สำหรับปี 2019 นี้ต้องเรียกได้ว่าเป็นปีของ Creative จริง ๆ เพราะนอกเหนือจากการบุกตลาดเกมมิ่งอย่างหนักด้วยเทคโนโลยีเสียง Super X-fi ของดีราคาถูกที่สร้างปรากฏการ Pre Order เต็มมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน คราวนี้ก็ถึงตาตลาด Audio ธรรมดา ๆ บ้าง กับประเภทหูฟังยอดนิยมในปัจจุบันอย่าง True Wireless หรือหูฟังแบบไร้สาย 100% ที่ถือว่าเป็นเทรนฮิตมาก ๆ และหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหน้าชินตากันดีจากหูฟัง Air pod ของ Apple นั่นเอง โดยตัวหูฟังนั้นมีน้ำหนักเบา ๆ เพียงแค่ 10 กรัมต่อข้าง และเคสพกพามีน้ำหนักเพียง 54 กรัมเท่านั้น รวม ๆ แล้วแพคเกจพกพาของมันนั้นหนักไม่ถึง 100 กรัม เรียกได้ว่าเบาพอ ๆ กับหูฟัง In-ear ทั่วไปเลยด้วยซ้ำ สำหรับการตอบสนองเสียงต่าง ๆ นั้นก็ยอดเยี่ยมนคลื่นความถี่มาตรฐาน 20 – 20,000 Hz แต่สำหรับการปรับแต่งเสียงของ Creative ทำให้ตัวหูฟังนั้นน่าสนใจกว่าหูฟังตัวใกล้ ๆ กันกว่าหลายเท่า แถมยังรองรับการสั่งการด้วยเสียงทั้ง Google Assistant หรือ Siri ทำให้ตัวของมันเป็นหูฟังแห่งอนาคตที่เข้ากันได้กับผู้ใช้งานทุกประเภทอย่างแท้จริง

สำหรับหูฟังไร้สาย CREATIVE OUTLIER AIR In-ear True Wireless ตัวนี้นั้นบอกได้เลยว่าเหมาะมาก ๆ สำหรับคอเพลงที่รู้สึกว่า True wireless ไม่ตอบโจทย์เพราะการทำงานในเลขชัวโมงหลักเดียวนั้นยาวนานไม่พอ ทาง Creative จึงได้ปล่อยเจ้าหูฟังตัวนี้ออกมาโยมีระยะการใช้งาน 10 ชั่วโมงต่อชาร์จ ! แถม ชาร์จเคสของมันยังสะสมแบทเตอรี่เอาไว้สำหรับหูฟังทั้ง 2 คู่ได้อีก 2 ชั่วโมงเรียกได้ว่าเกินรอบวันเลย ฉะนั้นใครที่บ่นบอกว่าแบทของหูฟังประเภทนี้ไม่จุใจอาจจะต้องมองใหม่อีกครั้ง เพราะแบท 10 – 30 ชั่วโมงของมันเทียบเท่ากับหูฟังแบบ On-ear Headphone หลาย ๆ ตัวเลยทีเดียว มิหนำซ้ำยังได้คุณภาพเสียงแบบ Creative ที่ให้เสียงที่เด่นชัดและสดใสในช่วงเสียงสูง และกลาง และสามารถจัดการเบสได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกัน บวกกับการออกแบบที่สวมใส่ง่ายไม่หลุดยาก จากการทดสอบอย่างทรหดของ Creative ทำให้มั่นใจได้เลยว่า Creative Outlier ตัวนี้จะเป็นหูฟังเสียงดีที่เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานแน่นอน

สำหรับเรื่องเสียงของหูฟังตัวล่าสุดจาก Creative นั้นก็เป็นไปตามสไตล์ของ Creative ที่มีมิติเวทีเสียงค่อนข้างกว้างและชัดเจน และเสียงสามารถทำได้ยอดเยี่ยมในทุก ๆ ช่วง เสียงเบสอาจจะไม่ได้รุนแรงเท่ากับหูฟังเน้นเบสแบบ Soundpeats แต่สำหรับเสียงสูงและกลางก็นั้นก็โดดเด่นกว่าด้วยการปรับแต่เสียงใน Preference ของ Soundpeats นั่นเอง นี่ก็เป็นความลับอีกอย่างนึงที่ทำให้เหล่า Reviewer ทั้งหลายเชื่อว่า เจ้าหูฟังตัวนี้จะกลายเป็นอีก 1 หูฟังที่เป็น Air Pod Killer ได้อย่างสบาย ๆ