มินิรีวิว เครื่องเล่นเพลง FiiO M3K อัพเกรดใหม่หมด ฟังก์ชั่นอัดแน่น จุใจ

เป็นเวลา 3 ปี แล้วตั้งแต่แนะนำเครื่องเล่นเพลงรุ่น FiiO M3 ลงมาฮิตติดตลาดในฐานะเครื่องเล่นเพลงขนดเล็ก ซึ่งเรียกได้ว่าผลการตอบรับนั้นเกินคาดไปแบบสุดๆ เพราะด้วยฟังก์ชั่นระดับที่ไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ ในตลาดแต่มาในราคาที่เบาและเป็นมิตรกับผู้ซื้อกว่ามาก ทำให้ผลตอบรับนั้นจึงไปในทางที่ดี และแล้วเมื่อเวลาผ่านไปถึง 3 ปี ทาง FiiO จึงได้ทำการปัดฝุ่นและอัพเกรดใหม่ออกมาเป็นเครื่องเล่นเพลง FiiO M3K ใหม่ล่าสุด ที่ใหม่แบบหมดจดตั้งแต่การออกแบบ รูปทรง วัสดุ หน้าจอ ชิปภายใน ฟังก์ชั่นต่างๆ ก็ล้วนแต่มีการอัพเกรดทั้งหมด เรียกได้ว่าตอบโจทย์ผู้ที่เป็นแฟนและกำลังมองหาเครื่องเล่นเพลงตัวใหม่กันแบบเต็มที่เลยทีเดียว

แบตเตอรี่ที่ยาวนานแบบสุดๆ พร้อมรองรับไฟล์ Hi-Res ทุกชนิด

สำหรับในรุ่น FiiO M3 นั้นแบตเตอรี่ภายในสามารถใช้งานได้ยาวนานแบบสุดๆ ในตอนนั้นนั่นก็คือสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมงหรือว่า 1 วันเต็มกันเลยทีเดียว ซึ่งในรุ่น M3K นั้นสามารถใช้งานได้นานขึ้นเป็น 26 ชั่วโมงเต็มๆ จุดเด่นคือสามารถเปิด Standby ในโหมด Deep Sleep ได้อย่างยาวนานมากๆ ถึง 38 วันกันเลยทีเดียว มั่นใจได้ว่าแม้จะผ่านไปนานหลายวันแต่เมื่อต้องการฟังเพลงขึ้นมาเมื่อใดเจ้า M3K ก็พร้อม Standby รออยู่เสมอ นั่นก็เพราะว่าด้วยชิปภายในจาก Samsung ที่เรียกว่า Exynos ที่ได้เปิดตัวอยู่ในเจ้า FiiO M7 นั่นเองซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นชิปที่ช่วยประหยัดไฟได้มากจริงๆ พิสูจน์ได้จากการใช้งานเจ้า FiiO M7 ที่ผ่านมา นอกจากนั้นเจ้า FiiO M3K นั้นยังสามารถเล่นสกุลไฟล์ Hi-Res ได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นไฟล์ ALAC หรือ DSD ก็ตาม (สูงสุดที่ DSD64) และยังรองรับสกุลไฟล์ความละเอียดสูงอย่าง PCM formats ได้ถึง 384kHz/32-bit ได้เลยทีเดียว ต้องบอกเลยว่ารองรับ Hi-Res แบบสมบูรณ์แบบจริงๆ

ชิปภายในตัวใหม่ พร้อมความจุที่มากขึ้น

รองรับ Micro SD Card ที่ความจุ 512GB แน่นอนว่าพกพาทุกเพลงที่คุณชื่นชอบไปได้แบบเต็มๆ อย่างแน่นอน ทั้งไฟล์คุณภาพสูงขนาดใหญ่ หรือไฟล์คุณภาพทั่วไปขนาดธรรมดาก็สามารถเก็บไว้ได้หมด และเรียกมาฟังได้ทุกที่ ส่วนของชิปภายในนั้นได้เลือกใช้รุ่น FiiO AK4376A ซึ่งเป็น DAC ชิป ที่ตอนนี้ถือว่าเป็นชิปอันดับต้นๆ ของวงการรองรับถึง 95dB to 117dB และยังลด Noise Floor ลงไปอีกจาก 10uV เป็นน้อยกว่า 2uV เลยทีเดียว ซึ่งเหมาะกับหูฟัง IEM หรือ In-Ear Monitor ที่มีความ Sensitive สูงๆ ในการขับย่านเสียงต่างๆ ที่แม้แต่นอยซ์รบกวนก็ขับออกมาหมดรวมไปถึง Floor เสียงที่สูงในรุ่นที่แล้วมารุ่นนี้ก็ขับเสียงได้ลงลึกและละเอียดกว่าที่เคยมากๆ มาพร้อมหน้าจอแบบสัมผัส พร้อมฟังก์ชั่นการอัดเสียงความละเอียดสูงด้วยไมโครโฟนภายในตัว โดยสนนราคาเปิดตัวอยู่ที่ 69.99$ เท่านั้น

สำหรับวันนี้ลาไปก่อน พบกันใหม่กับมินิรีวิวหน้า สวัสดีครับ