ทุกท่านคงจะรู้จักเกมมิ่งเกียร์กันอยู่แล้วถูกไหมครับ เกมมิ่งเกียร์หรืออุปกรณ์สำหรับเล่นเกมถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการเล่นเกมของเกมเมอร์ให้สูงขึ้นไปยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าเกมหลากหลายรูปแบบนั้นมีอุปกรณ์ที่เป็นหัวใจแตกต่างกันออกไปอย่างเช่นเกม  Hack & Slash หรือ MOBA ก็ต้องใช้ Keyboard ที่ตอบสนองได้ดีทนทาน หรือสามารถตั้งมาโครช่วยคอมโบสกิลได้ ส่วนเกม FPS นั้นที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเมาส์เกมมิ่งนั่นเองครับ ซึ่งเมาส์เกมมิ่งเหล่านี้ถูกออกแบบมาหลากทรวดทรงและหลายรุ่นมาก ๆ ซึ่งหลาย ๆ คนก็จะมีปัญหาว่าซื้อมาใช้แล้วไม่ค่อยถูกใจ ฉะนั้นวันนี้เราจะมาสอนวิธีการเลือกเมาส์เกมมิ่งให้เข้ากับตัวคุณกันครับ

1. รู้จักวิธีการจับเมาส์ของตัวเอง

เมาส์เกมมิ่งในปัจจุบันมีการออกแบบแบ่งออกไปตามวิธีการจับเมาส์ที่ถูกกำหนดเอาไว้เป็น 3 แบบ ซึ่งผู้เล่นเกม FPS ทั่วไปควรจะศึกษพฤติกรรมการจับเมาส์ของตัวเองว่าตัวเองจับเมาส์แบบไหนเพื่อที่จะได้ตีกรอบว่าเมาส์ตัวไหนกันที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของตัวเองนั่นเอง ซึ่งวิธีการดูว่าเราจับเมาส์แบบไหนดูได้จากจุดสัมผัสครับ ปกติแล้วเราจะแบ่งจุดสัมผัสออกเป็น 7 ส่วนได้แก่นิ้วทั้ง 5 และอุ้งมือบนและล่าง ซึ่งวิธีการจับเมาส์ทั้ง 3 แบบนั้น ได้แก่

• Palm การจับเมาส์โดยใช้จุดสัมผัสทั้งหมด 7 ส่วนคือนิ้วทั้ง 5 และอุ้งมือทั้งหมด คนที่ชอบการใช้เมาส์แบบนี้แปลว่าพื้นที่การเล่นนั้นมีจำกัด เพราะจะเคลื่อนที่เมาส์ได้มีความแม่นยำสูง
• Claw การจับเมาส์โดยการใช้จุดสัมผัสทั้งหมด 6 ส่วนคือนิ้วทั้ง 5 และอุ้งมือหลัง มีท่วงท่าที่เหมือนเอาเล็บหรือปลายนิ้วจิกเมาส์อยู่การจับแบบนี้ทำให้เคลื่อนที่เมาส์ได้ไวขึ้นและมีองศาการกดเมาส์ที่แม่นยำขึ้น แต่ก็ต้องใช้พื้นที่ในการขยับมากขึ้นนั่นเอง
• Finger Tip การจับเมาส์โดยการใช้จุดสัมผัสเพียง 5 จุด ก็คือปลายนิ้วทั้ง 5 การจับแบบนี้จะทำให้ใช้เมาส์ได้นานเพราะเคลื่อนที่เมาส์ด้วยปลายนิ้วเป็นหลักในขณะเดียวกันก้สามารถใช้ข้อมือช่วยสะบัดเมาส์ได้เป็นอย่างดีในการยิงสไนเปอร์

เมื่อรู้จักวิธีการจับเมาส์แล้วก็จะทำให้คุณสามารถจับเมาส์ได้ถนัด ไม่ลื่นหลุดมือได้ง่าย ๆ หากใช้เมาส์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อวิธีการจับของคุณนั่นเอง

2. DPI นั้นสำคัญฉไน

เมาส์เกมมิ่งมักจะมีสิ่งที่เรียกว่าค่า DPI เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือตัดสินว่าเหมาะมือคุณหรือไม่ ผู้เล่นบางคนนิยมปรับความเร็วเมาส์ต่ำแล้วปรับ DPI เพิ่มความเร็วเอาอาจจะต้องใช้ถึงหลักหมื่น หรือบางคนก็ใช้ความเร็วปกติก็จะไม่ต้องใช้ความเร็วสูงมากนักบางคนก็ใช้ไม่กี่พัน ซึ่งค่า DPI เหล่านี้จะสัมพันธ์กับนักเล่นในตำแหน่ง Sniper มากเป็นพิเศษอีกด้วย

