หลังจากที่ผ่านไปเกือบเดือนครึ่งแล้วนับตั้งแต่วัน April’s Fool ที่แต่ละแบรนด์ แวดวง IT ต่างๆ นั้นก็พากันเล่นมุก ลงโปรดักส์ปลอมๆ ฮาๆ มาสร้างเสียงหัวเราะขำขันกันตลอดทั้งวัน แต่ก็ไม่รู้ว่าแบรนด์คอมพิวเตอร์ชั้นนำอย่าง Asus นั้นคิดจริงจังหรือลืมไปว่าเป็นวันโกหก เพราะดันเปิดตัวโปรดักส์ชิ้นใหม่ของแบรนด์ที่สร้ามความฮือฮาไปทั้งวงการอย่าง Asus ROG Ally เครื่องเล่นเกม PC พกพารุ่นใหม่ล่าสุด ที่เกิดมาเพื่อสู้กับเจ้าตลาดเกมมิ่งพกพาอย่าง Steam Deck โดยเฉพาะ และในล่าสุดนี้เอง Asus ก็ได้เปิดเผยสเปกเต็มของ ROG Ally ออกมาแล้ว ในวันนี้ Mercular.com ก็เลยจะขอพาทุกคนไปดูพรีวิวกันว่า เจ้า Asus ROG Ally มีสเปก ฟีเจอร์อะไรเจ๋งๆ ออกมาให้เราได้เล่นกันบ้าง รอติดตามกันพร้อมๆ กันเลย

ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานั้น ตลาดเกมมิ่งสายพกพานั้นก็ถูกครองด้วยเหล่าโทรศัพท์มือถือที่เข้ามาตีตลาดแบบกระจุยกระจาย ก่อนที่ต่อมา ทั้งเครื่องเล่น Nintendo Switch และเครื่องเล่น Steam Deck ที่ทำให้หลายๆ คนกลับมาให้ความสนใจกับตลาดเกมมิ่งพกพากันมากขึ้น และอย่างล่าสุดนี้ Asus เจ้าตลาดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คเจ้าดังก็กระโดดเข้ามารับกระแสดังกล่าว ด้วยโปรดักส์ชิ้นล่าสุดอย่าง ROG Ally ที่บอกเลยว่าไม่ได้ทำออกมาลองตลาดขำๆ แต่สเปกภายในที่ใส่เข้ามากันมานั้น บอกได้เลยว่า พีซีเกมมิ่งพกพาตัวแรงรุ่นนี้ ไม่ได้มาเล่นๆ อย่างแน่นอน

ขับเครื่องด้วยขุมพลังจาก AMD และ Windows

สำหรับจุดเด่นแรกของ Asus ROG Ally ที่ทุกคนอยากรู้กันแน่นอนก็คือเรื่องของสเปกภายใน เพราะก่อนหน้านี้ทาง Asus นั้นเคยเคยเคลมไว้ว่า ROG Ally นั้นสามารถเล่นเกม AAA ในยุคปัจจุบันได้อย่างสบายๆ ซึ่งถ้าดูจากสเปกที่ปล่อยออกมานั้นก็ไม่ค่อยแปลกใจเลย เพราะ Asus ROG Ally นั้นก็มาพร้อมกับซิบเซ็ตแบบพิเศษจากทาง AMD ที่ออกแบบมาเพื่อเครื่องพีซีเกมมิ่งพกพาโดยเฉพาะ นั่นก็คือ AMD Ryzen Z1 ที่พัฒนาด้วยสถาปัตยกรรมล่าสุดของทางค่ายอย่าง Zen 4 และ RDNA 3 ซึ่งเพิ่งจะถูกนำมาใช้ในซีพียูและการ์ดจอรุ่นล่าสุดอย่าง Ryzen 7000 Series และ Radeon RX 7000 Series ทำให้ Asus ROG Ally นั้นมาพร้อมกับขุมพลังในการประมวลที่ยอดเยี่ยมและทรงพลังไม่แพ้เกมคอนโซลในยุคปัจจุบันเลย แถมยังการันตีเฟรมเรตสูงสุดในการเล่นเกม AAA ในระดับ Full HD ที่ 50 - 60 fps ให้การเล่นเกมของเรานั้นลื่นไหล พร้อมให้เราสนุกได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

