12 ต.ค. 2563
เมื่อพูดถึงหูฟังในปัจจุบัน หมวดของ หูฟังไร้สาย True Wireless ก็มักจะถูกกล่าวถึงเป็นอันดับต้นๆ อยู่เสมอ ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปไกลในขณะนี้ทำให้ตัว True Wireless มาพร้อมฟังก์ชั่นที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะฟังก์ชั่นเด่น อย่างการออกแบบมาเพื่อใช้งานสวมใส่ขณะออกกำลังกาย เช่น ในรุ่น B&O Beoplay E8 Sport และ Beats Powerbeats Pro หรือจะเป็นฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวน ANC เช่น ในรุ่น Sony WF-1000XM3 และ Apple AirPods Pro เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆ รุ่นก็มีราคาที่สูงตั้งแต่ระดับเกินหมื่นไปจนถึงระดับครึ่งหมื่นเลยทีเดียว และด้วยเศรษฐกิจแบบในช่วงนี้ทำให้การใช้เงินต้องทำให้คุ้มค่าที่สุด หูฟังที่ซื้อมาก็อยากจะให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่และอยู่ไปนานๆ ให้คุ้มค่าเงินมากที่สุด โดยเฉพาะประเภทที่ออกแบบมาเพื่อใช้สวมใส่ขณะออกกำลังกายที่มักจะต้องเปียกชุ่มเหงื่ออยู่เสมอ โดยวันนี้ Mercular.com ก็จะมานำเสนอ 5 เคล็ด(ไม่)ลับในการยืดอายุ หูฟัง True Wireless ตัวโปรดให้อยู่กับเราไปนานๆ ทั้งสินค้าราคาแพงที่ต้องถนอมเป็นพิเศษ และสินค้าราคาเป็นมิตรที่ถ้าใช้งานได้นานๆ ก็ย่อมต้องดีกว่าเสียง่ายๆ อย่างแน่นอน ซึ่งจะมีวิธีใดบ้างนั้นเรามาดูกันเลยครับ
1. ระวังความชื้น
สำหรับข้อแรกตอบโจทย์สินค้าประเภทที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานออกกำลังกาย เพราะแม้ตัวสินค้าจะมีมาตรฐานการกันน้ำการันตีแต่หากไม่ได้กันน้ำถึงระดับใส่ว่ายน้ำได้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัย 100% และการเก็บในเคสโดยไม่ทำให้แห้งก็อาจจะก่อให้เกิดการช๊อตในเคสได้ เพราะการชาร์จยังคงต้องใช้ขั้วโลหะในการส่งไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ในตัวหูฟังอยู่ดี ดังนั้นทางที่ดีคือหลังจากใช้งานทุกครั้ง หากตัว True Wireless นั้นเปียก หรือชื้นไม่ว่าจะจากเหงื่อหรือจากแหล่งน้ำใดๆ ก็ควรที่จะเช็ดหรือซับให้แห้งก่อนเก็บเข้าเคสชาร์จทุกครั้ง รับรองว่าจะช่วยเซฟสินค้าตัวโปรดของเราได้อีกนานครับ
2. รักษาความสะอาด
ข้อที่ 2 เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานของการใช้งานอุปกรณ์แทบทุกชนิดเลยนั่นก็คือเรื่องของความสะอาดครับ ด้วยความที่หูฟัง True Wireless นั้นจะใช้การสวมใส่แบบ In-Ear และ Earbud ทำให้มีส่วนของหูฟังที่ต้องสอดเข้าไปในรูหู และเมื่อใช้งานไปนานๆ ก็ย่อมที่จะมีขี้หูเกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นมากๆ ก็อาจจะทำให้ขี้หูเข้าไปอุดตันในท่อขับเสียงได้ ก่อให้เกิดผลเสียคือเสียงลอดออกมาไม่เต็มที่ไปจนถึงขี้หูที่ชื้นเข้าไปทำให้วงจรภายใน True Wireless ที่เป็นชิ้นเล็กๆ ควรตรวจเช็คความสะอาดให้เรียบร้อย ถ้ามีเศษขี้หูติดอยู่ก็ควรเช็ดและทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนเก็บลงเคสทุกครั้ง
