16 มี.ค. 2566
ถ้าพูดถึงหนึ่งในไอเท็มของการจัดโต๊ะที่ได้รับความนิยมสุดๆ มาโดยตลอดแล้วละก็ ขาตั้งจอคอมพิวเตอร์ ก็ถือว่าเป็นหนึ่งอุปกรณ์ที่ได้อานิสงค์จากการความฟีเวอร์นี้พอๆ กับเก้าอี้สุขภาพเลยก็ว่าได้ เพราะไม่เพียงแต่ฟังก์ชันการใช้งาน การปรับตำแหน่งจอคอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานแบบ Ergonomic เพื่อสุขภาพแล้ว การปรับเปลี่ยนมาใช้ขาตั้งจอคอมพิวเตอร์ ยังช่วยให้โต๊ะของเรานั้นประหยัดพื้นที่บนโต๊ะมากขึ้น จากพื้นที่ๆ ใช้ขาตั้งจอแบบเดิมๆ ทั่วไป ทำให้โต๊ะของเรานั้นดูโล่ง ดูสสบายตา น่าทำงานมากขึ้นกว่าเดิม
และแน่นอนว่าตามประสาของดังยอดฮิตที่ใครๆ ก็อยากได้ การจะเลือกซื้อขาตั้งจอคอมพิวเตอร์สักตัวนั้น ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย เพราะแค่ลองมองดูในท้องตลาดแล้ว ขาตั้งจอคอมส่วนใหญ่ก็น่าตาคล้ายๆ กัน เราจะดูหรือรู้ได้ยังไง ว่าขาตั้งจอคอมพิวเตอร์รุ่นไหนกัน ที่จะเหมาะทั้งกับจอคอม โต๊ะ และตัวเราเป็นที่สุด
เพราะฉะนั้นวันนี้ ทาง Mercular.com เลยจะขอพาเหล่านักจัดโต๊ะหน้าใหม่ และเหล่าผู้สนใจทั้งหลาย ไปดูกันว่า จะซื้อขาตั้งจอคอมพิวเตอร์ รู้ยัง..เลือกยังไง บอกเลยว่าการเลือกขาตั้งจอคอมดีๆ นั้นจะดู่แค่หน้าตาอย่างเดียวไม่ได้ แต่จะดูที่อะไรบ้างนั้น เราไปดูกันต่อที่ด้านล่างนี้เลย
ขาตั้งจอคอมพิวเตอร์ คืออะไร มีประโยชน์ยังไง?
สำหรับใครที่เพิ่งเคยผ่านหูผ่านตามา อาจจะคิดว่าขาตั้งจอคอมพิวเตอร์นั้น ก็ก็คือสิ่งที่ทำหน้าที่ตามชื่อของมัน แล้วมันจะแตกต่างไปจากขาตั้งแบบเดิมของจอคอมตรงไหน แต่ว่าขาตั้งจอคอมพิวเตอร์ หรือที่บางคนอาจจะเรียกว่าแขนจับจอคอมนั้น ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Item ในการจัดโต๊ะคอมที่มีประโยชน์มากกว่าที่หลายๆ คนคิด ซึ่งประโยชน์และข้อดีของการใช้ขาตั้งจอคอมพิวเตอร์นั้น ก็จะมีอยู่ด้วยกันตามนี้เลย
1. ลดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ และสายตา
บางคนอาจจะไม่รู้มาก่อน ว่าขาตั้งจอคอมพิวเตอร์นั่นถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ออฟฟิศสไตล์ Ergonomic ที่ออกแบบมาสำหรับการทำงานเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ เพราะด้วยความสามารถในการปรับตำแหน่งจอคอมให้อยู่ในมุมที่ต้องการได้นั้น ทำให้เราสามารถปรับตำแหน่งจอให้อยู่ในจุดที่ถูกหลักสรีรศาสตร์ได้ง่ายๆ (จอห่างจากประมาณ 45 เซนติเมตร และขอบจอด้านบนตรงกับระดับสายตา) ซึ่งเมื่อจอคอมของเราอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว ก็จะทำให้เราสามารถมองจอคอมได้ในระดับที่พอดี และช่วยลดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ และสายตาจากการมองจอคอมที่ผิดหลักสุขภาพนั่นเอง
2. ตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่า 1 จอ
นอกจากการใช้งานเพื่อสุขภาพแล้ว ขาตั้งจอคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ในตลาดนั้นก็ถูกออกแบบมาให้รับกับจอคอมพิวเตอร์แบบ 2 จอขึ้นไปได้อีกด้วย เพราะด้วยความสามารถในการปรับตัวแขนขาตั้งนั้น ทำให้เราสามารถเซ็ตตำแหน่ง หรือหมุนหันจอคอมแต่จอได้ดีเยี่ยมกว่าการตั้งการจอคอมไว้บนโต๊ะ แถมขาตั้งจอคอมส่วนใหญ่ยังสามารถปรับหมุนหันจอคอมได้อย่างหลากหลาย ได้ทั้งการตั้งจอหันซ้าย - ขวา ก้มเงย หรือหมุนตั้งนอนก็สามารถทำได้เช่นกัน
3. ประหยัดพื้นที่
สำหรับคนที่ชอบโต๊ะโล่งๆ คลีนๆ สไตล์ Minimal แล้วละก็ การใช้งานขาตั้งจอคอมพิวเตอร์ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีอยู่ไม่น้อยเลย เพราะบางคนอาจจะไม่เคยรู้ว่าขาตั้งเดิมๆ ที่มากับจอคอมนั้นเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่กินพื้นที่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์เอามากๆ เลยก็ว่าได้ และเมื่อเราเปลี่ยนมาใช้ขาตั้งจอคอม เราก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ขาตั้งตัวเก่าอีกต่อไป และเราก็จะได้พื้นที่ใต้จอคอมให้เราใช้ทำงาน หรือวางของต่างๆ ได้เต็มที่มากกว่าเดิม
4. จะนั่ง หรือยืนทำงาน ก็ถูกหลัก Ergonomic
และสำหรับใครที่อยู่ในแวดวงจัดโต๊ะคอม หรือวงการ Ergonomic มานาน ก็น่าจะคุ้นเคยกับการยืนทำงานกับโต๊ะปรับระดับอยู่ไม่น้อย และถ้าถามว่าการสลับลุก - นั่งทำงานนั้น มันเกี่ยวกับการใช้ขาตั้งจอคอมพิวเตอร์ยังไง เพราะเวลาที่เราเปลี่ยนมายืนทำงานนั้น ตำแหน่งความสูงของจอคอมพิวเตอร์ก็จะคลาดเคลื่อน สูงหรือต่ำเกินกว่าที่ควรเป็น ก็จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพในข้อ 1 ตามมาอีกทีด้วย เพราะฉะนั้น การใช้ขาตั้งจอคอมกับโต๊ะปรับระดับนั้นก็จะช่วยให้สุขภาพและการทำงานของเรานั้นดีขึ้น ตามหลัก Ergonomic นั่นเอง
ขาตั้งจอคอมพิวเตอร์ที่ใช่ ต้องเลือกยังไงดี
ด้วยประโยชน์ที่หลากหลายและตอบโจทย์การทำงานเพื่อสุขภาพของใครหลายๆ คนนั้น ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมใครหลายๆ คนถึงได้สนใจ อยากจะลองใช้งานขาตั้งจอคอมกันยกใหญ่ แต่พอถึงเวลาที่ต้องเลือกซื้อ เลือกใช้สักตัวนึง หลายๆ คนก็ดูจะสับสนกับข้อมูล สเปกต่างๆ ของขาตั้งจอแต่ละรุ่น จนไม่รู้เลยขาตั้งจอที่ดูไว้ จะใช้กับจอคอมที่เรามีได้มั้ย แล้วจะใช้ยึดกับโต๊ะของเราได้รึเปล่า เพราะฉะนั้นเราไปดูกันเลยดีกว่า ว่าการเลือกขาตั้งจอคอมพิวเตอร์ที่ใช่นั้น จะต้องดูที่อะไรกันบ้าง
1. จำนวนจอ และอุปกรณ์ที่รองรับ
