ในทุกวันนี้กระแสการหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพรวมทั้งการลุกขึ้นมาออกกำลังกายกำลังได้รับความนิยมและมาแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ในวงการเทคโนโลยี อุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ก็ไม่อาจมองข้ามได้ ต่างผลิตสินค้าและอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายของเรามากขึ้น ดังจะเห็นได้จากตามร้านอุปกรณ์ช่วยออกกำลังกาย (Wearable Device) ที่มีทั้ง Fitness Tracker หรือ Sport Smartwatch ให้เราได้เลือกซื้อจับจ่ายตามความเหมาะสมส่วนบุคคล ซึ่งสำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าเราควรจะซื้อ Fitness Tracker หรือ Sport Smartwatch ดี ? วันนี้เรามีคำตอบมาให้ครับ

เริ่มที่ความแตกต่างของทั้งสองกันก่อน

นาฬิกา Sport Smartwatch ในหลาย ๆ แบรนด์หรือในหลาย ๆ รุ่น อาจจะมาพร้อมกับฟังก์ชันในการช่วยสนับสนุนการออกกำลังกาย แต่ Fitness Tracker หรือสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพหลายรุ่นก็ไม่นับว่าเป็น Sport Watch เพราะว่า บางรุ่นที่ไม่มีฟังก์ชันในการบอกเวลาก็ไม่นับว่าเป็นนาฬิกา หรืออาจจะสรุปง่าย ๆ ว่า สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ นั้นต้องมีฟังก์ชันที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย แต่จะมีความสามารถด้านอื่น ๆ หรือฟังก์ชันนอกเหนือจากนี้ที่เหมือนกับ Sport Watch หรือไม่ก็ได้ ซึ่งหากจะตัดสินใจว่าควรซื้อ Fitness Tracker หรือ Sport Watch ดี? ก็ต้องมาดูกันที่การใช้งานและฟังก์ชันที่เราต้องการใช้นั่นเอง

4 ข้อควรรู้ว่า Wearable Device จำเป็นกับเราหรือไม่

1. เราออกกำลังกายบ่อยแค่ไหน

คำถามแรกที่ควรถามกับตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อคือ เราออกกำลังกายบ่อยแค่ไหน ถ้าหากเพื่อน ๆ ไม่ออกกำลังกายเลย ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อ Fitness Tracker หรือ Sport Smartwatch แต่หากเพื่อน ๆ กำลังเริ่มที่จะออกกำลังกายประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ เริ่มจากการใช้แอปพลิเคชัน Fitness ต่าง ๆ เช่น Runtastic Fitbit MyFitnessPal ดูก่อนถึงแม้จะดูใหญ่เทอะทะไปบ้าง แต่ความแม่นยำของ GPS ก็สามารถใช้งานได้ใกล้เคียงกับอุปกรณ์ออกกำลังกายเลยทีเดียว ดังนั้นในระยะแรกควรเริ่มจากการใช้แอปพลิเคชั่นก่อนนั่นเอง

2. รูปแบบการออกกำลังกายของเราเป็นแบบไหน

หากเพื่อน ๆ ออกกำลังกายเป็นประจำแต่ไม่หนักมากอย่างโยคะ ยิงธนู ขี่ม้า พิราทิส หรือไม่ต้องการข้อมูลสถิติต่าง ๆ การซื้อ Fitness Tracker หรือ Sport Smartwatch มาใช้ก็อาจจะไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ เพราะด้านฟังก์ชันการทำงานหลักของ Fitness Tracker หรือ Sport Smartwatch คือการนับก้าว วัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดระยะทาง คำนวณแคลอรี่ที่เราใช้ไป ดังนั้น Fitness Tracker หรือ Sport Smartwatch อาจจะเหมาะกับการวิ่ง การเดิน การเต้นแอโรบิก หรือการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอมากกว่า

3. เป้าหมายของเราคืออะไร

เป้าหมายมีไว้เพื่อพุ่งชน ดังนั้นเพื่อน ๆ จำเป็นต้องตั้งเป้าหมายในการออกกำลังกาย เพื่อให้การออกกำลังกายนั้นมีสีสัน และเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นมาว่าเราควรซื้อ Fitness Tracker หรือ Sport Smartwatch แบบไหนที่เข้ากับเรามากที่สุด

4. กำหนดงบประมาณ และเริ่มศึกษาข้อมูล

มาถึงคำตอบสุดท้ายแล้ว ถ้าใครถามถึงจุดนี้ได้ แสดงว่าเพื่อน ๆ คงมีความจำเป็นที่จะต้องซื้อ Fitness Tracker หรือ Sport Smartwatch แล้วจริง ๆ สิ่งต่อไปที่เพื่อน ๆ ควรคำนึงถึงคือเรื่องงบประมาณหรือเงินในกระเป๋าที่เรามี ควรตั้งงบในการซื้อ Fitness Tracker หรือ Sport Smartwatch ที่เหมาะกับเรา ไม่เดือดร้อนจนเกินไป นอกจากนี้อย่าลืมศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบรุ่นที่ใกล้เคียงก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้เงินที่เราจ่ายไปกับ Fitness Tracker หรือ Sport Smartwatch ได้อุปกรณ์ที่เหมาะกับเราจริง ๆ

และนี่ก็คือข้อแตกต่างระหว่าง Fitness Tracker กับ Sport Smartwatch ที่เรานำมาเสนอเพื่อน ๆ ในวันนี้ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พอจะมีคำตอบแล้วหรือยังว่าจะตัดสินใจซื้อรุ่นไหนดี? แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วการใช้งานอุปกรณ์ช่วยออกกำลังกายทั้งสองแบบ ก็เป็นเพียงการสร้างแรงจูงใจในการออกกำลังกาย คอยบันทึกข้อมูลและทำให้เราเห็นผลของการออกกำลังกายในรูปแบบของตัวเลขที่เป็นสถิติว่าวันนี้เราวิ่งไปกี่กิโล เดินไปกี่ก้าว เผาพลาญไปแล้วเท่าไร ทำให้เราสนุกสนานกับการออกกำลังเพิ่มขึ้น แต่มันจะไม่คุ้มค่าเลยถ้าเพื่อน ๆ ไม่เริ่มออกกำลังกาย ปล่อยให้ Fitness Tracker หรือ Sport Smartwatch กลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ไปในที่สุด อย่าลืมไปออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเองนะครับ