อย่างที่ทาง Mercular.com ได้เคยกล่าวถึง แนวโน้มหูฟัง ลำโพงและเครื่องเสียงปี 2017 เชื่อได้ว่าปีนี้น่าจะเป็นปีทองของหูฟังไร้สาย หรือหูฟังบลูทูธ ซึ่งสิ่งที่น่าจะเป็นคำถามสำหรับคนใช้หูฟังทั่วไป คงไม่พ้นคำว่า แล้ว “หูฟังมีสายยังจำเป็นอยู่ไหม” เพราะว่าหูฟังไร้สายนั้นสะดวกสบายก็จริงแต่ก็มักจะราคาสูงกว่าหูฟังมีสาย วันนี้เรามาดูกันว่าปัจจัยอะไรคือสิ่งที่ควรมาคิดสำหรับการใช้หูฟังมีสายและหูฟังไร้สาย ว่าจริงๆแล้วมันคุ้ม ตอบโจทย์การใช้งาน ตามราคาที่สูงขึ้นไหม

1. ความสะดวกสบายในการใช้งาน

สำหรับคนที่หาหูฟังบลูทูธหรือหูฟังไรสายสักตัว ความสะดวกสบายจะต้องเป็นปัจจัยที่สำคัญแน่นอน และนี่คือสิ่งที่ทำให้หูฟังไร้สายเป็นสิ่งที่หลายๆคนถามหา เพราะว่าหูฟังไร้สายนั้น เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะ คนที่ต้องเดินทาง เพราะสามารถหยิบหูฟังมาฟังได้ทันที ไม่ต้องกังวลสายว่าเกี่ยวกับใครเวลาคนเยอะ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกได้มาก

อีกจุดที่สำคัญไม่แพ้กัน คือกลุ่มคนที่ออกกำลังกายและหาหูฟังสักตัว หูฟังไร้สายดูเหมือนว่าจะเป็นคำตอบให้เหล่าคนรักการออกกำลังกายอย่างแท้จริง เพราะว่าถ้าหูฟังมีสายนำไปออกกำลังกายจะค่อนข้างลำบากเวลาขยับ หรือสายตีไปมาอย่างแน่นอน และนี่คือจุดที่หูฟังไร้สายตอบโจทย์สุดๆ สำหรับหูฟังออกกำลังกาย

อย่างไรก็ดี ถ้าการฟังเพลงของเรานั้นส่วนใหญ่เน้นการนั่งอยู่อยู่กับที่ หรือว่าไม่ได้ขยับหรือเดินทางบ่อยๆ การใช้หูฟังมีสายก็ยังตอบโจทย์การใช้งานเช่นกัน

2. การดูแลรักษา

หูฟังมีสาย

สำหรับการดูแลรักษา หูฟังแบบมีสายเรียกได้ว่าแทบจะไม่ต้องดูแลอะไรเลยก็ว่าได้ เพราะเพียงแค่เสียบสายก็สามารถเล่นเพลงได้โดยไม่ต้องมีแบตเตอรี่ให้กังวล สิ่งที่ต้อต้องระวังเพียงอย่างเดียวคือการเก็บสายไม่ให้สายหักใน ซึ่งวิธีการดูแลหูฟังนั้นก็ทำได้ไม่ยาก แถมหูฟังมีสายหลายตัวยังสามารถถอดสายเปลี่ยนได้อีก จึงนับว่าดูแลรักษาค่อนข้างง่ายทีเดียว

หูฟังไร้สาย

แน่นอนว่าหูฟังไร้สายหรือหูฟังบลูทูธจะต้องมีการเชื่อมต่อและหาสัญญาณบลูทูธ หลายๆครั้งการเชื่อมต่อก็ดูจะหาสัญญาณไม่เจอและต้องรีเซ็ตสัญญาณบ้างเป็นบางครั้ง ในขณะที่จุดสำคัญที่สุดคือเรื่องแบตเตอรี่ ที่ผู้ใช้เองจะต้องชาร์จเป็นประจำ ซึ่งถ้าลืมชาร์จก็อาจจะไม่สามารถใช้งานได้ และอีกจุดที่ต้องคำนึงถึงคืออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ที่เมื่อใช้ไปนานๆก็จะค่อยๆเสื่อม ซึ่งการเปลี่ยนแบตเตอรี่ก็มักจำเป็นที่ต้องส่งเข้าศูนย์และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ก็ต้องถามว่าการใช้งานของเราเป็นแบบไหนเพราะว่า ถ้าใช้ฟังเพลงในบ้าน หรืออยู่กับที่การใช้หูฟังมีสายก็ดูจะดูแลง่าย แต่ถ้าพกพาบ่อยต้องหยิบเข้าออกใส่กระเป๋าแน่นอนว่าหูฟังไร้สายก็ดูจะมีภาษีที่ดีกว่า