สำหรับการเลือกขาตั้งจอคอมพิวเตอร์ที่ดีนั้น ในจุดแรกสุดที่เราจะต้องดูกันนั้น ก็คือเรื่องของจำนวนจอ และอุปกรณ์ที่เราต้องการจะใช้กับขาตั้งจอคอมของเรา ซึ่งในเรื่องของจำนวนจอที่ขาตั้งจอคอมรองรับก็มีให้เลือกอยู่หลากหลายแบบ แต่หลักๆ ในท้องตลาดนั้นก็จะมีอยู่ด้วยกันตามนี้
.jpg)
ขาตั้งแบบ 1 จอ
ขาตั้งประเภทนี้สามารถรองรับจอคอมพิวเตอร์ได้เพียงแค่ 1 จอเท่านั้น ซึ่งก็เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์หลายจอ หรือคนที่อยากจะลองใช้ขาตั้งจอคอมตัวแรกดู ถ้าเกิดว่าการใช้งานส่วนใหญ่ของเรานั้นใช้ทำงาน เล่นเกมทั่วๆ ไปเป็นหลักแล้วละก็ ขาตั้งแบบ 1 จอก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์อยู่ไม่น้อย
ขาตั้งแบบ 2 จอ
ขาตั้งประเภทนี้จะมีลักษณะแขนคู่ 2 ข้างที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับจอมอนิเตอร์ 2 จอ ซึ่งก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ทั้งคนทำงานที่ต้องใช้จอคอม 2 จอดูงาน เอกสาร ชีท Excel ต่างๆ รวมถึงเกมเมอร์และสตรีมเมอร์ทั้งหลายที่ต้องการใช้จอคอมเล่นเกม 1 จอ ควบคู่กับจอคอมอีกหนึ่งไว้สำหรับเปิดแชท อ่านข้อความต่างๆ
ขาตั้งแบบ 3 จอ
ขาตั้งประเภทนี้จะมีลักษณะแขน 3 ข้าง ซ้าย - กลาง - ขวา สำหรับการติดตั้งคู่จอคอมพิวเตอร์แบบ 3 จอ ซึ่งการใช้ขาตั้งแบบ 3 จอนั้นก็ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์คนที่ต้องใช้งานจอคอมหลายจอ อย่างการดูกราฟหุ้น ทำงานสาย Data สายกราฟิกต่างๆ เป็นที่สุด
ขาตั้งแบบแนวตั้ง
ในขณะที่ขาตั้งจอคอมส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้วางเรียงจอแนวนอนกัน แต่สำหรับขาตั้งแบบแนวตั้งนี้จะเหมาะกันคนที่ต้องการเรียงจอแบบบน - ล่าง ซึ่งการใช้งานรูปแบบนี้ก็ค่อนข้างจะเหมาะกับสายดูกราฟ เทรดหุ้น ดูข้อมูลต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็วกว่าแบบแนวนอนอยู่ไม่น้อยเลย
ขาตั้งจอแบบรองรับโน๊ตบุ๊ค / แท็บเล็ต
นอกจากการใช้การกับจอคอมส่วนใหญ่แล้ว ก็ยังมีขาตั้งจอคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้วางติดตั้งร่วมกับโน๊ตบุ๊ค และแท็บเล็ตได้อีกด้วย ซึ่งลักษณะของขาตั้งประเภทนี้ก็จะมีหน้าตา 2 แขนเหมือนกับขาตั้งแบบ 2 จอ แต่จะมีแขนข้างหนึ่งที่จะเป็นถาดรองโน๊ตบุ๊คหรือที่หนีบยึดแท็บเล็ตแทน
2. ขนาดและน้ำหนักของจอที่รองรับ
หลังจากที่เรารู้แล้วว่าต้องการขาตั้งจอคอมพิวเตอร์แบบไหน ขั้นตอนต่อไปที่เราจะต้องดูต่อก็คือ ขนาดและน้ำหนักของจอที่ขาตั้งของเรารองรับ ว่าขาตั้งจอของของเรานั้นสามารถรองรับจอคอมพิวเตอร์ที่เราใช้ได้หรือไม่ เพราะหากจอคอมพิวเตอร์ของเรานั้นมีขนาดเกินกว่าที่ขาตั้งจะรับไหว ก็ทำให้ขาตั้งนั้นล้ม หรือพังกันทั้งขาทั้งจอเลยก็ว่าได้ ซึ่งในส่วนของขนาดจอนั้น ส่วนใหญ่ก็สามารถรองรับจอคอมขนาดตั้งแต่ 17 - 49 นิ้วกันเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว แต่ก็ต้องดูในส่วนของการรองรับน้ำหนักจอด้วย โดยการรองรับน้ำหนักของขาตั้งจอนั้นจะสามารถแบ่งได้ 3 ช่วงหลักๆ ดังนี้