จากข้อ 2 เรามาดูวิธีทำความสะอาดที่ถูกต้องเพิ่มเติมได้จากคลิปนี้เลยครับครับ
3. ใส่เคสหรือหากระเป๋าเพื่อเก็บโดยเฉพาะ
และข้อที่ 3 ก็คือการหาเคสสำหรับใส่ตัวเคสชาร์จ ที่ในปัจจุบันหลายๆ แบรนด์ก็มีเคสให้เลือกซื้อกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะแบรนด์อย่าง Apple และแบรนด์ Sony รุ่น WF-1000XM3 ที่ในล็อตแรกๆ มีการแถมเคสหนังมาให้ด้วย หรือหากไม่มีเคสจริงๆ อย่างน้อยถ้ามีกระเป๋าหรือถุงผ้าเล็กๆ เอาไว้ใส่ก็ยังดีครับ เพราะจะช่วยป้องกันรอยขีดข่วน รวมถึงเคสก็สามารถป้องกันแรงกระแทกได้ในกรณีที่เผลอลืมใส่ไว้รวมกับของอื่นๆ หรือหากเผลอทำเคสชาร์จตกอย่างน้อยก็มีเคสคอยป้องกันอยู่อีก 1 ชั้นนั่นเองครับ
4. เปิดเสียงในระดับที่พอดี
ข้อที่ 4 นั้นเป็นเรื่องของระดับเสียงที่ควรจะเปิดในระดับที่ฟังพอดีหรือไม่ควรเกินระดับความดังที่ 80 เดซิเบลเพราะถ้าดังกว่านั้นและฟังสะสมต่อเนื่องไปเป็นเวลานนานก็อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อแก้วหูได้ ซึ่งนอกจากจะก่ออันตรายต่อการได้ยินแล้ว ภายในหูฟัง True Wireless ยังใช้ไดรเวอร์เสียงที่มีขนาดเล็กที่อาจจะไม่ทนทานต่อการขับเสียงดังเป็นเวลานาน ทำให้หากเปิดด้วยระดับเสียงที่ดังเกินไปนอกจากจะก่อให้เกิดอันตรายกับแก้วหูแล้วยังจะทำให้ไดรเวอร์เสียงนั้นเกิดอาการลำโพงแตกในเวลาอันสั้นได้อีกด้วย ดังนั้นเพื่อการถนอม หูฟัง True Wireless และระบบการได้ยินก็ควรเปิดเสียงในระดับที่พอดีกับการได้ยินจะดีที่สุดครับ
5. ชาร์จเคสอย่างสม่ำเสมอ
ข้อสุดท้ายจะเป็นเรื่องของการถนอมแบตเตอรี่ให้ไม่เสื่อมไวและให้พลังงานได้เต็มรอบไปนานๆ โดยอิงจากหลักการถนอมแบตเตอรี่แบบเดียวกับใน Smartphone ครับ นั่นคือไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 20% แล้วจึงชาร์จเพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวครับ ดังนั้นเราก็เพียงใช้ให้แบตเตอรี่ไม่เหลือต่ำกว่า 20% แล้วเก็บเข้าเคสก็เป็นอันเรียบร้อย แต่ถ้าหากจำเป็นต้องใช้จนแบตเตอรี่หมดก็ใช้ได้ครับ แต่ทางที่ดีไม่ควรให้หมดบ่อยๆ ส่วนของเคสก็เช่นกันไม่ควรปล่อยไว้ให้แบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% ดังนั้นขณะใช้งานหูฟังหากไม่ได้พกเคสไปด้วยก็ควรจะชาร์จเอาไว้ หรือจะชาร์จไว้ก่อนนอนแบบเดียวกับ Smartphone ก็ได้เช่นกันครับ
เป็นยังไงบ้างครับกับ 5 วิธีถนอมและยืดอายุของ True Wireless ตัวโปรดที่มาแนะนำกันในครั้งนี้ ก้ต้องบอกเลยว่าไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่มีราคาสูงหรือรุ่นที่มีราคาเป็นมิตรก็ตาม ถ้าหากเราถนอมให้อยู่กับเราได้นานๆ ก็จะช่วยประหยัดเงินได้พอสมควรทั้งค่าใช้จ่ายในการซ่อม ไปจนถึงกรณีที่เสียซ่อมไม่ได้ต้องซื้อใหม่ ซึ่งทาง Mercular.com ก็หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับผู้ใช้งานไม่มากก็น้อยครับ และอนาคตหากมี Tips & Tricks หรือเคล็ดลับวิธีการใช้งานอะไรใหม่ๆ ก็จะรีบนำมาให้อ่านกันแน่นอนครับ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
