอทช์จากผลิตภัณฑ์ GPS หรือระบบนำทาง ซึ่ง GPS จากแบรนด์ Garmin นั้นได้ครอบคลุมการใช้งานในอุตสาหกรรมการบิน การเดินเรือ และระบบนำทางในรถยนต์ จนในปัจจุบันได้พัฒนาระบบนำทางมาไว้ภายในนาฬิการุ่นแรกคือ Forerunner 201 ที่เปิดตัวในปี 2003 ทำให้ใครหลายคนรู้จักสมาร์ทวอช์แบรนด์ Garmin ที่ตอบโจทย์และพร้อมลุยไปทุกที่ ทุกกิจกรรมกับคุณนั่นเอง และได้เปิดตัวสมาร์ทวอทช์มาอีกหลายรุ่นที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งการติดตามสุขภาพ การนอน การทำกิจกรรม รวมทั้งระบุตำแหน่งของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ จนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
รุ่นไหนสวย รุ่นไหนตอบโจทย์ และรุ่นไหนคุ้มจาก Garmin ?
รุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้อย่างครบครัน
- Lily สมาร์ทวอทช์ที่มาพร้อมขนาดกะทัดรัด ดีไซน์สวยงาม เรียบหรู ทันสมัย ใส่ใช้งานได้ทุกวัน มีเทคโนโลยีครบครัน ใส่ใช้งานทุกวันได้เสมือนเครื่องประดับ
- Vívomove สมาร์ทวอชไฮบริด ที่มาพร้อมความฉลาดภายในที่ครบครัน ดีไซน์การออกแบบที่จะช่วยปรับลุคคุณให้ดูโดดเด่นมีสไตล์
- Venu สมาร์ทวอทช์ที่ใส่ใช้งานทุกวันได้อย่างราบรื่น พร้อมติดตามค่าสุขภาพและการทำกิจกรรมของของคุณอย่างครบครัน ให้คุณใส่ใช้งานได้อย่างคล่องตัว
ครบเครื่องเรื่อง Sports ตอบโจทย์ทุกกิจกรรม
- Forerunner ให้ทุกการผึกซ้อมของคุณเป็นไปได้ตามเป้าหมาย ด้วยข้อมูลเชิงลึก และตัวชี้วัด ที่จะทำให้การวิ่งทุกรายการของคุณ เป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- Garmin Swim สมาร์ทวอทช์ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณ สวมใส่ว่ายน้ำได้อย่างคล่องตัว พร้อมระบบ GPS ที่เปิดใช้งานได้ทั้งการว่ายน้ำในสระ และการว่ายในพื้นที่เปิด
- Approach ออกรอบได้อย่างราบรื่น ด้วยข้อมูลสนามกอล์ฟที่มีมาให้อย่างครบครัน บอกข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ ในการเล่นของคุณได้อย่างครบครัน สวมใส่ได้ทั้งในและนอกสนาม
- Epix สมาร์ทวอทช์ที่จะช่วยให้คุณเอาชนะทุกความท้าทายได้อย่างเต็มรูปแบบ ตอบโจทย์ Lifestyle สายลุยได้อย่างลงตัว พร้อมดีไซน์การออกแบบที่พรีเมียมในทุกมุมมอง
- Fēnix สวมใส่ได้ทั้งวันด้วยดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ มีความเป็น Multi-Sport มีเทคโนโลยีและฟีเจอร์การใช้งานครบครัน พร้อมลุยไปกับคุณได้ทุกที่
ดีไซน์โดดเด่น สวย พรีเมียมในทุกมุมมอง
- MARQ ยกระดับความพรีเมียมขึ้นอีกระดับ ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ฟีเจอร์และเทคโนโลยีภายในทันสมัย ให้ทุกวันของคุณเป็นวันพิเศษได้เสมอ
ความเป็นมาของ Apple Watch
แบรนด์ Apple เป็นแบรนด์คอมพิวเตอร์ที่เปิดตัวมาในช่วงปี 1970 และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ มาอีกมากมายทั้ง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน๊ตบุ๊คที่ใครหลายคนรู้จักกันในชื่อ MacBook ในปัจจุบัน รวมทั้งสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ได้รับความนิยมกันทั่วบ้านทั่วเมืองอย่าง iPhone จนกระทั่งในปี 2015 ก็ได้ถือกำเนิด Apple Watch ตัวแรกขึ้น โดย Apple Watch รุ่นแรกนั้นก็มีจุดเด่นในเรื่องของการใช้งานร่วมกับ iPhone การติดตามค่าสุขภาพต่าง ๆ ความสะดวกในการใช้งาน และความโดดเด่นในเรื่องดีไซน์การออกแบบที่ไม่ซ้ำใคร การปรับแต่งสายได้อย่างหลากหลาย เป็นหนึ่งในผู้นำเทรนด์สมาร์ทวอทช์ดีไซน์หน้าปัดเหลี่ยมอีกด้วยนั่นเอง
Apple Watch รุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ ?
- Apple Watch SE รุ่นเริ่มต้น ฟีเจอร์ครบพร้อมใช้งาน ติมตามค่าสุขภาพได้ครบถ้วน ดีไซน์สวยโดดเด่น ใช้งานง่ายตอบโจทย์สาวก iPhone ได้อย่างลงตัว
- Apple Watch Series 9 รุ่นมาตรฐาน ยกระดับความล้ำหน้าขึ้นมาอีกขั้น พร้อมลุยไปกับคุณทุกที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- Apple Watch Ultra 2 ให้ทุกการผจญภัยของคุณเป็นไปได้เหนือชั้นมากกว่าที่เคย ด้วยความสามารถที่ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด
เทียบกันแบบหมัดชนหมัดกับ Garmin Venu 3 vs Apple Watch Series 9
การติดตามด้านสุขภาพ
สำหรับการติดตามด้านสุขภาพของสมาร์ทวอทช์ทั้ง 2 แบรนด์ นั้นก็มีมาให้ครบครันทั้งคู่ ทั้งข้อมูลพื้นฐานอย่าง การนับก้าวเดิน อัตราการเต้นของหัวใจ ค่าออกซิเจนในเลือด การติดตามการนอน มี GPS ในตัวทั้งคู่ แต่ในส่วนของ Garmin จะมีความละเอียดมากกว่าในส่วนของการบอกค่า Body Battery และคำแนะนำในต่าง ๆ อย่าง Sleep Coach และ Garmin Coach
สำหรับโหมดการออกกำลังสมาร์ทวอทช์จาก Garmin นั้นค่อนข้างมีความครอบคลุมมากกว่าทาง Apple Watch ค่อนข้างมาก ด้วยตัววัดค่าสำหรับกีฬาทั่วไปที่ค่อนข้างละเอียด ช่วยให้ฝึกซ้อมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในส่วนของ Apple Watch นั้นก็มีการออกกำลังแบบพื้นฐานมาให้ อย่างการวิ่งก็จะมีเพียงการวิ่งในรูปแบบทั่วไป และไม่ตอบโจทย์ในส่วนของการวิ่งมาราธอน หรือไตรกีฬามากนัก
ฟีเจอร์การใช้งาน
ในส่วนของฟีเจอร์ในการใช้งานทาง Apple Watch นั้นจะมีการควบคุมผ่านเม็ดมะยมด้านข้าง หรือปุ่ม Digital Crown ปุ่ม Side Button และการสัมผัสบนหน้าจอ ที่สามารถหมุนเพื่อเลื่อนหาเมนูต่าง ๆ Zoom in-out และเลือกใช้งานฟีเจอร์ ปรับการตั้งค่าต่าง ๆ ได้ผ่านการสัมผัส
ทางด้าน Garmin ก็มีรูปแบบการควบคุมเพื่อใช้งานสมาร์ทวอทช์ที่คล้ายกัน โดยจะมีปุ่มกดด้านข้าง 3 ปุ่ม และควบคุมร่วมกับการสัมผัสบนหน้าจอ เพื่อเลือกใช้งานเมนูต่าง ๆ
การจัดรูปแบบเมนูบน Apple Watch นั้นอาจจะต้องอาศัยความคุ้นเคยในการใช้งานสักเล็กน้อย ด้วยการหน้าตาแอพพลิเคชันบนหน้าจอนั้น ไม่ได้ระบุว่าฟีเจอร์ไหน แต่ในส่วนของ Garmin นั้นมีการแบ่งหน้าเมนู จัดหมวดหมู่ พร้อมบอกชื่อฟีเจอร์อย่างชัดเจน
สำหรับการใช้งาน ในเรื่องของความสะดวกและความง่ายในการเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ทาง Apple Watch นั้นถือว่าทำได้ดีกว่า ด้วยปุ่ม Digital Crown ที่ตอบโจทย์การควบคุมได้คล่องตัวกว่า และทาง Apple Watch นั้นก็มีผู้ช่วยเสียงอย่าง Siri เป็นของตัวเองที่สามารถเรียกใช้งานได้อย่างสะดวก โดยรวมแล้ว Garmin นั้นจะเน้นการใช้งานที่เรียบง่าย ไม่ได้มีลูกเล่นหรืออนิเมชันเยอะเท่าทาง Apple Watch แต่ในส่วนนี้นั้นก็ขึ้นอยู่กับความความชอบและความถนัดของแต่ละคนนั่นเองครับ