รองรับน้ำหนักได้ 8 กิโล
สำหรับขาตั้งที่สามารถรับน้ำหนักได้ในระดับนี้ จะเป็นขาตั้งจอคอมในระดับเริ่มต้น ทั่วไป ราคาไม่แรงนัก ค่อนข้างที่จะเหมาะกับการใช้งานกับจอคอมขนาด 17 -32 นิ้ว ที่จะมีน้ำหนักอยู่ในช่วงนี้ซะส่วนใหญ่
รองรับน้ำหนักได้ 9 - 12 กิโล
สำหรับขาตั้งที่รองรับน้ำหนักในช่วงนี้ได้นั้น จะเป็นขาตั้งที่ค่อนข้างแข็งแรงกว่าขาตั้งประเภทก่อนหน้ามากกว่า และค่อนข้างที่จะรองรับจอคอมขนาด 24 - 32 นิ้วได้มั่นคงและแข็งแรงกว่า
รองรับน้ำหนักได้ 16 - 20 กิโล
และสำหรับขาตั้งจอคอมที่สามารถรับน้ำหนักในช่วงนี้ได้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นขาตั้งจอคอมสไตล์ Heavy Duty ที่มีความใหญ่ ทนทาน แข็งแรงสุดๆ ทำให้ขาตั้งประเภทนี้เหมาะกับจอคอมขนาดใหญ่อย่าง 32 นิ้วขึ้นไปอยู่ไม่น้อยเลย
และนอกจากขนาดและน้ำหนักของจอคอมที่ใช้งาน อีกสิ่งหนึ่งที่เราควรจะต้องดูทั้งกับขาตั้งและจอคอมนั้นก็คือ “VESA Mount” ซึ่งเป็นชื่อเรียกของช่องรูน๊อตที่ใช้ยึดจอเข้ากับขาตั้ง โดยจะมีขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 75 x 75 และ 100 x 100 มิลลิเมตรเป็น ซึ่งเราจะต้องดูให้แน่ใจว่าจอคอมของเรานั้นมีช่อง VESA หรือไม่ และถ้ามีแล้ว จอคอมของเราจะมีขนาดที่เท่าไหร่ เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหา เวลาติดตั้ง
3. วิธีการติดตั้งขาตั้งจอคอม
นอกจากการรองรับจอคอมพิวเตอร์ของเราแล้ว วิธีการติดตั้งขาตั้งจอคอมพิวเตอร์เข้ากับโต๊ะของเรานั้นก็เป็นอีกส่วนสำคัญในการเลือกซื้ออยู่เหมือนกัน ซึ่งการติดตั้งขาตั้งจะสามารถแบ่งได้ประมาณ 3 รูปแบบตามวิธีการติดตั้ง ได้แก่
แบบหนีบ และเจาะโต๊ะ
สำหรับการติดตั้งรูปแบบนี้ ถือว่าเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด โดยตัวขาตั้งจะมาพร้อมกับตัวยึดแบบหนีบสำหรับการยึดติดกับขอบโต๊ะต่างๆ หรือจะใช้วิธีเจาะรูกับโต๊ะ แล้วยึดผ่านตัวยืดแบบสรูวก็ได้เช่นกัน ซึ่งข้อดีของการติดตั้งแบบนี้คือความมั่นคงแน่นหนา และใช้พื้นที่บนโต๊ะน้อย แต่ข้อกำจัดของขาตั้งแบบหนีบ และเจาะโต๊ะนั้นก็คือ ความเสียหายของตัวท๊อปโต๊ะจากการหนีบขอบและเจาะรูต่างๆ
แบบเจาะผนัง
สำหรับขาตั้งจอคอมแบบเจาะผนังนั้น จะมีความคล้ายคลึงกับแบบเจาะโต๊ะ เพียงแค่เปลี่ยนจากการเจาะรูที่โต๊ะมาเป็นที่ผนังห้องแทน ซึ่งความมั่นคงของขาตั้งจอคอมรูปแบบนี้ก็ถือว่ามีความแน่นหนาแข็งแรง และไม่กินพื้นที่โต๊ะเหมือนกัน แต่ข้อควรระวังหน่อยก็คือรอยการติดตั้งบนผนัง รวมถึงการเคลื่อนย้ายที่จะยากกว่าด้วย
