หนึ่งในคำถามของคนเล่นแมคคานิคอลคีย์บอร์ดหน้าใหม่คือระหว่าง Optical switch vs Mechanical switch แบบไหนดีกว่ากัน สวิตช์ทั้งสองแบบต่างก็มีความน่าใช้และมีจุดเด่น-จุดด้อยที่แตกต่างกันซึ่งเป็นสิ่งที่คนเล่นคีย์บอร์ดต้องรู้และเข้าใจเพื่อที่จะได้เลือกได้ว่าสวิตช์แบบไหนใช่สำหรับเราที่สุด มาดูกันว่าสวิตช์ Optical และ Mechanical นั้นมีการทำงานอย่างไร แตกต่างกันอย่างไร จุดเด่น - จุดด้อยคืออะไร เหมาะกับการใช้งานแบบไหน เทียบกันแล้วใครเจ๋งกว่ากัน

Optical switch เป็นสวิตช์คีย์บอร์ดที่ใช้แสงเป็นสื่อกลางในการส่งสัญญาณการสั่งงาน ภายในสวิตช์จะมีเครื่องส่งสัญญาณแสงเลเซอร์หรืออินฟราเรดด้านหนึ่งกับเซนเซอร์ตรวจจับแสงอีกด้านหนึ่ง และมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวได้ทำหน้าที่ปิดกั้นลำแสงระหว่างเครื่องส่งและเซนเซอร์ตรวจจับแสง หลักการทำงานของ Optical switch คือเมื่อเรากดปุ่มบนคีย์บอร์ด ก้านของสวิตช์จะถูกดันลงด้านล่างเพื่อเปิดช่องให้ลำแสงวิ่งไปตกกระทบบนเซ็นเซอร์ตรวจจับแสง ทันทีที่เซนเซอร์ตรวจพบว่ามีแสงเข้ามาก็จะเป็นการบ่งชี้ว่าปุ่มถูกสั่งงานแล้วนั่นเอง 

ปัจจุบัน Optical switch สามารถแบ่งย่อยออกเป็น 3 รูปแบบตามกลไกทางทำงานได้แต่ Light strike, Light block, Analog

Mechanical switch เป็นสวิตช์คีย์บอร์ดที่ใช้ไฟฟ้าเป็นสื่อกลางในการส่งสัญญาณการสั่งงาน เมื่อต้องใช้ไฟฟ้าจึงจำเป็นต้องมีการสัมผัสทางกายภาพของชิ้นส่วนโลหะ โดยภายในตัวสวิตช์จะมีก้านสัมผัสโลหะสองฝั่งและมีก้านพลาสติกคั่นกลางไว้อยู่ หลักการทำงานของ Mechanical switch คือเมื่อเรากดปุ่มคีย์บอร์ด ก้านพลาสติกจะถูกดันลงข้างล่างเพื่อเปิดช่องให้โลหะสองชิ้นได้สัมผัสกัน เป็นการส่งสัญญาณว่าปุ่มถูกสั่งงานแล้วนั่นเอง

ปัจจุบัน Mechanical switch แบ่งย่อยออกเป็น 3 ประเภทตามรูปแบบการกด ได้แก่ Linear, Tactile และ Clicky อ่านเพิ่มเติมที่นี่

Optical switch

ด้วยหลักการการใช้แสงเป็นตัวกลางในการส่งสัญญาณ Optical switch จึงมีจุดเด่นเรื่องความเร็วในการส่งสัญญาณที่สูงกว่าสวิตช์คีย์บอร์ดทุกชนิดเนื่องจากมันไม่ต้องใช้การสัมผัสของชิ้นส่วนใด ๆ ความล่าช้าที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนกลไกจึงไม่มีอีกต่อไป และเมื่อไม่มีการสัมผัสของชิ้นส่วนโลหะ การสึกหรอจึงน้อยกว่า อายุการใช้งานของ Optical switch จึงยาวนานกว่า Mechanical switch 

จุดด้อยของสวิตช์ Optical คือเรื่องของความซับซ้อนของชิ้นส่วนภายในที่หากเกิดเสียหรือขัดข้องขึ้นมาจะซ่อมได้ยากกว่า ต่อมาคือเรื่องของความหลากหลายที่มีน้อยกว่า Mechanical switch ชัดเจนเพราะด้วยเทคโนโลยีที่ยังเกิดมาได้ไม่นานจึงยังมีข้อจำกัดเรื่องการพัฒนาอยู่ ตัวอย่างเช่น หากต้องการสวิตช์เสียงเงียบ Mechanical จะมีให้เลือกหลายระดับเพราะกลไกของมันที่สามารถเพิ่มเติมชิ้นส่วนดูดซับเสียงกดเข้าไปได้ แต่ Optical ยังไม่สามารถใส่ชิ้นส่วนพวกนี้ได้ เป็นต้น 

นอกจากนี้ Optical switch ยังไม่สามารถใช้งานร่วมกับแมคคานิคอลคีย์บอร์ดที่มีฟังก์ชัน Hot-swappable ทั่วไปได้ ต้องใช้กับคีย์บอร์ดเฉพาะรุ่นที่รองรับเท่านั้น และยังมีราคาสูงกว่า Mechanical switch ด้วย

Mechanical switch 

จุดเด่นของ Mechanical switch คือเรื่องของความรู้สึกหรือฟีลลิ่งในการกดที่ดีกว่าเพราะเราสามารถรู้สึกได้ถึงการกระทบของกลไกต่าง ๆ ในสวิตช์ มีความเป็นธรรมชาติกว่า เรื่องความรู้สึกเป็นสิ่งทีอธิบายยากแต่หลายคนก็ชอบ Mechanical switch มากกว่า Optical switch ด้วยเหตุผลที่เป็นนามธรรมแบบนี้นี่แหละ 

