เมื่อพูดถึงไลฟ์สไตล์การรับชมภาพยนตร์ในปัจจุบันก็ต้องยอมรับเลยว่ามีการพัฒนาทางเทคโนโลยีไปไกลมากๆ ไลฟ์สไตล์หรือขั้นตอนการในการรับชมนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิงจากเดิมที่จะต้องไปรับชมที่ภาพยนตร์เมื่อมีภาพยนตร์เข้าฉายใหม่ หรือในกรณีที่ภาพยนตร์ออกจาโรงไปแล้วหากต้องการรับชมก็สามารถออกไปซื้อหรือเช่าแผ่น DVD, Blu-Ray กลับมารับชมที่บ้านได้ เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนที่วุ่นวายพอสมควร และเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีการรับชมภาพยนตร์ในปัจจุบันที่ผู้ใช้งานสามารถรับชมภาพยนตร์และซีรีส์ได้หลากหลายเรื่องจากที่บ้านผ่านเทคโนโลยีการสตรีมมิ่งภาพยนตร์บน Application ต่างๆ เช่น Netflix, Amazon Prime, Disney+ hotstar และอื่นๆ ที่สามารถรับชมภาพยนตร์และซีรีส์ได้จากที่บ้านโดยไม่ต้องเสียเวลาออกไปข้างนอกเพื่อไปโรงภาพยนตร์หรือไปหา DVD หรือ Blu-Ray ซึ่งจุดเด่นของการรับชมภาพยนตร์ผ่านแอปสตรีมมิ่งจะมีแค่ความสะดวกเท่านั้น แต่ในเรื่องของคุณภาพในส่วนของภาพและเสียงนั้นก็เรียกได้ว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน โดยในส่วนของภาพก็ให้ความคมชัดถึงระดับ 4K รวมถึงมีความลึกของระดับสีในระดับ HDR และ Dolby Vision สำหรับในส่วนของเสียงก็รองรับระบบเสียงที่สมจริงไม่แพ้กับระดับเสียงในโรงภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียง Stereo, Dolby Digital Surround 5.1 ไปจนถึงเสียงรอบทิศทางสมจริงแบบ Dolby Atmos เลยทีเดียว ที่แน่นอนว่าการจะรับชมภาพยนตร์ในระบบเสียงที่สมจริงแบบรอบทิศทางนั้นก็จำเป็นที่จะต้องมีลำโพงเซอร์ราวด์ที่จะช่วยในการขับเสียงในระบบเสียงแบบ Surround 5.1 ขึ้นไปนั่นเอง

และเพื่อเป็นการเอาใจผู้ที่กำลังมองหา ลำโพงเซอร์ราวด์ และยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อหรือจับจองรุ่นใดดี หรือไม่แน่ใจว่ารุ่นใดจะมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่นเหมาะกับตนเองมากที่สุด จาก ลำโพงเซอร์ราวด์ หลากหลายรุ่นที่มีให้ได้เลือกซื้อและจับจองเป็นเจ้าของ ในครั้งนี้ mercular.com จึงได้รวบรวมเอา แนะนำ 5 ลำโพงเซอร์ราวด์ ยี่ห้อไหนดี เสียงสมจริงแบบในโรงหนัง มาแนะนำเป็นตัวเลือกให้กับผู้อ่านทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นใดบ้าง และแต่ละรุ่นจะน่าสนใจแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ

5 ลำโพงเซอร์ราวด์ ในบทความนี้

• ลำโพง B&W Formation Duo By Bowers & Wilkins
• ลำโพง Klipsch R-50M Bookshelf Speaker
• ลำโพง Klipsch Surround 3 Speaker
• ลำโพงไร้สาย KEF LS50 Wireless II Bluetooth Speaker
• ชุดลำโพง Sony HT-A9 Home Theater

ลำโพงเซอร์ราวด์ รุ่นแรกกับ ลำโพง B&W Formation Duo By Bowers & Wilkins ลำโพงไร้สายระดับพรีเมียมทั้งในเรื่องของการออกแบบ วัสดุที่ใช้ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ และเรื่องเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายเทคโนโลยีเฉพาะของ Bowers & Wilkins ที่เรียกว่า Formation® Wireless Technology สามารถเชื่อมต่อสินค้าของซีรีส์นี้เข้าด้วยกันแบบไร้สายไม่ว่าจะวางไว้ที่จุดไหน ตัวลำโพงแต่ละตัวจะทำหน้าที่ทั้งรับสัญญาณจากตัวอื่นและกระจายสัญญาณไปให้ตัวต่อๆ ไปเรียกได้ว่าช่วยสร้างเครือข่ายในทุกห้องขอแค่สัญญาณของแต่ละตัวถึงกันเท่านั้นก็เพียงพอ ส่วนของระบบเสียงแบบแยกทิศทางสามารถวางแยกกันได้อย่างอิสระ ตั้งค่าการเชื่อมต่อไร้สายเข้าด้วยกันได้อย่างง่ายดายผ่าน Application Bowers & Wilkins Home ดาวน์โหลตได้ทั้ง iOS และ Android มาพร้อมบริการ Music Streaming อย่างครบครันทั้ง Apple AirPlay 2, Spotify Connect, Roon และใช้งานแอปต่างๆ บน Smartphone ผ่าน Bluetooth โดยสามารถเชื่อมต่อได้อย่างคมชัด สัญญาณมีความเสถียร

