หากจะมองหา หูฟังออกกำลังกาย สักรุ่นในตอนนี้ก็ต้องบอกเลยว่ามีให้เลือกมากมายหลายรุ่นและหลายแบรนด์ในตลาดด้วยกัน โดยแต่ละรุ่นก็ล้วนมาพร้อมจุดเด่นในเรื่องของการสวมใส่ที่ง่ายดายสบายหู และแน่นกระชับไม่หลุดหรือเคลื่อนง่ายๆ แม้จะขยับเขยื้อนรุนแรงเพียงใดก็ตาม การเชื่อมต่อที่มีให้เลือกทั้งแบบ หูฟังมีสาย และ หูฟังไร้สาย ที่ขาดไม่ได้เลยคือความสามารถในการกันน้ำและกันเหงื่อเพราะการออกกำลังกายแน่นอนว่าย่อมมาพร้อมเหงื่อที่อาจะเป็นอันตรายต่อหูฟังที่ไม่กันน้ำได้ รวมถึงราคาที่มีตั้งแต่ระดับพรีเมียมหลักหมื่น ไปจนถึงระดับเบาสบายกระเป๋าในหลักพัน และเพื่อเป็นการเอาใจสาย Budget ที่รักการออกกำลังกายและมองหาหูฟังออกกำลังกายดีๆ สักรุ่น ในครั้งนี้ mercular.com ก็ได้รวบรวมเอา 5 หูฟังออกกําลังกายราคาไม่เกิน 1000 มาให้ได้เป็นตัวเลือกและจับจองเป็นเจ้าของกันเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นใดบ้างและน่าสนใจแค่ไหนนั้นเราไปดูกันเลยครับ

หูฟังออกกําลังกายราคาไม่เกิน 1000 รุ่นแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ เพราะแทบไม่น่าเชื่อว่าราคาแค่นี้แต่อัดไปด้วยความสามารถที่จัดเต็มขนาดนี้กับ หูฟังไร้สาย SoundPeats MAC True Wireless ที่มีราคาไม่กี่ร้อยบาท แต่คุณภาพและฟังก์ชันการใช้งานนั้นยอดเยี่ยมในระดับหลายพันบาท มาพร้อมรูปร่างหน้าตาที่ดูเท่ทันสมัย ขนาดเล็กสวมใส่สบายกระชับหู วัสดุทนทานแข็งแรงและงานประกอบที่แน่นหนาเกินราคา เชื่อมต่อไร้สาย True Wireless ระยะการเชื่อมต่อไกลและให้สัญญาณที่เสถียร มาตรฐานกันน้ำ IPX7 ที่โดนน้ำสาดได้ ล้างน้ำได้ เผลอทำตกน้ำไม่เกิน 1 เมตรได้ไม่เกิน 30 นาที แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 9 ชั่วโมงพร้อมชาร์จรวมจากเคสได้อีกเป็น 60 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้ต้องบอกเลยว่าหูฟังราคาหลายพันบางตัวยังทำได้ไม่ครบขนาดนี้

หูฟังออกกําลังกายราคาไม่เกิน 1000 รุ่นที่ 2 ต่อกันด้วย หูฟังไร้สาย Eaudio NOVA 10 True Wireless ที่ไม่เพียงแต่เป็นหูฟังออกกำลังกายในราคาสุด Budget เบาสบายกระเป๋าเท่านั้น แต่ยังเป็นหูฟัง Gaming True Wireless พร้อมอัดแน่นไปด้วยสเปคและฟังก์ชันแบบครบครันจัดเต็มอีกด้วย โดยสามารถใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX5 ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้งานดูหนังผ่าน App Streaming ยอดฮิต และเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างลื่นไหล ไม่ดีเลย์ แถมยังพ่วงมาด้วยความสามารถที่เกินระดับราคาอย่างการตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ทำให้ภาพรวมตัวหูฟังสามารถทำงานได้หลากหลาย ใส่ออกกำลังกายได้ เล่นเกมก็ดี ฟังเพลงสบายๆ เป็น หูฟังออกกําลังกายราคาไม่เกิน 1000 ที่มีความคุ้มค่าสุดๆ