แถมอีกหนึ่งทีเด็ดที่ดูน่าสนใจไม่น้อยเลยก็คือระบบปฏิบัติการของ Asus ROG Ally ที่ไม่ได้มาพร้อมกับระบบ OS แบบพิเศษอย่างที่ Steam Deck ใช้ SteamOS แต่สำหรับ Asus ROG Ally ได้มีการใส่ระบบ OS ที่หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นั่นก็คือ Windows 11 ทำให้การใช้งานต่างๆ ของ Asus ROG Ally นั้นจะไม่ได้ต่างจากโน๊ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไปเลยแม้แต่น้อย แถมยังมาพร้อมฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยทั้ง Windows Hello, Parental Control, Windows Defender และยังรองรับเกม PC แทบทุกเกมในปัจบันจากแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้ง Steam, Epic Games Store, Xbox Game Pass, GOG และแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้แบบครบครัน พร้อมกับฟีเจอร์พิเศษอย่าง Armoury Crate SE ที่จะช่วยจัดการ Shortcut เกมต่างๆ ให้ครบจบในหน้าต่างเดียว พร้อมตอบโจทย์การเล่นเกมได้ในทุกเวลา

หน้าจอที่คมชัดลื่นไหล เล่นได้ในทุกสภาพแสง

และนอกจากสเปกภายในที่ทรงพลังแล้ว หน้าจอของ Asus ROG Ally ก็ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นที่หลายๆ คนนั้นก็สนใจอยู่ไม่น้อยเลย โดยตัวหน้าจอของ ROG Ally จะเป็นหน้าจอ Touchscreen ขนาด 7 นิ้วที่อัดแน่นสเปกมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดระดับ Full HD ที่มาพร้อมกับขอบเขตสีระดับ sRGB 100% ให้ภาพแสงสีที่คมชัด เต็มอิ่มในทุกมุมมอง พร้อมกับค่า Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz Response Time ที่ 7ms และควบคู่ไปกับเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium เพื่อการแสดงผลที่สมูธ ลื่นไหล ไร้จังหวะสะดุดมาขัดการเล่น

และนอกจากสเปกหน้าจอที่เรียกได้ว่าจัดมาเพื่อการเล่นเกมแล้ว ตัวหน้าจอของ Asus ROG Ally ก็ยังเสริมความแกร่งทนทาน เพื่อให้การพกพาไปข้างนอกนั้นเป็นเรื่องง่ายขึ้น ด้วยกระจกหน้าจอจาก Corning Gorilla Glass และเคลือบผิวด้วย Gorilla Glass DXC ทำให้นอกจากจะมีทั้งความทนทาน แข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้ป้องกันแสงสะท้อนบนหน้าจอ และค่าความสว่างที่สูงถึง 500 nits ที่สว่างมากกว่าจอ LCD ทั่วไปถึงเกือบเท่าตัว เพื่อให้เราสามารถสนุกไปกับ Asus ROG Ally ได้ไม่ว่าเล่นในที่ร่ม และกลางแดดก็ยังมองเห็นจอได้อย่างสบายๆ

ระบบระบายความร้อนแบบใหม่ ไม่ต้องกลัวไหลย้อน

ส่วนใหญ่แล้ว ภายในท่อฮีทไปป์ระบายความร้อนนั้นจะมีน้ำยาที่เป็นตัวกลางนำความร้อนจากเครื่องไประบายสู่ภายนอก ซึ่งการจับตะแคงผลิกแพลงไปมาก็อาจจะทำให้การไหลของน้ำยานั้นผิดเพี้ยนไปจากเดิมได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Asus ROG Ally เพราะเจ้าเครื่องเล่นเกมตัวนี้มีพร้อมกับเทคโนโลยีระบายความร้อนที่ชื่อว่า Zero Gravity Thermal System ที่ช่วยให้ตัวฮีทไปป์และพัดลมระบายนั้นทำงานได้อย่างไม่ติดขัด แม้จะอยู่ในมุมที่กลับหัวกลับหางซักแค่ไหนก็ตาม พร้อมกับพัดลมระบายความร้อนแบบคู่ เพื่อให้ตัวเครื่องนั้นยังคงความเย็น และทำงานได้เร็ว แรง สะใจในทุกการเล่น