ลำโพงเซอร์ราวด์ รุ่นที่ 2 กับ ลำโพง Klipsch R-50M Bookshelf Speaker ลำโพงเซอร์ราวด์ Bookshelf รุ่นใหญ่ของซีรีส์ Reference เจเนอเรชันที่ 3 มาพร้อมดีไซน์สวยพรีเมียมผสมผสานความคลาสสิกอันเป็นเอกลักษณ์เด่นของลำโพงแบรนด์ Klipsch ทุกรุ่น ตู้ลำโพงทำจากไม้ MDF กันรอยขีดข่วนและเนื้อแน่นช่วยป้องกันการสั่นสะเทือนภายในได้ดี ลำโพงมีกำลังขับ 75W RMS / 300W Peak จุดเด่นอยู่ที่คุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมที่ได้จากทวีตเตอร์อะลูมิเนียม LTS ขนาด 1 นิ้ว พร้อมกรวย Traxtic Horn 90° X 90° ปรับปรุงใหม่ จับคู่กับวูฟเฟอร์ TCP ขนาด 5.25 นิ้ว ตอบสนองย่านความถี่ได้กว้างตั้งแต่ 58 – 21,000 Hz ให้รายละเอียดเสียงที่ชัดเจนทุกย่าน เนื้อเสียงคมชัดสดใส พร้อมเวทีเสียงที่กว้าง โปร่งสบาย มวลเบสนุ่มแน่นกำลังดี จัดเป็นลำโพงที่เหมาะสำหรับการฟังเพลง ดูหนัง ดูความบันเทิงต่างๆ รวมถึงสามารถอัปเกรดเพิ่มจำนวนจากลำโพงเซอร์ราวด์เป็นลำโพงเป็นโฮมเธียเตอร์ชุดใหญ่ สร้างเสียงกระหึ่มระดับเดียวกับโรงภาพยนตร์ได้ที่บ้าน

5 ลำโพงเซอร์ราวด์ รุ่นที่ 3 กับ ลำโพง Klipsch Surround 3 Speaker ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานควบคู่ไปกับ ลำโพงซาวน์บาร์ Klipsch Bar 48 ที่จะเปลี่ยนจากรุ่น 48 เป็น 48+ เพิ่มระบบเสียง Srround เข้าไปนั่นเอง โดยมาพร้อมกับเสปคที่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเสริมระบบเสียงจาก 3.1 Channel ให้กลายเป็น 5.1 Channel และประมวลผลออกมาเป็น Dolby Digital and DTS 5.1 โดยอัตโนมัติ ส่วนของการเชื่อมต่อใช้การเชื่อมต่อเข้ากับตัว 48 และตัว Subwoofer แบบ Wireless ทำให้ไม่ว่าจะวางบนโต๊ะหรือแขวนกับผนังก็สามารถเชื่อมต่อได้สะดวก ไม่มีสายมาให้กวนใจ ส่วนของวัสดุภายนอกทั้งหมดทำจากไม้แท้ที่นอกจากจะดูเรียบหรูสวยงามแล้วยังช่วยในเรื่องเสียงให้ออกมาได้ยอดเยี่ยมสมจริงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ด้านขนาดกำลังดีใช้พื้นที่ไม่มากที่ H : 165.1 x W : 107.95 x D 107.95 มิลลิเมตร น้ำหนักอยู่ที่ 1 กิโลกรัม ส่วนของสเปคภายในนั้นมาพร้อมไดร์เวอร์แบบ Full Range Woofer ข้างละ 3 นิ้ว ขับเสียงได้ครบถ้วนทุกย่านและมีความสมจริงสูง

