ปัจจุบันการใช้บริการสื่อโซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ หรือการเล่นแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ บนโทรศัพท์มือถือไม่ว่าจะเป็น การเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ต่าง ๆ ล้วนมีการใช้ระยะเวลานานมากขึ้นกับการอยู่ที่หน้าจอมือถือแทบตลอดเวลา นั่นยิ่งทำให้แบตมือถือหมดเร็วมากขึ้น ซึ่งโทรศัพท์มือถือบางรุ่นก็มีความจุของแบตเตอรี่ที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวัน คนส่วนมากจึงมักพกสายชาร์จใส่กระเป๋าติดตัวตลอด แต่การพกสายชาร์จก็ใช่ว่าจะมีจุดที่ให้เราสามารถใช้ปลั๊กไฟเพื่อเสียบชาร์จแบตได้ตลอด บางครั้งแบตหมดขณะอยู่บนรถสาธารณะ บางครั้งแบตหมดขณะกำลังเดินทางกลับบ้าน เป็นต้น ดังนั้นคนส่วนมากจึงเลือกใช้ Power Bank เพื่อมาใช้แก้ปัญหาดังกล่าวนั่นเองครับ

• Power Bank คืออะไร
• พาวเวอร์แบงค์ กี่แอมป์ดี?
• ข้อควรรู้ก่อนพก Power Bank ขึ้นเครื่องบิน
• วิธีเช็ค Power Bank ของแท้ของปลอม
• ข้อห้ามและวิธีเก็บรักษา Power Bank

Power Bank เป็นอุปกรณ์ช่วยชาร์จแบตมือถือ แท็บเล็ต เครื่องเล่น mp3 อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่ใช้แบตเตอรี่ที่ไม่ได้ใช้ไฟฟ้ามากนัก Power Bank มักถูกเรียกอีกชื่อนึงว่า แบตเตอรี่สำรอง ที่สามารถนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ซึ่งวิธีการใช้งาน Power Bank เพียงแค่เสียบสายชาร์จของรุ่นสมาร์ทโฟนเชื่อมต่อเข้ากับ Power Bank (บางรุ่นอาจมีปุ่มกด) และในปัจจุบันเริ่มมี Power Bank แบบไร้สายออกมามากขึ้นชาร์จไฟเพิ่มได้ทุกที่ทุกเวลา แม้กระทั่งเวลาเดินทางอยู่นอกบ้าน ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดอีกต่อไป นับว่าเป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้สมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก

มีหลายคนอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ Power Bank หรือที่เรียกอีกอย่างว่าแบตสำรอง กันซักเท่าไหร่ ซึ่งวิธีการใช้งาน Power Bank ค่อนข้างง่ายดาย จนทำให้หลายคนมักมองข้ามสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการใช้ Power Bank ไปค่อนข้างเยอะ ดังนั้นก่อนจะไปเลือกซื้อ Power Bank ควรรู้อะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1. รู้ความจุแบตเตอรี่มือถือ

ก่อนที่จะพิจารณาซื้อ Power Bank ความจุเท่าไหร่ ชาร์จได้กี่รอบ เบื้องต้นสิ่งที่ควรรู้คือ ข้อมูลความจุแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่ใช้อยู่สามารถตรวจสอบจากนำรุ่นมือถือค้นหาดูข้อมูลความจุแบตเตอรี่ผ่านทางเว็บไซต์ เช่น iPhone 15 มีความจุแบตที่ 3,349 mAh เป็นต้น

2. ความหมายของตัวเลข 2A หรือ 1A (แอมป์)

2A หรือ 1A มีหน่วยเป็นแอมป์ (A) ซึ่งจะเป็นค่าที่บอกขนาดไฟกี่แอมป์ (A) ที่สามารถเข้ามา Power Bank ต่อการชาร์จ1ชั่วโมง (1A=1000 mA หรือ 1 แอมป์=1000 มิลลิแอมป์) โดยตัวเลขเหล่านี้เป็นตัวบ่งบอกในส่วนของความเร็วในการจ่ายไฟของ Power Bank ว่ามันสามารถชาร์จไฟได้เร็วแค่ไหน ซึ่งหากยิ่งตัวเลขมากยิ่งชาร์จไฟเต็มเร็วกว่า 

