ก่อนอื่นเราจะต้องรู้ว่า หัวชาร์จเร็วที่เราใช้ จุดประสงค์เพื่อชาร์จอุปกรณ์อะไร (แยกง่ายๆ มือถือ หรือแท็บเล็ต) รองรับแรงดันไฟเท่าไหร่ ตัวเครื่องมีความจุของแบตเตอรี่เท่าไหร่ สำหรับเทคโนโลยีชาร์จด่วนเฉพาะของแต่ละอุปกรณ์ ไม่ได้มีมาตรฐานกลางเหมือนอย่างการชาร์จทั่วไป แต่ละยี่ห้อก็มีชื่อเรียกต่างกัน เช่น Fast Charge, Quick Charge, Super Charge, Dash Charge ซึ่งแต่ละรุ่นก็ไม่สามารถใช้งานข้ามแพลตฟอร์มกันได้ ทำให้ถึงแม้ว่ามือถือเรากับเพื่อนจะมีชาร์จด่วนเหมือนกัน แต่ถ้าต่างยี่ห้อ ต่างเทคโนโลยีกัน การยืมหัวชาร์จเร็วมาใช้งาน ก็ทำให้ไม่สามารถใช้เทคโนโลยีชาร์จด่วนได้นั่นเอง หัวชาร์จเร็วแต่ละ อุปกรณ์ จึงมีวัตต์แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับ Voltage (V) หรือ โวลต์ และ Amperage (A) หรือ แอมแปร์ หรือ แอมป์ ของแต่ละอุปกรณ์นั่นเอง

สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์ในปัจจุบันมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงๆ และเทคโนโลยีชาร์จด่วนจากหัวชาร์จเร็วที่ทำให้แบตเตอรี่ก้อนใหญ่ๆ มีพลังงานเต็ม 100% ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทำให้เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า หัวชาร์จเร็วแต่ละตัวสามารถจ่ายไฟให้มือถือ ที่ใช้ฟีเจอร์ชาร์จด่วนได้จริงหรือเปล่า ซึ่งปกติแล้วหัวชาร์จเร็วที่ให้มากับตัวมือถือ ก็ควรจะมาพร้อมกับจำนวนวัตต์สูงสุดที่อุปกรณ์สามารถรองรับได้ แต่ก็มีบางแบรนด์ที่ให้วัตต์มาน้อยกว่าวัตต์สูงสุดที่อุปกรณ์รองรับ หรือบางแบรนด์ก็ไม่ได้ให้มาเลย ต้องซื้อแยกต่างหาก ซึ่งการจะเลือกซื้อหัวชาร์จเร็วให้สามารถใช้งานเทคโนโลยีชาร์จด่วนได้ เราก็ควรรู้ว่าจำนวนวัตต์ที่หัวชาร์จเร็วจ่ายได้ตรงกับความต้องการของอุปกรณ์เรารึเปล่า จะได้ใช้งานหัวชาร์จเร็วได้อย่างเต็มประสิทธิภาพภาพ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรบ้าง ?

รู้จักโวลต์ (Volt - V) แอมป์ (Amp - A) และวัตต์ (Watt - W) กันก่อน

ถึงแม้ว่าบนหัวชาร์จเร็วจะไม่มีจำนวนวัตต์ (Watt) ให้เห็น แต่พลังงานในการจ่ายไฟฟ้าออก (Power Output) ของหัวชาร์จเร็วจะถูกแสดงด้วยโวลต์ (Volt) และแอมป์ (Amp) เราจึงควรมาทำความรู้กับหน่วยต่างๆ เหล่านี้ก่อน ซึ่งแต่ละหน่วยมีความหมาย ดังนี้

• Voltage (V) หรือ โวลต์ : หน่วยที่ใช้เรียกขนาดของแรงดันไฟฟ้า เช่น แรงด้านไฟฟ้าในบ้านของประเทศไทยจะอยู่ที่ 220V

• Amperage (A) หรือ แอมแปร์ หรือ แอมป์ : หน่วยที่ใช้เรียกปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวนำหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า

• Wattage (W) หรือ วัตต์ : หน่วยวัดกำลังไฟฟ้าที่เป็นตัวบอกพลังงานไฟฟ้าของอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ละชนิดใช้ในการทำงาน เช่น หลอดไฟ 100 วัตต์ จะกินไฟ 100 จูลต่อวินาที