5 ลำโพงเซอร์ราวด์ รุ่นที่ 4 กับ ลำโพงไร้สาย KEF LS50 Wireless II Bluetooth Speaker KEF โดยมีพื้นฐานมาจากลำโพง Bookshelf KEF LS50 แบบ Passive ที่มีชื่อเสียงมากๆ ในการให้มิติเสียงที่ยอดเยี่ยมด้วยการจัดวางดอกลำโพงแบบ Uni-Q ที่นำทั้ง Woofer และ Tweeter มาจัดวางใช้จุดศูนย์กลางเดียวกันที่เป็นเอกลักษณ์ของ KEF ซึ่งในรุ่นนี้ได้ใช้การจัดวางรูปแบบนี้เป็น Generation ที่ 12 ที่มี MAT™ (Metamaterial Absorption Technology) มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนต่างๆ ที่ปรับปรุงมาจากรุ่นแรกไม่ว่าจะเป็นภาค Amplifier ที่เพิ่มกำลังมาเป็น 760W ต่อข้างจาก 460W นอกจากนี้ DAC ในตัวยังรองรับ Sample Rate ที่สูงขึ้นกว่าเดิมเป็น 384KHz จาก 192KHz รวมถึงเพิ่มการรองรับ DSD และ MQA อีกด้วย ในส่วนการเชื่อมต่อไร้สายนั้นรองรับทั้ง Bluetooth และ Wi-Fi รวมถึงการต่อแบบ Multi-room ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อผ่าน Roon ที่เป็นโปรแกรมสำหรับเล่นเพลง Streaming และ Multi-room นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานผ่าน App ของ KEF เองที่มีชื่อว่า KEF Connect ที่รองรับแทบจะทุก Streaming Service ที่เปิดให้บริการในปัจจุบันได้อีกด้วย เหมาะกับใครที่ต้องการเสียงในแบบลำโพง Hi-End แต่ไม่ต้องการความยุ่งยากในการ Matching อุปกรณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น DAC, Amplifier หรือสายต่างๆ

5 ลำโพงเซอร์ราวด์ รุ่นที่ 5 หรือรุ่นสุดท้ายกับ ชุดลำโพง Sony HT-A9 Home Theater ที่พกพาเอาสเปกและฟังก์ชันการใช้งานมาในแบบที่เรียกได้ว่าอัดแน่นจนเกินตัว รวมไปถึงด้านรูปร่างหน้าตาการออกแบบที่มีความเรียบหรู โดดเด่นในสไตล์ของ Sony และที่สำคัญคือเรื่องเสียงที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม สมจริง แม้จะมีตัวลำโพงเพียงแค่ 4 ตัว แต่ด้วยเทคโนโลยี 360 Spatial Sound Mapping ของ Sony ทำให้สามารถขับเสียงได้ในระบบเสียงแบบ 12 Channel รองรับระบบเสียงรอบทิศทางสมจริงทั้ง Dolby Atmos® และ DTS:X® ให้ประสบการณ์ในการรับชมภาพยนตร์และเล่นเกมในแบบสมจริงและด้วยตัวลำโพงที่มีเพียง 4 ตัวพร้อมระบบวัดตำแหน่งผ่านไมโครโฟนคู่ภายในทำให้ตัวลำโพงสามารถจูนระดับเสียงให้ถูกต้องและพอดีได้เองโดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องจัดวางให้ทำมุมพอดีหรือหาโต๊ะมาตั้งให้ลำโพงสูงพอดีกันจนวุ่นวาย สำหรับการเชื่อมต่อครบครันทั้งไร้สายและมีสาย โดยส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายนั้นรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth และ WiFi รวมถึงยังรองรับการใช้งานแบบ Multi-Room อีกด้วย ส่วนการเชื่อมต่อแบบมีสายนั้นรองรับการเชื่อมต่อ HDMI eARC รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อ Ethernet ด้วยเช่นกัน โดยรองรับบริการ Streaming ต่างๆ อย่างครบครัน เช่น Spotify Connect™, Google Chromecast ในตัว และ Apple AirPlay 2 ในส่วนของสเปกและการขับเสียงมาพร้อมกับเทคโนโลยี Sound Field Optimization สำหรับการตรวจวัดระยะห่างระหว่างลำโพงและเพดานเพื่อการขับเสียงที่ถูกต้อง สมจริง ภายในตัวลำโพงมาพร้อม Up-firing (X-Balanced Speaker Unit) สำหรับขับเสียงขึ้นเพดาน, Wide Directivity Woofer (X-Balanced Speaker Unit) หรือ วูฟเฟอร์ทิศทางเสียงกว้าง ที่ออกแบบมาให้ขับเสียงเบสได้มีมิติ กว้าง และสมจริงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี DSEE Extreme™ (Digital Sound Enhancement Engine) ที่จะปรับเสียงจากไฟล์ความละเอียดต่ำให้มีความใกล้เคียงกับเสียงต้นฉบับหรือเสียงระดับ Hi-Res อีกด้วย

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ แนะนำ 5 ลำโพงเซอร์ราวด์ ยี่ห้อไหนดี เสียงสมจริงแบบในโรงหนัง ที่ทาง mercular.com ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าเป็น ลำโพงเซอร์ราวด์ ที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่มีความพรีเมียม ฟังก์ชันการใช้งานที่จัดเต็มทั้งในเรื่องการเชื่อมต่อที่ครบครันทั้งไร้สายและมีสาย ระบบเสียงที่มีความสมจริงให้ประสบการณ์แบบเดียวกับการรับชมในโรงภาพยนตร์ ที่พูดได้เลยว่าทั้ง 5 รุ่นที่นำมาแนะนำนั้นตอบโจทย์คนที่มองหา ลำโพงเซอร์ราวด์ และไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีอย่างแน่นอนครับ

ซึ่งทาง mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา ลำโพงเซอร์ราวด์ ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง ลำโพงเซอร์ราวด์ รุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