ต่อมาคือเรื่องของความหลากหลาย Mechanical switch เกิดมานานหลายสิบปีแล้วดังนั้นจึงมีตัวเลือกแยกย่อยมากมายเป็นร้อย ๆ ชนิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกลไก ความรู้สึก ความเร็วการตอบสนอง สี เสียง โปรไฟล์ สัมผัส คนที่เล่นจะรู้สึกสนุกมาก ๆ เพราะมีอะไรให้ได้เล่นได้ลองเยอะ ขณะที่ Optical switch เพิ่งมาทีหลังจึงยังไม่มีตัวเลือกเยอะเท่า

Mechanical switch ยังมีความซับซ้อนน้อยกว่าทำให้สามารถปรับแต่งได้ง่ายกว่า สามารถติดตั้งได้กับคีย์บอร์ดหลายรุ่น หลายขนาด หากเสียหรือขัดข้องก็ยังพอซ่อมเองได้ นอกจากนี้ยังมีราคาถูกกว่า Optical switch ด้วย

สำหรับข้อด้อยของ Mechanical switch คือเรื่องของความเร็วการส่งสัญญาณและความทนทาน จากหลักการใช้ไฟฟ้าเป็นตัวกลางในการส่งสัญญาณจึงต้องมีชิ้นส่วนกลไกที่เป็นโลหะมาสัมผัสกัน พอมีชิ้นส่วนมากชิ้นจึงเกิดความล่าช้าจากการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนกลไก ทำให้ความเร็วการส่งสัญญาณนั้นสู้ความเร็วของแสงไม่ได้ นอกจากนี้ ชิ้นส่วนโลหะเมื่อใช้ไปนาน ๆ ก็มีโอกาศที่จะเกิดการสึกหรอ และโลหะมักไม่ถูกกับความชื่น สิ่งสกปรก ฝุ่น เหงื่อ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถส่งผลต่อการตอบสนองของสัญญาณเวลากดปุ่มได้

รู้จุดเด่นและจุดด้อยของ Optical switch กับ Mechanical switch กันไปแล้ว Mercular.com ของสรุปให้เห็นภาพรวมอีกครั้งดังนี้

จากตารางสรุปก็น่าจะพอตัดสินได้แล้วว่าสวิตช์แต่ละะแบบมีข้อดีกว่ากันอย่างไร โดย Optical switch นั้นจะได้เปรียบในเรื่องความเร็วและความทนทานจากการใช้แสงเป็นตัวนำส่งสัญญาณ มันจึงเหมาะสำหรับคีย์บอร์ดเล่นเกมที่เน้นการตอบสนองที่รวดเร็วและรุนแรงเช่นการเล่นเกมแนว FPS ที่ความเร็วนั้นเหนือทุกสิ่ง ชัยชนะตัดสอนกันเพียงเสี้ยววินาที

ส่วน Mechanical switch นั้นจะได้เปรียบในเรื่องของสัมผัสการกดที่เป็นธรรมชาติกว่าและการปรับแต่งที่ง่ายและหลากหลายกว่าจากตัวเลือกสวิตช์ที่มีเป็นร้อย ๆ รูปแบบจากหลายสิบแบรนด์ ต้องการฟีลลิ่งแบบไหน นุ่มนวล เด้ง ตอบสนองไว หรือต้องการเสียงลั่น ๆ สามารถเลือกได้ตามใจชอบ ปรับแต่งง่าย คัสตอมได้เยอะ คุณจะสนุกและไม่มีทางเบื่อแน่นอนเพราะของมันมีมาใหม่เรื่อย ๆ นอกจากนี้ยังมาราคาถูกกว่า Optical switch ด้วย ประหยัดงบในประเป๋าได้มากกว่า เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบทั้งเล่นเกม ทำงาน ความบันเทิง ตอบโจทย์ได้ครอบคลุมและอเนกประสงค์กว่า

จากจุดเด่น-จุดด้อยที่กล่าวมา Mercular.com มองว่าตอนนี้ Mechanical switch ยังคงดีกว่า Optical switch ในหลาย ๆ มิติทั้งเรื่องความหลากหลาย การปรับแต่ง ฟีลลิ่ง ราคา แม้จะเป็นรองเรื่องความเร็วกับความทนทานแต่นั่นเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ไม่ส่งผลต่อการใช้งานแบบชัดเจน เรามองว่าแมคคานิคอลคีย์บอร์ดที่ดีต้องปรับแต่งได้ง่าย อัปเกรดได้ตามที่เจ้าของชอบหรือต้องการ และราคาเหมาะสม แต่ถ้าคุณต้องการความเร็วระดับปีศาจ เน้นการเล่นเกมจริงจัง และไม่ติดปัญหาเรื่องงบ Optical switch ก็เป็นตัวเลือกที่น่าลองยิ่งนัก 

สุดท้ายนี้ทางเราอยากจะบอกว่า สวิตช์แบบไหนดีกว่ากันมีเพียงตัวคุณเองเท่านั้นที่ตัดสินได้ ถ้ามีโอกาสก็ควรลองให้ครบนะครับ พบกับบทความ Comparison ดี ๆ ได้ใหม่ที่เว็บไซต์ของเรา วันนี้ต้องลาไปก่อน สวัสดีครับ