วิธีดูว่าหัวชาร์จเร็วจ่ายไฟกี่วัตต์

จะรู้ได้อย่างไรว่า หัวชาร์จเร็วจ่ายไฟได้เท่ากับเทคโนโลยีชาร์จด่วนที่สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตรองรับมั้ย ก็สามารถหยิบหัวชาร์จเร็วขึ้นมาดูฉลากด้านข้างโดยตรงการจ่ายไฟให้ดูที่ Output จะมีแจ้งพลังงานการจ่ายไฟทั้งจำนวนโวลต์ (V) และแอมป์ (A) ให้เรานำ 2 ค่านี้มาคูณกันได้เลย เช่น 5.0V / 3.0A ก็เท่ากับ 5x3 = 15 วัตต์ (W) นั่นเอง ทีนี้ก็มาดูว่าหัวชาร์จเร็วแต่ละตัวรองรับการจ่ายไฟแรงแต่ไหน ก็แค่เอาโวลต์กับแอมป์มาคูณกันก็จะได้จำนวนวัตต์ของหัวชาร์จเร็วที่เราต้องการครับ

ถ้าลองเปรียบไฟฟ้าเป็นน้ำ โวลต์ก็คือแรงดันน้ำ แอมป์ก็คือปริมาณน้ำที่สามารถไหลผ่านท่อได้ ส่วนวัตต์ก็คือปริมาณน้ำทั้งหมดที่ถูกส่งออกมาด้วยโวลต์และแอมป์ หรือก็คือการนำโวลต์และแอมป์มาคูณกันนั่นเอง ดังนั้นเครื่องชาร์จ ต้องมี โวลต์สูงกว่าแบตเตอรี่ที่ชาร์จ ถึงจะชาร์จเข้า แต่ถ้าโวลต์สูงเกินไป แบตเตอรี่ก็อาจร้อนมากจนพังหรือเสื่อมเร็วได้ แอมป์ ยิ่งมาก ก็จ่ายกระแสได้มาก เหมือน กะท่อน้ำยิ่งมีขนาดใหญ่ น้ำก็ยิ่งไหลได้มาก แต่ถ้าจ่ายแอมป์มากไป แบตเตอรี่ก็เสื่อมเร็ว หรืออาจพังได้ วันนี้ผมจะมาแนะนำหัวชาร์จเร็ว กี่วัตต์ถึงดี และอุปกรณ์ของคุณต้องใช้กี่วัตต์กันนะไปดูพร้อมกันเลยครับ

1.หัวชาร์จเร็ว กี่วัตต์ถึงดี และอุปกรณ์ iPhone Plus ของคุณต้องใช้กี่วัตต์

Adapter ขนาด 20 วัตต์นั้นเป็นขนาดที่เหมาะสมที่สุดที่จะใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับมือถือ iPhone Plus ทุกขนาดความจุ ซึ่งการใช้หัวชาร์จเร็วที่มีกำลังวัตต์ 20 วัตต์ ในการชาร์จ Apple iPhone Plus ทุกรุ่นนั้นระบบการชาร์จจะเป็นการชาร์จแบบชาร์จเร็วซึ่งจะทำให้คุณสามารถที่จะชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นโดยการใช้งาน Adapter ที่ 20 วัตต์นั้นคุณสามารถที่จะทำการชาร์จแบตเตอรี่ให้ถึง 50% ได้ภายใน 30 นาที เลยทีเดียวดังนั้นหัวชาร์จหรือเครื่องชาร์จสำหรับ Apple iPhone Plus ทุกรุ่นที่มีกำลังวัตต์ขนาด 20 วัตต์นั้น จะเป็นความเร็วในการชาร์จที่เหมาะสมที่สุด

