ในปัจจุบันตลาดแผ่นเสียงคลาสิค หรือแผ่นเสียงแบบไวนิล (Vinyl) กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง โดยสถิติยอดขายของแผ่นไวนิลของประเทศอังกฤษในปี 2016 เพิ่มสูงขึ้นจาก ปี 2015 ถึง 1.2 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขยอดขายที่สูงกว่ายอดดิจิตอลดาวน์โหลดอีกด้วย เห็นได้ว่าในประเทศที่เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีแล้ว ผู้เริ่มกลับมาให้ความสำคัญกับการฟังเพลงด้วยเครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบคลาสิคมากขึ้น เนื่องจากแผ่นไวนิลมีจุดเด่นที่สามารถถ่ายทอดเนื้อหาและทำนองของเพลงออกมาได้อย่างมีคุณภาพมากกว่าไฟล์อัดเสียงแบบดิจิตอล และซีดี จึงเป็นแรงส่งทำให้เครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบคลาสิคกลับมาเป็นที่ต้องการอีกครั้ง

ทำไมจึงเป็นที่นิยมอีกครั้งในยุคดิจิตอล

สำหรับบางคนที่ยังไม่เคยได้สัมผัสกับเสียงจากแผ่นเสียงไวนิลกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงนั้นคงจะยังไม่ค่อยเข้าใจถึงเหตุผลที่ว่าทำไมแผ่นเสียงสุดคลาสิคนี้จึงกลับมาเป็นที่นิยมได้ในยุคดิจิตอล แต่สำหรับผู้ที่ได้ลองฟังแล้ว คงจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การฟังเพลงแผ่นเสียงไวนิลจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงนั้น จะให้ความรู้สึกที่เหมือนมีวงดนตรีเล่นอยู่ด้านหน้า ความละเมียดละไมของเสียงและทำนองของเพลงที่ออกมาอย่างครบถ้วนนั้น แสดงออกถึงคุณภาพในการอัดที่ดีที่สุดลงบนแผ่นเสียงไวนิลขนาดใหญ่ ที่ไม่มีอุปกรณ์เครื่องเล่นเพลงแบบไหนสามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีเท่าเครื่องเล่นแผ่นเสียงคลาสิคนี้ นอกจากนี้ความรู้สึกในการวางแผ่นเสียงลงบนเครื่องเล่น และการวางหัวเข็มลงบนร่องของแผ่นเสียงนับเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเครื่องเล่นแผ่นเสียงไวนิล ที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดในผู้ฟัง ดื่มด่ำไปกับการฟังเพลงมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เครื่องเล่นแผ่นเสียงนั้นมีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ราคาหลักพันบาทไปจนถึงราคาหลักแสนบาท ซึ่งความแพงของการลงทุนในการฟังเพลงจากแผ่นเสียงไวนิลนั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเครื่องเล่นแผ่นเสียง หัวเข็ม สายสัญญาณ ชุดลำโพง โทรอาร์ม และแผ่นรองบนเครื่องเล่น หากสามารถอธิบายได้อย่างง่ายคือ ยิ่งราคาของอุปกรณ์แพงคุณภาพของเพลงที่ถ่ายถอดออกมาก็จะยิ่งดีขึ้นอีก โดยมีเครื่องเล่นแผ่นเสียงคลาสิคที่เป็นที่นิยมอยู่ในท้องตลาดดังต่อไปนี้

Crosley Deluxe Keepsake USB

เครื่องเล่นแผ่นเสียง จากแบรนด์ Closley ที่มีลำโพงในตัว และเสนอราคาขายที่ไม่แพงจนเกินไปประมาณ 8,000 – 9,000 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นเล่นเครื่องเล่นแผ่นเสียงไวนิล ฟังเพลงในวันหยุด ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านทั่วไป เป็นที่นิยมวัยรุ่นในหมู่ฮิปสเตอร์อยู่พักหนึ่งเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีสีสันน่ารัก เหมาะกับวันวานเป็นอย่างยิ่ง

Audio-Technica รุ่น AT-LP60BT

เครื่องเล่นแผ่นเสียงจากแบรนด์ Audio Techinca มาพร้อมระบบออโตเมติก และมีฟังก์ชั่นการบันทึกบน USB การดีไซน์ถูกออกแบบมาให้เกิดควาสะดวกแก่ผู้ใช้งาน โดยมีปุ่มปรับฟังก์ชั่นที่เรียบง่าย อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับลำโพงได้ทั้งแบบมีสายและแบบไร้สายด้วยเทคโนโลยี Bluetooth โดยมีราคาที่น่าสนใจเหมาะสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นไม่น้อย อยู่ที่ประมาณ พันปลายๆ

THORENS TD 190-2

สำหรับผู้ที่อยากพัฒนาการฟังเพลงผ่านแผ่นเสียงไวนิลขึ้น เครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบ Turntable ของ Thorens คือตัวที่สามารถตอบสนองได้เป็นอย่างดี เนื่องด้วยการทำงานของตัวเครื่องแบบกึ่งออโตเมติก เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเทิร์นโปรโดยที่ตัวเข็มนั้นจะโยกกลับมาเก็บที่ฐานเองอัตโนมัติเมื่อหมดร่องแผ่นเสียง โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลว่าเมื่อไหร่ร่องแผ่นจะหมด

REGA RP3

เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงแบรนด์ดังจากประเทศอังกฤษ ที่เหมาะสำหรับผู้ที่เทิร์นโปรแล้ว โดยมีฟังก์ชั่นของตัวเครื่องที่สามารถปรับน้ำหนักของการวางเข็ม และการปรับบาลานซ์ ปรับสปีดของมอเตอร์ได้ด้วยตนเองตามความชอบ เพื่อให้ตัวเครื่องเล่นสามารถบรรเลงเสียงเพลงออกมาได้ดั่งใจ แต่เนื่องจาก REGA RP3 นี่เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงคลาสิคแบบ Manual ซึ่งผู้เล่นต้องยกหัวเข็มกลับเข้าที่เองเมื่อสิ้นสุดร่องของแผ่นเสียง

จะเห็นได้ว่า การฟังเพลงผ่านแผ่นเสียงไวนิลสุดคลาสิคนี้ ผู้ฟังยังสามารถอัพเกรดอุปกรณ์เครื่องเล่นแผ่นเสียงในการฟังเพลงให้ดียิ่งขึ้นให้สามารถสร้างคุณภาพที่แตกต่างจากแผ่นเพลงแผ่นเดียวกัน จึงนับอีกหนึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้แผ่นเสียงไวนิลกลับมาได้รับความนิยมและควรค่าแก่การเก็บสะสมอีกครั้ง