Tesla ไม่รับ Bitcoin แล้ว จนทำให้ราคาเหรียญร่วงหนัก ถอดบทเรียนการลงทุนสำคัญจากสัญญาณของ Elon Musk ที่ทำให้หลายคนกระเป๋าแหก

Tesla ไม่รับ Bitcoin แล้ว? เมื่อ Elon Musk พูดกับสื่อไม่นาน มันก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ในไม่กี่ชั่วโมง และทำให้มูลค่าของ 1 ในสกุล Cryptocurrency ที่ใหญ่ที่สุดของโลกอย่างเหรียญ Bitcoin (BTC) ร่วงระนาวกว่า 12% สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนระดับเม่ากันเต็มกระดาน ส่วนใครที่เข้าซื้อตอนราคาสูง ๆ ก็น่าจะน้ำตานองกันเป็นแถบ เหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า Cryptocurrency เป็นสิ่งที่เปราะบาง และถูกกระตุ้นได้ง่ายด้วย Factor เพียงเล็กน้อย แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือเกมการเงินของ Elon Musk ที่น่าจะสร้างกำไรให้เขาไปไม่มากก็น้อย

เดิมที Elon Musk เป็น 1 ในผู้เล่น และผู้สนับสนุนตัวตนของ Cryptocurrency สุดลิ่มทิ่มประตูอยู่แล้ว และค่อนข้างเป็นผู้นำความคิดของคนกลุ่มหนึ่งทั่วโลกเป็นทุนเดิม โดยเฉพาะพวกหัวสมัยใหม่ พวกคลั่งไคล้เทคโนโลยีอนาคต และวี้บ (Weeb) ไปจนถึง โอตาคุ แน่นอนว่ากลุ่มคนพวกนี้เกินครึ่งไม่ได้สนใจในเรื่องของการลงทุนทางการเงินมาก่อน พวกเขาส่วนมากอาจจะเป็นครอบครัวชนชั้นกลาง หรือสูง หรือเป็นพวกที่มีรายได้ในระดับกลางขึ้นไป แต่สิ่งที่ดึงให้คนเหล่านี้ เริ่มลงทุน ก็ต้องพูดถึงดราม่า ‘Game Stonk’ ที่เดิมทีเป็นศึกระหว่างนักลงทุนชาวอเมริกาที่วางแผน Shorts หุ้น กับคนที่ต้องการปกป้องธุรกิจที่ตัวเองรัก และชาว Redditors ซึ่งระหว่างความครุกครุ่นก็มี Elon Musk เสริมไฟลงไป และดึงให้ผู้ติดตามของตัวเองลงไปเล่นบนสนามลงทุนนี้ จนสร้างเสียหายหนักจะอาจจะทำให้ระบอบเศรษฐกิจของอเมริกาล่มได้เลยด้วยซ้ำ แน่นอนว่าหลายคนก็กลายเป็นเศรษฐีใหม่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ และเชื่อใจว่า Elon Musk จะนำพาความร่ำรวยครั้งใหม่มาให้ รวมไปถึงคนที่ไม่ได้ร่วมในศึก Game Stonk อีกหลายคน ก็เริ่มให้ความสนใจในตัวชายคนนี้มากขึ้น เป็นการดึงนักลงทุนหน้าใหม่เข้าวงการ แน่นอนว่าถ้าเข้ามาเองเล่นเองก็ไม่เป็นไร แต่แม่งเม่าตัวเล็ก ๆ หลาย ๆ ตัวถ้ามีผู้นำบงการ ก็จะรวมตัวกันเป็น Swarm ขนาดใหญ่ และสร้างแรงสั่นสะเทือนได้แน่นอน

ในช่วงเวลาที่ศึก Game Stonk กำลังซาลง Bitcoin ก็กำลังพพุ่งทพะลุเพดานสูงสุดของตัวเอง ส่งผลต่าง ๆ มากมายทั้งการ์ดจอขาดตลาด หรือการซื้อขายปริมาณมหาศาลในไม่กี่วันนี้ ซึ่งตามปกติแล้ว นักลงทุนหลาย ๆ คนก็ให้ความเห็นว่า มันใกล้จะถึงจุดอิ่มตัว และก็จะตกลงแน่นอน แต่กลายเป็นว่า Elon Musk กลับลงสนาม และพานักลงทุนที่ติดสอยห้อยตามตัวเองเข้าไปจนทำให้ราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นอีกหลายระลอก โดยนาย Elon Musk ก็พยายามฝืนกลไกการตลาดอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ทวิตเตอร์ หรือให้สัมภาษณ์กับสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับเหรียญตัวนี้ ไปจนถึง การเปิดให้ Tesla รับชำระด้วย Bitcoin ทำให้มูลค่าของเหรียญนี้ถีบตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งช่วงเดือนเมษา Tesla มีการแจ้งผลประกอบการของตัวเอง และสร้างกำไรไปกว่า 438 ล้านเหรียญ สหรัฐ และ 1 ใน 4 มาจากการขาย Bitcoin ล้วน ๆ (กำไรจาก Bitcoin ประมาณ 101 ล้านเหรียญสหรัฐ) แน่นอนว่าเม่าหลายคนเริ่มรู้ตัว มีการทวิตถาม Elon Musk ในเรื่องนี้ไปเช่นกันและได้คำตอบมาว่า “ผมขายไปแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น” 

