5 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Bluetooth 5.0
29 ต.ค. 2561
เชื่อว่าน้อยคนที่อยู่ในยุคอินเตอร์เนทแล้วจะไม่รู้จักกับ สัญญาณเชื่อมต่อแบบไร้สาย อย่าง Bluetooth เพราะนอกจากมือถือแล้ว ยังแทบจะทุกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคแทบจะทุกชนิดที่ได้นำประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นหูฟังไร้สาย กล้องถ่ายรูป หรือ ลำโพงพกพาต่างๆ Bluetooth เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อปี 1998 และได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง มาจนถึง เวอร์ชั่น Bluetooth 5.0 ซึ่งต่อยอดมาจาก เวอร์ชั่น 4.2 ที่เปิดตัวไปในปี 2014 และเพื่อไม่ให้ท่านผู้อ่านของเราต้องตกเทรนด์ในวันนี้เราได้นำ 5 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Bluetooth 5.0 ว่ามีความโดดเด่นกว่ารุ่นที่ผ่านมาอย่างไร ลองมาติดตามกันเลย
1. เร็วกว่าเดิมเป็น 2 เท่าตัว (2X speed)
ด้วยการปรับอัตตราการรับ ส่งข้อมูลให้เร็วขึ้นเป็น 2 Mbit/ วินาที หรือคิดเป็น 2 เท่าจาก เวอร์ชั่นที่แล้ว จึงทำให้การรับ ส่ง ข้อมูลเร็วขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา หลายๆคนอาจจะทราบว่า Bluetooth ไม่ค่อยเด่นมากนักในเรื่องของความเร็ว ถ้าหากต้องมีการรับ หรือส่งข้อมูล แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจะสามารถเข้ามาลบจุดด้อยในส่วนนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น จากเดิมที่การสั่งให้ลำโพงเปิดเพลง อาจจะต้องใช้เวลา 3-4 วินาที แต่ด้วย Bluetooth 5.0 นี้ สามารถลดระยะเวลาการสั่งการให้เหลือเพียงแค่ 2-3 วินาที เท่านั้น
2. เชื่อมต่อได้ไกลกว่าเดิมถึง 4 เท่า(4X range)
Bluetooth ที่ผ่านมานั้น เป็นที่โด่งดังมากในเรื่องของการเชื่อมต่อระยะสั้นซึ่งทำให้เสียเปรียบในระดับหนึ่งเมื่อเทียบกับ สัญญาณเชื่อมต่อชนิดอื่นๆ ซึ่งมีระยะที่กว้างไกลกว่า และที่ผ่านมา ระยะที่ไกลที่สุดที่ Bluetooth สามารถทำได้คือ 10-50 เมตร เท่านั้น ด้วยเวอร์ชั่น 4.2 แต่มาตอนนี้ ถือว่าเป็นความสำเร็จที่ Bluetooth 5.0 สามารถทำให้ รองรับการเชื่อมต่อไปได้ไกลถึง 200 เมตร ในบริเวณนอกอาคารที่ไม่มีผนังกั้น นั่นจึงหมายถึงความยืดหยุ่นในการเคลื่อนย้ายที่มีมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าสัญญาณจะขาดหาย
3. รับ-ส่งข้อมูลได้เพิ่มขึ้น 8 เท่า (8X DATA)
ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ ที่ Bluetooth สามารถพัฒนาในเรื่องปริมาณการรับส่งข้อมูลที่มากขึ้นถึง 225 bytes ซึ่งมากกว่า เวอร์ชั่น 4.2 ถึง 8 เท่า ซึ่งแปลว่าความสามารถในการโต้ตอบระหว่างอุปกรณ์ เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ต่างจาก ยุคแรกเริ่มที่ หลายคนคงจะทราบกันดีที่ ความสามารถในการรับ ส่งข้อมูลของ Bluetooth นั้นต่ำมากจนหลายคนอาจจะท้อเอาได้ถ้าหากใช้เพื่อส่ง ไฟล์ขนาดใหญ่ แต่วันนี้ไม่ต้องกังวลแล้ว เพราะ เมื่อสามารถรับ ส่งในปริมาณที่มากขึ้นได้ การแสดงผลข้อมูล การรับคสั่ง รวมถึง การส่งต่อข้อมูล จะราบรื่นขึ้นอย่างแน่นอน
4. ประหยัดพลังงานแต่ทำงานได้ดีขึ้น
อีก 1 จุดเด่น ของ Bluetooth 5.0 ที่น่าสนใจก็คือ การประหยัดพลังงานมากขึ้นกว่าเดิม ข้อนี้เป็นจุดที่ต่อเนื่องจาก 3 ข้อที่ได้กล่าวมาที่ว่า สามารถส่งสัญญาณได้ไกลขึ้น เร็วขึ้น แรงขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังเป็นระบบแบบพลังงานต่ำ แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เพราะเนื่องจากสามารถทำงานได้ในสภาวะสํญญาณแออัดได้ดีมากขึ้นดังนั้นจึงถือว่าเป็นการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าเพื่อผลลัพธุ์ที่ดีกว่าจริงๆ
5. Bluetooth Beacons
หลายๆคนอาจจะเคยได้ยิน คำนี้มาบ้าง ไม่มากก้น้อย ซึ่งเป็นเทคดนโลยีที่ระบุตำแหน่งด้วยสัญญาณ Bluetooth LE ในรูปแบบ แท็กที่บรรจุคำสั่งไว้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเกิดกลับบ้านมา แล้วอุปกรณ์ใดๆที่เราตั้งค่าให้ทำงานไว้เมื่อเราถึงบ้านก็จะทำงานทันทีโดยอัตโนมัติ หรือ อาจจะมีการนำไปประยุกษ์ใช้กับการเดินห้างสรพพสินค้า แล้วระบบสามารถแจงเตือนเกี่ยวกับกิจกรรม ต่างๆ โปรโมชั่น ร้านอาหารน่าสนใจ โดยที่เราไม่จำเป็นต้อง search หาเอง ให้เสียเวลา ซึ่งที่ก็เป็นหลักการทำงานของ เวอร์ชั่น 5.0 ที่สามารถส่งสัญญาณได้ไกลขึ้น เร็วขึ้น และ มากขึ้น
เมื่อได้เห็นถึงวิวัฒนาการที่ ล้ำสมัยมากขึ้นทุกวัน ก็จะไม่แปลกใจเลยถ้าในอนาคต อุปกรณ์ IoTต่างๆจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น จากเดิมที ที่มีแค่มือถือ ก็มหัศจรรย์พอตัว จนมาถึงตอนนี้เทคโนโลยีต่างๆได้เข้าถึง ตั้งแต่ นาฬิกา หูฟัง ลำโพง รถยนต์ รวมไปถึง เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ในบ้านที่ ได้มีการนำการเชื่อมต่อระหว่างสัญญาณแบบไร้สายมาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้เรามากยิ่งขึ้น และ Bluetooth 5.0 จะเข้ามาเติมเต็มตรงในส่วนนี้ได้ดีทีเดียว แต่อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 ปีกว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส่วนใหญ่จะสามารถรองรับเวอร์ชั่นนี้ได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น