หากพูดถึง Sound Card (การ์ดเสียง) คือ อุปกรณ์ที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถแสดงผลออกมาในรูปแบบเสียงได้ โดยจะทำหน้าที่ควบคุมเรื่องเสียง อย่างเช่น ถ้าวงจรเสียงใช้กับเกมที่เราเล่นจะเกิด เสียงต่าง ๆ หรือสร้างเสียงเอฟเฟคต่าง ๆ เข้าเป็น วงจรเสียงที่ใช้กับดนตรีชนิดต่าง ๆ สำหรับสร้างสรรค์งานเพลงหรือการเล่นเกมที่เราต้องการให้มีคุณภาพของเสียงที่ดีขึ้นกว่าเดิม โดยคุณภาพเสียงจะขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของ ซาวด์การ์ดแตกต่างกันไป ดังนั้นเราควรเลือกซาวด์การ์ดให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราเช่นซาวด์การ์ดสำหรับเล่นเกม เป็นต้น

โดยทั่วไปแล้วซาวด์การ์ดถ้าเป็นไดร์เวอร์หรือฮาร์ดแวร์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์จำเป็นจะต้องใช้แบบ Internal หรือว่าใส่เข้าไปในตัวเคสนั่นเอง แต่ปัจจุบันซาวด์การ์ดมีแบบ External ออกมาในตลาดมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถนำไปเชื่อมต่อกับ Smartphone หรือ Device เครื่องเล่นต่าง ๆ ได้รวมไปถึงต่อเข้ากับหูฟังครอบหู Over-Ear หรือ On-Ear แนบหู เพื่อขับเสียงโดยเฉพาะหูฟังตัวท็อป ๆ ที่จำเป็นต้องใช้แรงขับสูงในการขับออกมาให้ครบทุกย่านเสียง ส่วน Gaming Sound Card หรือซาวด์การ์ดสำหรับเล่นเกมนั้นความต่างคือความสามารถในการขับและรีดเสียง รวมถึงสร้างระบบเสียงขึ้นมา มีการจูนเสียงออกมาให้เหมาะกับการเล่นเกม ซึ่งหลังจากที่เชื่อมต่อซาวด์การ์ดแล้วเสียงที่ออกมาจะต่างแตกจากไม่มีซาวด์การ์ดอย่างสิ้นเชิง โดยวันนี้เรามี 3 ซาวด์การ์ดสำหรับเล่นเกมที่น่าสนใจ จะมีรุ่นไหนกันบ้าง ไปดูกันเลยครับ

Creative SoundBlaster X G5

มาเริ่มกันที่ซาวด์การ์ดสำหรับเล่นเกมตัวแรกจาก แบรนด์ Creative โดย Creative SoundBlaster X G5 เป็น Dac - Amp ที่มาในรูปแบบพกพา ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมวัสดุอย่างดีที่ใช้ประกอบตัวซาวด์การ์ด มีช่องเสียบเพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ชนิดต่าง ๆ มีปุ่มปรับระดับเสียงที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย มีไฟสีแดงคอบแจ้งเตือนในบริเวณที่มีแสงสว่างน้อย นอกจากนี้ยังรอบรับการจำลองเสียง Input 7.1 Channel สร้างความสมจริงรอบทิศทาง เสียงเบสหนักแน่น ให้รายละเอียดครบถ้วน อีกทั้งยังมี Scout Mode เพิ่มเสียง Ambient รอบข้าง สามารถได้ยินไกลขึ้น เหมาะสำหรับเกมแนว FPS โดยเฉพาะ และด้วยราคาที่คุ้มค่ากับคุณภาพ ทำให้ซาวด์การ์ดตัวนี้เป็นอีกตัวที่น่าสนใจ

Zowie Vital Sound System

Zowie Vital เป็นซาวด์การ์ดแบบ Dac-Amp ที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะ ด้วยรูปทรงที่เหมือนกับกล่องดำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มาพร้อมกับการเชื่อมต่อที่หลากหลายทั้ง AUX/3.5 mm. และ USB Type-B มีปุ่มควบคุมแบบสัมผัสทั้งหมด เรียงเป็นแถวให้เลือกปรับเปลี่ยนอยู่ที่ด้านหน้าแสดงผลเป็นไฟ LED สีขาวตัดกับหน้าจอสีดำ มีฟังก์ชันปรับเสียงความดัง - เบาของหูฟังหรือตัวลำโพงได้โดยตรง มีปุ่มเพิ่มลดเสียงไมโครโฟน ให้เสียงคมชัดสมจริง ชัดเจนทุกรายละเอียด ตอบโจทย์ชาวเกมเกมอร์แบบสุด ๆ

Sennheiser GSX 1000

ซาวด์การ์ดที่เราจะมาแนะนำตัวสุดท้ายในวันนี้คือ Sennheiser GSX 1000 ซาวด์การ์ดแบบ Dac-Amp ราคาสมคุณภาพ ด้วยรูปทรงที่ออกแบบให้ดูทันสมัยในรูปของสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีดำ มาพร้อมกับ AUX/3.5 mm. และ Micro-USB พร้อมปุ่มควบคุมแบบหมุนสำหรับปรับเสียงสนทนาในเกม และหน้าจอสัมผัสแสดงผลสถานะต่าง ๆ สามารถควบคุมด้วยระบบสัมผัสได้ นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยน Equalizer ที่เลือกได้ถึง 3 แบบคือ Music, E-Sports และ Movie และสามารถปรับเปลี่ยนระบบเสียงไม่ว่าจะเป็น Stereo 2.0 หรือ 7.1 Surround ได้อีกด้วย

และนี้ก็คือ 3 ซาวด์การ์ดสำหรับเล่นเกมที่น่าสนใจที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ ถ้าใครอยากสร้างประสบการณ์ด้านเสียงในการเล่นเกมที่แตกต่างไปจากเดิม ลองเอาข้อมูลเหล่านี้ไปพิจารณาเลือกซื้อซาวด์การ์ดสำหรับเล่นเกมมาเสริมให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น รับรองว่าความรู้สึกของคุณระหว่างเล่นเกมจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป