5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อหูฟังมือสอง
10 เม.ย. 2561
สำหรับใครที่ชื่นชอบหลงไหลในหูฟัง ลำโพง หรือเครื่องเสียง แต่มีงบน้อย การซื้อหูฟังมือสองมาใช้งานนั้นก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดเสมอไปครับ นอกจากหูฟังมือสองจะมีราคาที่ถูกลงแล้ว ยังได้เสียงที่ผ่านการใช้งาน หรือภาษาในวงการเรียกว่า “การเบิร์น” มาแล้วนั่นเอง หากเป็นหูฟังใหม่ๆ แกะกล่องออกมาใช้ต้องเสียเวลาเบิร์นไปหลายชั่วโมงเลยทีเดียว เพียงแต่การซื้อหูฟังมือสองก็ไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป บทความนี้เราจะมาดูกันครับว่า การซื้อหูฟังมือสองต้องดูตรงจุดไหนเป็นพิเศษ และต้องระวังเรื่องใดบ้าง อย่ารอช้า...มาติดตามกันเลยครับ
1. สภาพสินค้า
อันดับแรกที่ต้องดูเลยคือสภาพสินค้า โดยปกติแล้วผู้ขายจะถ่ายภาพสินค้าแล้วโพสต์ลงในกรุ้ปขายของมือสอง ซึ่งเราสามารถดูได้ก่อนเบื้องต้นครับว่าสินค้ามีตรงไหนเสียหาย ชำรุดหรือเปล่า ซึ่งจุดหลักๆที่ต้องสังเกตุมีดังนี้
- สายหูฟัง ขั้วหูฟัง ต้องไม่ขาด หรือ หักงอจนเกินไป ส่วนเรื่องความสะอาดสามารถใช้แอลกอฮอล์ชุบอ่อนๆ เช็ดทำความสะอาดได้ครับ
- หากเป็นหูฟังแนบหู หรือ ครอบหู บริเวณที่คาดศีรษะ (Headband) หนังที่บุไว้ไม่ควรหลุดลอกออกมา
- หูฟังที่ผลิตจากวัสดุพลาสติก งานประกอบทั้งหมด ต้องไม่แตกหัก หากเสียหายราคาก็จะลดหย่อนลงไปตามสภาพ
- รูปสินค้าที่มาโพสต์ขายต้องชัด ทุกมุม หากรู้สึกว่าอยากดูตรงจุดไหนเพิ่มเติม สามารถขอดูเพิ่มได้เลยครับ
หลังจากที่ดูทั้ง 4 เรื่องหลักๆข้างต้นแล้ว ให้เราประเมินสภาพว่าทั้งหมดนี้ควรจะอยู่ในสภาพอย่างไร โดยปกติผู้ขายจะประเมินมาให้แล้วเป็นเปอเซ็นครับ เราก็มาคิดในใจอีกทีว่าตรงกับสภาพความเป็นจริงหรือเปล่า ค่าประเมินส่วนใหญ่จะมีตั้งแต่ 98-99% (สภาพนางฟ้า) หรือ 80% ผ่านการใช้งานมา 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาเป็นต้น
2. ราคาสินค้า
หลังจากที่เราประเมินสภาพได้แล้วก็มาตีราคาอีกทีหนึ่ง ส่วนใหญ่เรามักจะคิดราคาสินค้ามือสองจาก ราคาเต็ม หักลบด้วย ระยะเวลาการใช้งาน เพื่อคิดเป็นค่าเสื่อมสภาพครับ อย่างเช่น สินค้าราคาเต็ม 1,200 บาท ประกัน 1 ปี ใช้มาแล้ว 3 เดือน สภาพนางฟ้า ราคาก็จะลงมาอยู่ที่ประมาณ 900-1,000 บาท นั่นเองครับ สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงเลย คือราคาต้องไม่แพงจนเกินไป หรือ ถูกจนเกินเหตุเพราะอาจเป็นของปลอม หรือ การหลอกขายนั่นเอง
3. ประกันคงเหลือเท่าไหร่
สำหรับประกันอยากจะไม่ใช่สิ่งที่ของมือสองจะเหลือมากนัก แต่หากมีประกันคงเหลืออย่างน้อยสัก 1-2 เดือน ก็อาจทำให้การซื้อของของคุณอุ่นใจยิ่งขึ้น เพราะถ้าซื้อหูฟังมือสองไปใช้งานแล้วเกิดปัญหาขึ้น ก็สามารถส่งไปเคลมกับศูนย์ไทยได้ในทันที เรียกได้ว่าวิน-วินทั้งผู้ขายและผู้ซื้อนั่นเองครับ อย่างไรก็ดีก่อนซื้อเพื่อให้เกิดความชัวร์ อาจขอดูใบเสร็จหรือ Serial Number เพื่อตรวจสอบกับทางศูนย์ไทยก่อนได้เลยครับ จะได้ไม่โดนโกงด้วยครับ
4. ความน่าเชื่อถือของผู้ขาย
เช็คให้ชัวร์...จะได้ไม่ต้องเสียดายทีหลัง สำหรับใครที่คิดจะซื้อของมือสอง ความน่าเชื่อถือของผู้ขายค่อนข้างสำคัญ อาจขอดูบัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือโพสต์ถามหาเครดิตจากคนที่เคยซื้อไปก่อนแล้ว ก็ช่วยให้เกิดความมั่นใจได้ในระดับหนึ่งครับ
5. การจัดส่ง/รับสินค้า
ถ้าตกลงราคากันได้แล้ว หากไม่สามารถนัดรับของได้ การส่งผ่านไปรษณีย์ทั้งแบบลงทะเบียน หรือ EMS ต้องขอ Tracking Number ทุกครั้งนะครับ แต่ถ้าเป็นไปได้การนัดเจอเพื่อดูของก่อนน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า ในกรณีที่อยู่ไม่ไกลกันมาก ใช้บริการ Grab Bike ก็สะดวกดีครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ 5 สิ่งที่เราควรรู้ก่อนซื้อหูฟังมือสอง ที่ทางทีมงาน Mercular.com ได้นำเสนอไป หากมีประเด็นไหนอยากเสริม หรือเพิ่มเติมสามารถแนะนำ ติชมกันเข้ามาได้เลยนะครับ สุดท้ายนี้ถ้าใครอยากซื้อ/ขาย หูฟัง ลำโพง หรือเครื่องเสียงมือสอง ทางเรามีกรุ้ปตลาดซื้อขายตรงนี้โดยเฉพาะ เชื่อถือได้ ปลอดภัย เพราะทางทีมงานยินดีเป็นคนกลางสำหรับการซื่อ/ขายให้ครับ สนใจเข้ากรุ้ปคลิก!