หัวชาร์จ Apple USB-C Power Adapter 20w ราคาจัดว่าเป็นมิตรกับผู้ใช้แบบสุดๆ เมื่อเทียบกับราคาของสินค้ารุ่นอื่นๆ โดย หัวชาร์จ Apple USB-C Power Adapter 20w เป็น อุปกรณ์เสริมมือถือ ที่เหมาะกับผู้ที่ใช้งาน Apple iPhone 12, 12 Pro, 12 Pro Max, 12 Mini, Apple AirPods Pro และ iPhone ล็อตที่ซื้อตั้งแต่หลังการวางขายของ iPhone 12 ที่จะไม่แถมปลั๊กและหูฟังมาให้ในกล่องแล้ว เนื่องจากสินค้าที่กล่าวมาข้างต้นจะให้มาเฉพาะสายชาร์จ Lightning to USB-C เท่านั้น ที่สำคัญคือหากใช้งานร่วมกับ iPhone 8 ขึ้นไปก็จะทำให้สามารถใช้งานฟังก์ชั่นชาร์จเร็วได้อีกด้วย โดยตัวปลั๊กมาพร้อมแรงขับที่ 20W ที่สามารถชาร์จได้รวดเร็วขึ้นกว่าปกติ แต่ก็ไม่เร็วจนเกินไปจนอาจะทำให้แบตเตอรี่นั่นเกิดอาการเสื่อมก่อนเวลาอันควร

2. หัวชาร์จเร็ว กี่วัตต์ถึงดี และอุปกรณ์ Samsung Galaxy ของคุณต้องใช้กี่วัตต์

คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้นโดยใช้ฟีเจอร์การชาร์จเร็วหรือการชาร์จเร็วพิเศษ ในการใช้ฟีเจอร์นี้ต้องเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ก่อนหน้านี้บนอุปกรณ์ ดังนี้

หมายเหตุ: ขณะชาร์จคุณจะไม่สามารถเปิดหรือปิดการใช้งานฟีเจอร์การชาร์จเร็ว หรือการชาร์จเร็วพิเศษได้ ภาพหน้าจอและเมนูของอุปกรณ์อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรุ่นอุปกรณ์และเวอร์ชันของซอฟต์แวร์

• ขั้นตอนที่ 1. ไปที่ การตั้งค่า > การดูแลแบตเตอรี่และอุปกรณ์
• ขั้นตอนที่ 2. แตะ แบตเตอรี่ > การตั้งค่าแบตเตอรี่เพิ่มเติม
• ขั้นตอนที่ 3. แตะ สวิตช์ ชาร์จเร็ว หรือ ชาร์จเร็วสุด เพื่อเปิดใช้งาน

นอกจากนี้คุณต้องใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่รองรับ Fast Charging หรือ Super Fast Charging

• ในการใช้ฟีเจอร์การชาร์จอย่างรวดเร็ว คุณต้องใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่ได้รับการรับรอง ซึ่งรองรับคุณสมบัติชาร์จเร็ว ตรงนี้คุณสามารถใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่รองรับ AFC (Adaptive Fast Charging), USB PD (Power Delivery) 2.0 หรือ QC (Quick Charge) 2.0 ในกรณีของเครื่องชาร์จของ Samsung ที่รองรับการชาร์จแบบเร็วแบบปรับอัตโนมัติข้อความ 'Adaptive Fast Charging' พร้อมไอคอนการชาร์จจะถูกทำเครื่องหมายและรองรับกำลังขับ 15W

• ในการใช้ฟีเจอร์การชาร์จด่วนพิเศษ คุณต้องใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่ได้รับการรับรองซึ่งรองรับคุณสมบัติการชาร์จเร็วพิเศษ ตรงนี้นี้คุณสามารถใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่รองรับ USB PD (Power Delivery) 3.0 หากคุณเชื่อมต่ออุปกรณ์กับที่ชาร์จ USB PD 2.0 แบตเตอรี่จะชาร์จโดยการชาร์จเร็วเท่านั้น ในกรณีของเครื่องชาร์จของ Samsung ที่รองรับการชาร์จแบบเร็วพิเศษข้อความ "Super Fast Charging" พร้อมไอคอนการชาร์จจะถูกทำเครื่องหมายและรองรับกำลังขับ 25W หรือ 45W 

เป็นยังไงกันบ้างครับ กับการเลือกหัวชาร์จเร็ว ที่เหมาะกับอุปกรณ์ของคุณ เมื่อเราทราบแล้วว่าควรเลือกกี่วัตต์ถึงดี และอุปกรณ์ของคุณต้องใช้กี่วัตต์ คราวนี้เราก็สามารถเลือกซื้อหัวชาร์จเร็วกันได้ทันทีนะครับ หากเพื่อนๆ สนใจก็สามารถซื้อบนเว็บไซต์ Mercular.com ได้ทันที แล้วไว้พบกับบทความที่น่าสนใจได้ใหม่ ในโอกาสหน้าครับ