3. Customizer Software เบื้องหลังของทุกความสำเร็จ

เมาส์เกมมิ่งระดับ High-End มักจาพร้อมกับ Software สำหรับปรับแต่งไฟ LED และตั้งค่า Macro บริเวณปุ่มเสริมรอบ ๆ ซึ่งในเมาส์แต่ละตัวและ Software แต่ละชนิดก็จะมีความสามารถในการตั้ง Macro แตกต่างกันไป เพื่อให้สามารถตอบสนองการตอบโต้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ได้ ผู้เล่นจึงควรเลือกเมาส์ที่สามารถตั้งค่าตรงนี้ได้โดยเฉพาะ DPI Shifting ที่สามารถเปลี่ยน DPI ของเราชั่วคราวได้โดยการกดปุ่มใดปุ่มหนึ่งค้างเอาไว้ เหมาะมาก ๆ กับเหล่า Sniper ที่ทำให้ความเร็วการปาดจอไม่ลดลงเมื่อเข้าสู่โหมดซูมนั่นเอง ฉะนั้นสำหรับผู้เล่นเกม FPS แล้ว การปรับค่าปุ่มเหล่านี้ให้เหมาะสมกับตำแหน่งของตัวเองก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน

เลือกไม่ถูกทำยังไง

แต่หากรู้ข้อมูลพื้นฐานแล้วก็ตัดสินใจไม่ได้ซักทีว่าควรจะเลือกตัวไหนมาใช้งานดี ก็ขอแนะนำให้ดูรีวิวตามเว็บต่าง ๆ ครับ ว่าตัวไหนดีแต่อาจจะต้องดูหลาย ๆ ที่หน่อยจะได้เชื่อถือได้ และอย่าลืมอ่านให้ละเอียดเพราะเมาส์บางตัวก็ไม่ได้มีไว้สำหรับเล่นเกม FPS โดยเฉพาะและบางครั้ง Editor’s Choice อาจจะเป็นการรับเงินโฆษณาได้ครับ ซึ่งเมาส์เกมมิ่งที่อยู่ในกระแสตอนนี้ก็คงไม่พ้น 2 ตัวนี้นั่นเอง

• Logitech G502 PROTEUS SPECTRUM
  เมาส์เกมมิ่งที่ติดอันดับ 1 ในหลาย ๆ สำนักรีวิวซึ่งถ้าได้อ่านสเปคแล้วไม่ว่าใครก็ต้องเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่าทำไมเจ้า Proteus ถึงได้กลายเป็นที่จับตามองขนาดนี้ ด้วยระยะ DPI ที่กว้างและระบบถ่วงน้ำหนักที่เลือกตำแหน่งถ่วงน้ำหนักได้มากกว่าเกมมิ่งเมาส์ตัวอื่น ๆ ทำให้ผุ้ใช้งานเลือกน้ำหนัก และตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดกับตัวเองได้เป็นอย่างดี การตั้งค่า DPI ก็มีทั้งแบบ Swap (สลับ 2 ค่าไปมา) หรือ Switch (เปลี่ยนเมื่อนกดปั่มนั้น ๆ ค้างเอาไว้) ทำให้น้ำหนักเหมาะกับทุกความถนัดของผู้ใช้งาน และเซ็นเซอร์ที่สามารถใช้งานได้กับทุกพื้นผิวโดยไม่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่าง เหมาะกับการจับแบบ Finger และ Claw ตามลำดับ
• Steel Series RIVAL 600
  ที่โดดเด่นกว่าเกมมิ่งเมาส์ของเจ้าใด ๆ ก็ตามด้วยค่า ค่า Horizon Tracking ที่ต่ำมาก ๆ ทำให้การเคลื่อนเมาส์กลับเข้าตำแหน่งนั้นมีประสิทธิภาพ และความแม่นยำมาก ๆ ไม่ทำการเล็งของคุณผิดพลาดแน่นอน และยังเหมาะกับการจับเมาส์ทุก ๆ แบบ และการตั้งค่า DPI ผ่าน Software ของตัวเองก็ตอบโจทย์มาก ๆ
• เพิ่มความลื่นไหลด้วย Mouse Bungee
  ท้ายที่สุดเมื่อคุณได้เมาส์เกมมิ่งที่ใช่ DPI ที่เหมาะแล้ว การรู้น้ำหนักในการขยับนั้นเป็นอีกเรื่องสำคัญของการแข่งเกม FPS แต่การรัดสายเมาส์ที่พะรุงพะรังเอาไว้ด้วยหนังยางก็อาจจะทำให้เมาส์เสียเร็ว และถ้าปล่อยให้มันพะรุงพะรังก็อาจจะทำให้เกิดน้ำหนักถ่วงที่ไม่เสถียรทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในความแม่นยำได้ ฉะนั้นการเลือกใช้ Mouse Bungeeก็จะช่วยให้น้ำหนักของการขยับเมาส์ในแต่ละครั้งนั้นเหมือนเดิมเสมอนั่นเอง