แบบวางบนโต๊ะ
ขาตั้งจอคอมรูปแบบนี้ จะมีตัวฐานที่เอาตั้งบนโต๊ะคอม แทนที่จะยึดติดกับบนโต๊ะหรือผนังต่างๆ ทำให้ขาตั้งประเภทนี้ค่องข้างใช้งานง่ายกว่า รวมถึงการเคลื่อนย้ายก็ง่าย ไม่ต้องถอดประกอบ ก็ยกไปวางได้เลย แต่สำหรับขาตั้งจอแบบวางบนโต๊ะนั้น ก็จะมีข้อเสียตรงที่ความสมดุล และความมั่นคงแข็งแรงที่ด้อยกว่าการติดตั้งทั้ง 2 แบบ
4. การปรับขยับของตัวขาและจอคอม
และอีกส่วนหนึ่งของการเลือกซื้อขาตั้งจอคอมพิวเตอร์นั้น ก็คือการปรับขยับของตัวขาและจอคอมต่างๆ ซึ่งก็ถือว่าเป็นจุดที่สำคัญไม่แพ้กับการดูขนาดจอที่รองรับเลย เพราะขาตั้งแต่ละรุ่น แต่ละแบบนั้นก็อาจจะมีข้อจำกัดในการปรับหมุนขาตั้งและจอที่แตกต่างกัน ซึ่งการปรับของตัวขาทั้งหมดที่เราควรรู้นั้น ก็จะมีทั้งจากในส่วนของการปรับขาของแขนจับ และการปรับหน้าจอต่างๆ ได้ตามนี้
การปรับขาของแขนจับ
- หมุนขาล่างสุดได้ (สูงสุด 360°)
- หมุนขาส่วนกลางได้ (สูงสุด 360°)
- ปรับขาส่วนบนขึ้นและลงได้
ในส่วนของการหมุนหันฐานนั้น นอกจากจะเป็นการหมุนหันทิศทางต่างๆ แล้ว ยังมีส่วนในการปรับตำแหน่งจอในแกนเข้า - ออกอีกด้วย
การปรับหน้าจอ
- ปรับหันซ้ายขวาได้ (เช่น 180°)
- ปรับก้มเงยได้ (เช่น +90° / -45°)
- ปรับหมุนจอตั้งนอนได้ (สูงสุด 360°)
และนอกจากความสามารถในการปรับหมุนต่างๆ นั้น ระบบการทำงานของขาตั้งจอคอมนั้นก็สามารถส่งผลกับการปรับได้เช่นกัน ซึ่งระบบการทำงานนั้น ก็จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ระบบการทำงานแบบสปริง ซึ่งจะพบเห็นได้ทั่วไป และระบบแก๊สสปริง ที่มีความลื่นไหลในการปรับมากกว่าแบบสริงปกติอีกด้วย
ขนาดจอเท่านี้ เลือกขาตั้งจอคอมรุ่นไหนดี
24 นิ้ว ขนาดจอยอดนิยม
27 นิ้ว เกมเมอร์ต้องไซส์นี้
32 นิ้ว สำหรับสายดูหนัง & ทำงาน
34 นิ้ว จอไซส์บิ๊ก เน้นทำงานเป็นหลัก
49 นิ้ว จอใหญ่ ไซส์ยักษ์
และทั้งหมดนี้เอง ก็คือข้อมูลทุกอย่างที่เราควรรู้ ก่อนจะเลือกซื้อขาตั้งจอคอมพิวเตอร์ บอกเลยว่า ถ้าได้อ่านบทความนี้ก็น่าจะรู้แล้วว่า การจะซื้อขาตั้งจอคอมพิวเตอร์สักตัวนั้น ต้องดูที่อะไรกันบ้าง เพราะการเลือกขาตังจอคอมที่ดีนั้น ไม่ได้มีแค่ขนาดน้ำหนัก หรือจำนวนจอที่รองรับเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องสำคัญอื่นๆ ที่จะทำให้เราได้เลือกขาตั้งจอที่ถูกใจ และตอบโจทยการใช้งานของเราได้ดีที่สุดอีกด้วย และสุดท้าย ก็ขอฝากขาตั้งจอคอมจากทาง Mercular.com ที่มีให้เลือกหลากแบรนด์ หลายรุ่น ใช้งานได้หลายจอ รองรับได้อุปกรณ์ ไว้ในอ้อนอกของทุกคนกันด้วยละ ส่วนบทความหน้า จะมีเรื่องราว สาระความรู้ดีๆ อะไรมาฝากกันอีกบ้าง รอติดตามกันไว้ได้เลย