แต่ถ้าเรามองอย่างไร้อคติ และมองข้ามชื่อของ Elon Musk ไปเราอาจจะเจอสัญญาณที่สำคัญว่ามันจะเป็นการลงทุนสั้น ๆ เร็วกว่านี้ก็ได้ ส่วนหนึ่งเพราะ Bitcoin ที่ Elon Musk ซื้อไปนั้น ถูกจัดซื้อไปในนามของ Tesla และเป็นมูลค่ามหาศาล ซึ่งถ้าสังเกตจากมูลค่าบริษัทของ Tesla กับเงินลงทุนนี้อย่างไม่มีอคติเราอาจจะรู้อยู่แล้วว่าในสเกลบริษัทการเอาเงินมาลงทุนกับทรัพย์สิน Storage มากขนาดนี้ ไม่น่าจะเป็นการลงทุนระยะยาวแน่นอน เพราะส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินของ Tesla โดยตรง พวกเขาจำเป็นต้องจ่ายค่าจ้างพนักงาน พัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ฉะนั้นไม่แปลกใจถ้า Elon Musk จะเทขาย Bitcoin เมื่อถึงเวลา

จนกระทั่งวันนี้ การที่ Elon Musk ออกมาพูดว่า Tesla จะไม่รับ Bitcoin แล้ว จากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมช่างไม่น่าเชื่อถือเลย เมื่อมองจากจังหวะและเวลา ไม่กี่วันหลังเผยผลประกอบการ อาจจะเป็นการบอกว่า “ฉันไม่เอา Bitcoin แล้วฉันได้กำไรมามากพอ” หรืออาจจะเป็นแผนที่ต้องการกดราคาของเหรียญ Crypto ตัวนี้ลง และช้อนซื้อเพื่อรอปั่นครั้งใหม่ก็เป็นได้ แต่เหตุการณ์นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ตัวตนของ Elon Musk ประธานบริหาร หรือ CEO ของ Tesla คนนี้ผูกกับ Bitcoin ไว้อย่างแน่นหนา ชนิดที่สามารถกำหนดความเป็นความตายของหลาย ๆ คนได้เลยทีเดียว ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจจะทำให้เหรียญ Bitcoin กลายเป็นเหรียญที่มีความเสี่ยงสูงมากขึ้น แต่ก็ให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นหากเข้าและออกอย่างถูกจังหวะนั่นเอง

แต่ในมุมมองอื่นก็มีบางคนให้ความเห็นว่ามันเป็นการเอาคืนของ Elon Musk ที่นักลงทุนขาใหญ่อย่าง Barry Silbert ตอนขาว DOGE Coin ที่เป็นเหรียญหลัก ๆ ของ Elon Musk ให้เปลี่ยนมันให้เป็น Bitcoin ในช่วงราคากำลังขึ้น ทำให้มูลของ DOGE Coin หรือเหรียญหมาชิบะตกลง ทำให้ Elon Musk เลยต้องแก้เผ็ดด้วยการเล่นการ Bitcoin คืนไป 1 กรุบ ก็ไม่รู้ว่ามองในมุมนี้จะขึ้นจริงไหม เพราะการที่ Bitcoin นั้นร่วงลงไป 12% ทำให้เหรียญอื่น ๆ รวมไปถึง DOGE Coin ของเขาเองราคาร่างตามไปด้วยในอัตราใกล้เคียงกัน จึงไม่รู้ว่าทาง Elon Musk จะเล่นตัวเองไปทำไม หรือว่าพ่อหมา Elon Musk จะเปลี่ยนไม่รับ BTC ไปรับ DOGE แทนเพื่อปั่นราคาเหรียญเดียวตามที่สาวกหมาชิบะ บ่น ๆ กันมาว่าพ่อหมา Elon Musk กำลังคิดการใหญ่เพพื่อดันราคาเหรียญนี้ให้สูงขึ้นอีกครั้ง! 

ก็ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการลงทุนตามคนอื่น และแสดงให้นักลงทุนหน้าใหม่เห็นชัด ๆ ว่าโลกของการลงทุน และสังคมทุนนิยมนั้นไม่ได้ง่าย และสวยหรูอย่างที่คิด ผู้ลงทุนยังต้องใช้วิจารณญาณ และการอ่านเกมประกอบกับการตามข่าวควบคู่กันไปด้วย ซึ่งแน่นอนว่าผู้เขียน ก็รู้สึกตื่นเต้นกับ Elon Musk และการเดินเกมของเขาไม่มากก็น้อย ไม่ได้มีเจตนาจะโจมตีอะไร แต่เห็นว่าเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักลงทุนหน้าใหม่ และเป็นบทเรียนที่น่าสนใจและใกล้ตัวเท่านั้น สำหรับเพื่อน ๆ ถ้ามีไอเดียหรือความคิดเห็นในมุมไหน เกี่ยวกับ Move นี้ของ Elon Musk และ Tesla ก็ลองออกความเห็นกันได้บน Facebook ของ Mercular ข้างใต้โพสต์ของบทความนี้กันได้เลย ทีมงาน Mercular พร้อมรับฟังความคิดเห็น และอยากรู้มุมมองของนักลงทุนทุกคนกับเหตุการณ์ในครั้งนี้มาก ๆ แล้วพบกันใหม่ ในบทความต่อไปนะครับ สวัสดีครับ