3. Power Bank ความจุ กี่mAh ชาร์จได้กี่รอบ

การดูว่า Power Bank ความจุกี่ mAh นั่นเริ่มต้นจากที่ต้องรู้ก่อนว่า mAh คือ m = มิลลิ , A = แอมป์ ,h = hour (ชั่วโมง) ซึ่งจะบ่งบอกว่า Power Bank นั้นมีความจุอยู่ที่เท่าไหร่ให้ดูจากตัวเลขบน Power Bank ว่ามีกี่ mAH ยกตัวอย่างเช่น 2200 mAh แปลว่า Power Bank มีความจุที่ 2200 mAh นั่นเอง ส่วนการดูว่า Power Bank สามารถชาร์จได้กี่รอบ ให้ดูที่ ความจุ mAh ของ Power Bank และมือถือ ยกตัวอย่าง Samsung S24 Ultra มีความจุแบตที่ 5,000mAh mAh ส่วน Power Bank มีความจุที่ 10,000 mAh แค่ดูตัวเลขคร่าว ๆ ก็พอรู้แล้วว่า Power Bank อันนี้สามารถชาร์จ Samsung S24 Ultra ได้เต็ม 100% ถึงประมาณ 2 รอบนั่นเอง ซึ่งมีหลักการวิธีคำนวณตามข้อมูลด้านล่างหลังจากนี้

Power Bank ควรใช้กี่ มิลลิแอมป์ นั้นขึ้นอยู่กับแบตเตอรี่ของมือถือแต่ละรุ่น ซึ่งมีวิธีการคำนวณดังนี้ ก่อนอื่นเลยสิ่งที่ควรรู้คือ Power Bank ทุกตัวจะสูญเสียพลังงานไปขณะชาร์จด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ ความจุไม่เต็มตามจริง สภาพอากาศที่ร้อนพลังงานอาจลดลง สายชาร์จไม่ได้มาตรฐาน ทำให้สูญเสียพลังงานไปประมาณ 30 - 40 % ทำให้ความจุของ Power Bank เหลืออยู่ประมาณ 60 % มาดูวิธีคำนวณในทางทฤษฎีกันเลยดีกว่า

พาวเวอร์แบงค์ 10000 mah ชาร์จได้กี่ครั้ง

ยกตัวอย่าง : iPhone 15 Pro Max มีความจุแบตที่ 4,441 mAh 

ซื้อ Power Bank ความจุ 10,000 mAh ต้องการทราบว่าความจุที่ใช้ได้จริงของ Power Bank มีเท่าไหร่ และชาร์จได้กี่ครั้ง

สูตรการคำนวณ : เลขความจุ (Power Bank) mAh x 60% = ความจุ (Power Bank) จริง

จากนั้น ความจุ (Power Bank) จริงที่ได้ / หาร ความจุแบตมือถือ

วิธีคำนวณ : 10,000 mAh x 60% = 6000 mAh (ความจุ Power Bank )

6000 mAh / 3,046 mAh = 1.35 ครั้ง

สรุป Power Bank ความจุ 10000 mAh สามารถชาร์จ iPhone 15 Pro Max มีความจุแบตที่ 4,441 mAh ได้ประมาณ 1.35 ครั้ง

ดังนั้นในการเลือกซื้อ Power Bank ควรใช้กี่ มิลลิแอมป์ ขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่ของมือถือ สมาร์ทโฟน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของแต่ละรุ่น และคำนวณหาผลลัพท์ตามสูตรดังกล่าว ตามตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ควรซื้อ Power Bank ที่มีความจุมากกว่า 10000 mAh ขึ้นไปเพื่อให้สามารถชาร์จได้ถึง 2 รอบเต็ม

ตามมาตรฐานความปลอดภัยตามคำประกาศของ IATA หรือ International Air Transport Association ได้ระบุถึง การนำ Power Bank ขึ้นเครื่องบินไว้ ว่าสามารถนำขึ้นไปได้แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่ และต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย

1.ต้องพกติดตั้วไว้ตลอดเวลา ห้ามนำโหลดไว้ใต้เครื่องอย่างเด็ดขาด เพราะอย่างที่รู้กันว่าตัว Power Bank นั้นสามารถเกิดความร้อนได้ง่าย และอาจเกิดสะเก็ดไฟได้ตลอดเวลา ดังนั้นหากพกไว้กับตัว อย่างน้อยก็ยังสามารถดับได้ทันที

2.Power Bank ที่นำขึ้นเครื่องต้องมีความจุไม่เกิน 32,000 mAh

• แบตเตอรี่สำรองขนาด 20,000 mAh หรือน้อยกว่า สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่จำกัด
• แบตเตอรี่สำรองขนาด 20,000-32,000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน
• แบตเตอรี่สำรองขนาดมากกว่า 32,000 mAh ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ในทุกกรณี

3.Power Bank ที่ไม่ระบุความจุกระแสไฟฟ้า (mAh) หรือ วัตต์-ชั่วโมง (Wh) ห้ามขึ้นเครื่องทุกกรณีเพื่อความปลอดภัย

ดังนั้นจะรู้ได้อย่างไรว่า Power Bank ของเรานั้นสามารถขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ ต้องคำนวณหาค่าความจุกี่ วัตต์ต่อชั่วโมง (Wh) ของแบตเตอรี่ Power Bank ว่าสามารถจ่ายกระแสไฟวัตต์ได้เท่าไหร่ต่อชั่วโมง ดังนี้

ตัวอย่าง Power Bank มีความจุระบุว่า : 5V 10000 mAh ต้องแปลงค่าเป็น Wh 

สูตร : ความจุหน่วย (mAh / 1000 x แรงดันไฟฟ้า (V) = Wh 

วิธีทำ : 10000 mAh / 1000 X 5 V = 50 Wh

ในปัจจุบันไม่ว่าจะอุปกรณ์ประเภทไหนก็มักเจอของปลอม ของเลียนแบบ เยอะแยะมากมาย และแน่นอนว่า Power Bank ก็มีของปลอมเยอะมากเช่นกัน ซึ่งบางครั้งของปลอมบางรุ่นทำออกมาหน้าตา รูปแบบใกล้เคียงของจริง และยังหลอกขายได้ราคาสูงเพื่อให้เทียบเท่าของแท้ก็มี ดังนั้นการเลือกซื้อ Power Bank มาใช้งานจำเป็นต้องศึกษาเป็นอย่างดี

ซึ่งหลักการตรวจสอบแบบแรกง่าย ๆ สามารถพิมพ์ยี่ห้อ รุ่น Power Bank ที่ต้องการซื้อบนเว็บไซต์ Google ตามด้วยคำว่า รีวิว ทำการตรวจสอบ แท้ปลอม ก็จะมีข้อมูลต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย หากซื้ออนไลน์ก็สามารถเช็คราคาจากร้านค้า ดูความน่าเชื่อถือ การรับประกันสินค้า เป็นต้น ดังนั้นเราจึงต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นด้วยตนเอง

หลักการดูแบบที่สอง Power Bank จะมีขนาดและน้ำหนักที่เหมาะสมกับจำนวน mAh ที่ระบุ ถ้า mAh เยอะแต่น้ำหนักเบาจนเกินไป จนรู้สึกว่าไม่มีความแน่น อาจเป็นไปได้ว่า Power Bank ที่กล่าวมามีความจุ mAh ไม่ถึงตามที่ระบุ

เนื่องจากเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีการใช้ไฟฟ้าจึงต้องพึงระมัดระวังเป็นอย่างมากในการใช้งาน ซึ่งมีข้อห้ามดังนี้

1. ห้ามนำ Power Bank ทิ้งไว้ในรถขณะที่รถมีอุณหภูมิความร้อนสูง หรือขณะจอดรถไว้กลางแจ้ง โดนแสงแดดเต็ม ๆ 

2. ห้ามให้ Power Bank แช่ในน้ำ เปียกน้ำ หรือทิ้งลงในน้ำ

3. เมื่อ Power Bank แบตหมด ห้ามชาร์จ Power Bank จากไฟบ้านพร้อมกันกับชาร์จมือถือบน Power Bank เด็ดขาด

4. หากไม่ได้มีการใช้งาน Power Bank บ่อยเป็นประจำ อย่างน้อยควรมีการ ชาร์จไฟเข้าตัว Power Bank อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อรักษาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ไว้

5. ควรเก็บ Power Bank ไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 30 องศา

พาวเวอร์แบงค์นั้นสามารถใช้ชาร์จไฟให้โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟนได้ทุกที่ ทุกเวลา ตามต้องการ และยังใช้ได้กับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ แถมยังมีขนาดเล็ก พกพาง่าย Power Bank บางรุ่นสามารถชาร์จมือถือได้ถึง 2 เครื่องพร้อมกัน บางรุ่นยังมีฟังก์ชั่นอย่างอื่นเพิ่มเติม เช่น ไฟฉาย ที่ตั้งมือถือ จอบอกสถานะ เป็นต้น เรียกได้ว่าช่วยตอบโจทย์การใช้งานของยุคสมัยนี้ได้เป็นอย่างดีครับ