พกพาง่าย จับสบาย เล่นได้ทุกสไตส์

และสำหรับด้านดีไซน์ของ Asus ROG Ally เองก็ไม่พูดถึงไม่ได้ ตั้งแต่สีที่เป็นโทนสีขาว - ฟ้าที่ดูแปลกตาจากโทนสีดำ - เทาเดิมๆ ของ Asus ROG พร้อมกับรูปทรงที่มีความโฉบเฉียว คมเข้มสไตล์เกมมิ่ง และน้ำหนักตัวเครื่องที่เบาเพียงแค่ 608 กรัมเท่านั้น แทบจะหนักพอๆ กับแท็บเล็ตหลายๆ รุ่นในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ จะเก็บใส่กระเป๋า หรือจะถือเล่นต่อก็ทำได้อย่างสบายๆ

และสำหรับในส่วนของการเล่นเกมนั้น Asus ROG Ally ก็สามารถที่จะเล่นได้ทั้งแบบมือถือ ด้วยตัวเครื่องที่มีความเบาสบาย และแบตเตอรี่ที่สามารถเล่นได้ต่อเนื่องนานถึง 2 ชั่วโมง และ 6.8 ชั่วโมงสำหรับการดูหนังฟังเพลงต่างๆ หรือถ้าอยู่บ้าน ไม่อยากถือเล่น ก็สามารถต่อเข้ากับตัว Charger Dock แล้วต่อกับจอคอมพิวเตอร์หรือจอทีวี เล่นร่วมกับจอยสติ๊ก เมาส์ คีย์บอร์ดแยกต่างๆ ได้เหมือนกัน หรือถ้าใครอยากจะเล่นเกมแบบจริงจัง Asus ก็ยังมีการ์ดจอแยกระดับ Hi-end ทั้งจาก Nvidia RTX 4090 Laptop และ AMD RX 6850M XT ที่สามารถต่อพ่วงกับ ROG Ally เพื่อยกระดับการเล่นเกมแบบมือ Pro ที่สุดยิ่งกว่าเดิม

สเปกเด่นของ Asus ROG Ally

• ชิบเซ็ต : AMD Ryzen Z1 (6 core/12 thread, 22MB Cache, 4.90 GHz), Z1 Extreme (8 core/16 thread, 24MB Cache, 5.10 GHz)
• หน้าจอ : IPS ขนาด 7 นิ้ว FHD 120Hz
• RAM : DDR5 16GB
• ความจุ : SSD M.2 PCIe 4.0 ขนาด 256, 512GB
• Ports : 1x AUX 3.5mm combo, 1X USB-C Combo, UHS-II microSD Card Reader
• ระบบเสียง : ลำโพง/ไมโครโฟนในตัว รองรับ AI noise-canceling, Hi-Res, Dolby Atmos, Smart Amplifier
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2
• ขนาด : 28.0 x 11.1 x 2.12 ~ 3.24 ซม.
• น้ำหนัก : 608 กรัม

และสำหรับใครที่สนใจ อยากจะจับจองเป็นเจ้าของ Asus ROG Ally กันละก็ บอกเลยว่าขอให้อดใจรอกันอีกซักพักนึงก่อน เพราะตอนนี้ Asus ROG Ally ยังคงเปิดให้ Pre Order เฉพาะในพื้นที่สหรัฐ, แคนาดา และในสหราชอาณาจักรก่อน แต่ทาง Asus นั้นก็ยืนยันแล้วว่าจะเปิดขาย Asus ROG Ally ทั่วโลกกันอย่างแน่นอนภายในไตรที่ 3 ปีนี้ โดยสำหรับราคานั้น Asus ROG Ally จะมีขายเป็นสองเวอร์ชัน ระหว่างรุ่นที่ใช้ชิบเช็ต AMD Ryzen Z1 ราคา 599 เหรียญ (ประมาณ 20,300 บาท) และรุ่นที่ใช้ AMD Ryzen Z1 Extreme ราคา 699 เหรียญ (ประมาณ 24,000 บาท) บอกเลยว่าใครที่สนใจกันละก็ รอเก็บตังซื้อกันไว้ได้เลย