หูฟังออกกําลังกายราคาไม่เกิน 1000 รุ่นต่อไปกับ หูฟังไร้สาย xiaomi รุ่นไหนดี กับ หูฟัง Xiaomi Redmi Buds 3 True Wireless ที่ไม่เพียงแต่ใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ ด้วยมาตรฐานกันน้ำเท่านั้น แต่ยังไม่กลัวฝุ่นอีกด้วยกับมาตรฐษนกันน้ำกันเหงื่อและฝุ่นที่ IP54 ด้านรูปร่างหน้าตาเน้นความเรียบง่ายมาเป็นจุดขาย ด้วย Body ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบารวมถึงการสวมใส่แบบ Earbud ใช้ Driver แบบ Dynamic ที่ทาง Xiaomi ผลิตออกมาเป็นพิเศษที่ให้เสียงใสเคลียร์เป็นธรรมชาติ เสียงที่ได้นั้นมีรายละเอียดและความชัดเจนมากๆ สำหรับหูฟังในระดับราคานี้ และ Xiaomi Redmi Buds 3 มีระบบ Qualcomm cVc Echo Cancelling and Noise Suppression Technology ที่ลดเสียงแทรกขณะสนทนาโทรศัพท์ได้เป็นอย่างดี รับเสียงพูดได้อย่างคมชัดทุกการสนทนา นอกจากนี้ยังกินพลังงานที่ต่ำใช้งานต่อเนื่องนั้นได้นานถึง 5 ชั่วโมงและ 20 ชั่วโมงเมื่อใช้รวมกับเคส ทำให้เป็นหูฟังออกกําลังกายราคาไม่เกิน 1000 ที่กันน้ำกันฝุ่นได้และยังมีราคาที่เบาสบายสุดๆ อีกด้วย

หูฟังออกกําลังกายราคาไม่เกิน 1000 รุ่นต่อไปขอแนะนำเป็นหูฟังแบบมีสายกันบ้างกับ หูฟัง Sony MDR-AS210AP sport In-Ear ที่แน่นอนว่านอกจากตอบโจทย์สาย Sport ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายด้วยมาตรฐาน IPX4 แล้ว ยังให้แนวเสียงที่ฟังสนุกทุกย่านตามสไตล์ Sony อีกด้วย โดยการสวมใส่จะเป็นแบบ In-Ear กึ่ง Earbud นั่นคือสวมใส่แบบสอดเข้าไปในหูระดับหนึ่งแต่ไม่มีจุกซิลิโคนภายในแบบหูฟัง In-Ear ส่วนของการออกแบบไม่ได้เป็นหูฟังแบบก้านยาวทั่วๆ ไป แต่ออกแบบมาให้มีรูปร่างหน้าตาแบบใหม่ไม่ซ้ำกับแบรนด์ไหนๆ โดยเป็นการสวมใส่แบบคล้องกับใบหูและส่วนของท่อขับเสียงจะพอดีกับช่องหู ด้านการควบคุมและการใช้งานนั้นง่ายดายและสะดวกแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาโทรศัพท์ด้วยไมโครโฟนภายในตัวที่สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัด สนทนาได้อย่างครบถ้วนในทุกการติดต่อ และยังควบคุมได้อย่างง่ายดายทั้ง รับ/วางสาย เล่น/หยุดเพลง ข้ามย้อนกลับเพลง ด้วยปุ่ม 1 ปุ่มแบบ In-Line ที่กดควบคุมได้สะดวกตลอดเวลา

หูฟังออกกําลังกายราคาไม่เกิน 1000 รุ่นสุดท้ายในบทความนี้กับ หูฟัง JBL Endurance Run In-Ear มาพร้อมการเชื่อมต่อแบบมีสายและการสวมใส่แบบ In Ear ที่ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกายโดยเน้นการวิ่งเป็นหลัก มาพร้อมเทคโนโลยี Fliphook™ ที่ออกแบบมาให้สวมใส่ได้ 2 รูปแบบ โดยเลือกได้ว่าจะสวมใส่แบบปล่อยสายลงด้านหน้าหรือสวมคล้องผ่านด้านหลังหูก็ยังได้ และด้วยเทคโนโลยี TwistLock™ และ FlexSoft™ ที่ออกแบบมาให้เข้ารับกับช่องหูด้วยหลักสรีระศาสตร์ ทำให้สามารถสวมใส่ได้อย่างง่ายดาย น้ำหนักเบา ไม่เจ็บหู แม้ในคนที่ไม่ชอบ In Ear ก็ยังสามารถสวมใส่ได้สบายๆ มาพร้อมความสามารถกันน้ำกันเหงื่อมาตรฐาน IPX5 ไม่ว่าจะออกกำลังกายหนักเพียงใดก็ไม่ต้องกังวล ควบคุมได้อย่างง่ายดายด้วยรีโมทในตัวแบบ 1 ปุ่มพร้อมไมโครโฟนสำหรับรับสายโทรศัพท์ นอกจากนั้นที่ด้านหลังยังมีการใส่แม่เหล็กเอาไว้สำหรับล็อคทั้ง 2 ข้างไว้ด้วยกันสำหรับห้อยคอเมื่อไม่ได้ใช้งาน