3. เสียง

เป็นเรื่องที่หลายๆคนกังวลว่าหูฟังไร้สายเสียงมันดีไหม สู้หูฟังมีสายได้รึเปล่า? ถ้าให้ตอบแบบชัดๆ ก็ยังต้องตอบว่าหูฟังไร้สาย นั้นเสียงยังไม่สามารถสู้หูฟังแบบมีสายได้ ณ ชั่วโมงนี้ แต่อย่าพึ่งด่วนสรุปว่าเสียงจะไม่ดี เพราะว่าจริงๆแล้วหูฟังบลูทูธ ปัจจุบันนี้ให้เสียงที่ดีเพียงพอกับการใช้งานฟังเพลงทั่วไปแบบสบายๆ เลยทีเดียว เรียกได้ว่าถ้าฟังแบบไม่จับผิดหรือจดจ้อง หูฟังไร้สายนั้นก็ให้เสียงที่ดีเยี่ยมและเพียงพอตัวการใช้งานหรือการฟังเพลงในชีวิตประจำวันสบายๆ

ในส่วนของสำหรับคนที่จริงจังเรื่องเสียงอย่างพวกกลุ่ม Audiophile ยังไงก็ต้องบอกว่าหูฟังมีสายนั้นยังตอบโจทย์กว่ามากด้วยเสียงทีเหนือกว่า และการเชื่อมต่อที่สามารถเชื่อมเข้ากับ DAC/Amp ได้ง่ายกว่า (ถึงแม้จะเริ่มมี DAC/Amp ที่เป็นบลูทูธแต่ก็ยังค่อนข้างน้อย) นี่สำคัญยังสามารถที่จะเปลี่ยนสายเพื่อเติมแต่งเสียงให้ดีขึ้นไปอีกด้วย

4. เรื่องเงินๆทองๆ ราคาที่จ่ายเพิ่มมันคุ้มค่าไหม?

สุดท้ายสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาและน่าจะสำคัญที่สุดคงไม่พ้นเรื่องเงินๆทองๆ จากที่ทาง Mercular.com สำรวจราคาหูฟังไร้สาย หรือหูฟังบลูทูธ ส่วนใหญ่ถ้าในรุ่นที่ใกล้เคียงกัน ส่วนใหญ่นั้นหูฟังไร้สายมักจะมีราคาที่แพงกว่าหูฟังมีสาย ประมาณ 15-30% เป็นอย่างน้อยเลยทีเดียว ซึ่งนี่น่าจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ใครหลายคนอาจจะต้องคิดว่า จำเป็นไหมที่ต้องจ่ายเพิ่มเพื่อแลกกับความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะจำนวนเงินที่เพิ่มมานั้นส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับหลักพันบาทเลยทีเดียว

แน่นอนว่าถ้าในอนาคตหูฟังมีสายและหูฟังไร้สายราคาเท่ากันแล้วละก็ สิ่งที่เหลืออยู่ก็คงเป็นเรื่องของความสะดวกสบายกับคุณภาพเสียงที่ต้องมาตัดสินใจกันว่าเราอยากได้อะไรมากกว่ากัน

สรุป

มาถึงจุดนี้ ก็ต้องบอกว่าถ้าใครที่เน้นการใช้งานที่สบายแล้วงบไม่ใช่ปัญหา ต้องการเสียงที่ดี แต่ไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องเสียงคือที่สุด หูฟังบลูทูธหรือหูฟังไร้สายก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว แต่ถ้าใครยังลังเลอยู่แล้วพบว่าการใช้งานของเรานั้นเน้นการฟังอยู่กับที่ หูฟังมีสายก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน ก็ต้องพิจารณากันดูสำหรับเพื่อนๆว่าเน้นการใช้งานแบบไหน