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย
สิ่งที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลยสำหรับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยจากสมาร์ทวอทช์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญเป็นอย่างมาก อย่างการตรวจจับการล้ม หรืออุบัติเหตุ โดยทาง Apple Watch นั้นจะเรียกฟีเจอร์นี้ว่า Fall Detection โดยเมื่อมีการตรวจจับการล้ม หรืออุบัติเหตุ บนหน้าจอนั้นจะมีการแสดงปุ่ม SOS เพื่อให้เราสามารถติดต่อเบอร์ฉุกเฉินได้ทันที และทางด้านของ Garmin นั้นจะเรียกฟีเจอร์นี้ว่า Incident Detection เมื่อมีการตรวจจับอุบัติเหตุ จะมีการส่งข้อความไปยังผู้ติดต่อฉุกเฉิน ที่ตั้งค่าไว้ผ่านแอปพลิเคชัน หากเป็นสมาร์ทวอทช์ในรุ่นที่ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตในตัว ก็อาจจะต้องเชื่อมต่อ Bluetooth กับสมาร์ทโฟนไว้ตลอด
แอพพลิเคชัน
Apple Watch
- Watch สำหรับการตั้งค่านาฬิกา ตั้งค่าหน้าปัด
- Fitness สำหรับการติดตามการออกกำลัง การทำกิจกรรมต่าง ๆ
- Health สำหรับการติดตามค่าสุขภาพ และบอกข้อมูลร่างกาย
Garmin
- Garmin Connect สำหรับดูข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลร่างกาย และเชื่อมต่อเข้ากับนาฬิกา
- Garmin Connect IQ สำหรับการดาวน์โหลดฟีเจอร์ต่าง ๆ หน้าปัดนาฬิกาเพิ่มเติม
สรุป Garmin vs Apple Watch
Garmin
- เหมาะกับการออกกำลังกายจริงจัง การฝึกซ้อมอย่างมีแบบแผนและเป้าหมาย
- มีหลากหลายรุ่น ตอบโจทย์การผู้ที่ต้องการเลือกสมาร์ทวอทช์ให้เหมาะกับกีฬาแต่ละชนิด
- รองรับการใช้งานร่วมกับ iOS และ Android
- แบตอึดทน ในบางรุ่นรองรับการชาร์จแบบพลังแสงอาทิตย์
Apple Watch
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการใช้งาน ควบคุมง่าย ใช้งานได้คล่องตัว
- ใส่ใช้งานได้ทุกวัน ด้วยดีไซน์และลูกเล่นที่ตอบโจทย์ ทุกไลฟ์สไตล์
- ใช้งานร่วมกับ iPhone ได้เสถียรและลื่นไหลสุด ๆ
- มีข้อจำกัดในเรื่องของแบตเตอรี่ แบตไม่อึด ระยะเวลาการใช้งานโดยประมาณอยู่ที่ 1 วัน
ก็จบกันไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับบทความ Garmin vs Apple Watch ซื้ออะไรดีถึงจะตอบโจทย์ ? ที่ทางเราได้รวบรวมข้อมูลที่สำคัญจากสมาร์ทวอทช์ทั้ง 2 แบรนด์ดัง ที่สร้างความลังเลในการตัดสินใจซื้อให้กับใครหลายคนเป็นอย่างมาก ทางผู้เขียนก็หวังว่าบทความนี้ จะช่วยตอบข้อสงสัย ที่คุณกำลังข้อใจเกี่ยวกับการตัดสินใจซื้อได้อย่างตรงประเด็น สำหรับวันนี้ทาง Mercular.com นั้นต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าจะมีบทความแนะนำอะไรดี ๆ อีก อย่าลืมติดตามอ่านกันนะครับ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ
