แนะนำวิธีซื้อ Power Bank เลือกยังไง ยี่ห้อไหน ?

20 ก.ค. 2563

แนะนำวิธีซื้อ Power Bank เลือกยังไง ยี่ห้อไหน ?

แบตสำรองหรือ พาวเวอร์แบงค์ อุปกรณ์แสนสะดวกสบายที่กลายเป็นของที่ใคร ๆ ต่างก็มีติดตัวเอาไว้อย่างน้อยคนละ 1 ชิ้นในยุคนี้ โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ หรือใช้โทรศัพท์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันเพื่อทำงาน ไปจนถึงเล่นเกม เพราะตัวพาวเวอร์แบงค์จะช่วยตัดปัญหาในเรื่องของการหาที่จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ไปได้อย่างชะงัด แต่ความสะดวกสบายนี้ก็อาจจะแลกมาด้วยความเสี่ยงบางอย่างที่อาจจะหมายถึงการสูญเสียทรัพย์สิน หรือชีวิตได้ในกรณีเลวร้าย ซึ่งมาจากกรณีเดียวคือ "ใช้งาน Power Bank ที่ไม่ได้มาตรฐาน"

อันตรายของ Power Bank ที่ไม่ได้มาตรฐาน


  • ไฟรั่ว / แบตระเบิด จากการใช้ชิ้นส่วนไม่ได้มาตรฐาน หรือการประกอบที่ไม่รัดกุมพอ


  • แบตมือถือ/อุปกรณ์ที่ชาร์จด้วยเสื่อมไว เกิดจากการจ่ายไฟที่ไม่สม่ำเสมอของตัวอุปกรณ์ทำให้แบตของเราเสื่อมไว


  • ความจุแบตเกินจริง ด้วยวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ หรือเป็นสินค้าที่จงใจเขียนฉลากเพื่อหลอกลวงผู้บริโภค

ก่อนซื้อ Power Bank ต้องดูอะไรบ้าง ?

ปัจจัยในการเลือกซื้อ Power bank นั้นไม่ได้ยากมาก สามารถเรียนรู้ได้ และเพื่อรักษาให้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนหรือ Smart Device ราคาแพงของคุณสามารถใช้งานได้เหมือนใหม่นานขึ้นกว่าเดิมจึงเป็นความรู้ที่ควรติดตัวเอาไว้ ฉะนั้นในวันนี้ Mercular.com จะพาทุกคนไปรู้จักวิธีเลือกซื้อ Power Bank ให้ถูกวิธีกัน


ก่อนซื้อ Power Bank ต้องดูอะไรบ้าง ?

1. จุดประสงค์การใช้งาน

1. จุดประสงค์การใช้งาน

ก่อนที่จะซื้อของอะไรก็ตาม การซื้อให้ตอบโจทย์การใช้งานของคุณนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ก่อนอื่นคุณต้องรู้ก่อนว่าคุณอยากจะใช้ Power bank ตัวนี้ยังไง ใช้งานพร้อมกันกี่อุปกรณ์ ต้องนำ Power bank ขึ้นเครื่องหรือไม่ ถ้าใช่ คุณควรซื้อแบตสำรองที่มีความจุไม่มากไปกว่า 20,000 มิลลิแอมป์ (mAh) หรือถ้าคุณเน้นการใช้งานพกพา อยากใช้กับมือถือระหว่างไปฟิตเนสก็ควรเลือก Power bank ตัวเล็ก น้ำหนักเบา หรือถ้าคุณต้องใช้ชาร์จอุปกรณ์จำนวนมากพร้อม ๆ กัน ก็อาจจะต้องเลือกตัวที่มีความจุพลังงานมาก และมี USB Port ให้มากหน่อย เป็นต้น

2. ความจุ

ความจุ

สำหรับผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไปอาจจะคิดว่าความจุของแบตสำรองนั้นจะเท่ากันกับค่าตัวเลขที่ระบุเอาไว้ข้างหน้า แต่สำหรับ Power bank หลาย ๆ ตัวแล้วความจริงตัวเลขของพลังงานที่ใช้ได้จริงนั้นอาจจะไม่ตรงกับตัวเลขที่แจ้งเอาไว้ ซึ่งเกิดจากการสูญเสียพลังงานระหว่างชาร์จพลัง ซึ่งถ้าเราลองทดสอบจากปริมาณยอดนิยมอย่าง 10,000 mAh ไปเทียบกับมือถืออย่าง Samsung Note 10 ที่มีความจุ 3110 mAh แทนที่ควรจะชาร์จได้ 3 ครั้งเศษ ๆ แต่ตัวแบตจริง ๆ จะชาร์จได้ประมาณ 2 รอบครึ่งเท่านั้น ปริมาณไฟที่คุณควรจะได้ก็หายไปเกือบ 1 รอบชาร์จเต็ม ๆ หรือเท่ากับระยะเวลาการใช้งานทั่วไปของ Note 10 ถึง 18 ชั่วโมง +- เลยทีเดียว ซึ่งสูตรนี้ก็จะช่วยให้คุณเลือกที่ชาร์จได้ตรงโจทย์กับการใช้งานมากขึ้น ซึ่งกติกาในการเลือกแบตเตอรี่สำรองให้เหมาะกับคุณนั้นก็อาจจะไม่มีกฎตายตัว แต่เราก็ขอแนะนำว่าให้เลือกปริมาณให้ได้ซัก 3 หรือ 4 เท่าของตัวมือถือจะเหมาะที่สุด เพราะวันไหนใช้ชาร์จมาแล้วลืมชาร์จต่อก็สามารถหยิบไปใช้งานได้เลย หรือเวลามีปัญหาจากการเดินทางไกลก็ยังมีแบตให้ใช้แบบประหยัด ๆ ได้อีกเป็นสัปดาห์ แต่ถ้าคิดอะไรไม่ออกถ้าซื้อ Power bank ตัวแรกก็ควรมีความจุซัก 10,000 mAh เป็นอย่างน้อย


*Tips: โดยปกติการใช้งานจริงของ Power Bank จะ = ประมาณ 75% ของความจุจริง และอาจจะลดลงตามความเสื่อมของอุปกรณ์ทั้ง 2 ฝั่ง

3. แรงดันไฟ

แรงดันไฟ

การใช้แรงดันไฟที่ไม่เหมาะกับอุปกรณ์ของคุณนั้นอาจจะทำให้ไฟชาร์จไม่เข้า หรือชาร์จแล้วไฟเกิน แบตบวม เครื่องร้อนจนเกินไป ไปจนถึงแบตเตอรี่ระเบิดได้ ซึ่งแบตสำรองทั่ว ๆ ไปนั้นจะมีระบบในการชาร์จไฟให้เหมาะกับอุปกรณ์ที่มันกำลังทำงานด้วย แต่สำหรับ Power bank ยี่ห้อถูก ๆ บางเจ้า ก็ไม่มีระบบควบคุมไฟตรงนี้ให้ ซึ่ง Power bank ทั่ว ๆ ไปก็ควรจะมีกำลังไฟอยู่ที่ 12 วัตต์ (W) เพราะถือว่าเป็นกำลังไฟที่รองรับการชาร์จโทรศัพท์มือถือ (5W) แท็บเล็ต (10/12W) และ Fast Charge มือถือ (12W) นั่นเอง ซึ่งตรงนี้ผู้ใช้งานสามารถดูได้เลยตามบริเวณรอบ ๆ ของ Power bank ของตัวเอง เพราะตามข้อกฎหมายแล้วสินค้าจำพวกนี้จำเป็นจะต้องมีสเปคของตัวเองระบุอยู่บนตัวเครื่องอย่างชัดเจน ถ้าไม่มีระบุก็ระวังตัวเอาไว้ก่อนได้เลยว่าอาจจะเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานก็ได้

4. ฟีเจอร์ความปลอดภัย

4. ฟีเจอร์ความปลอดภัย

สิ่งสุดท้ายที่ต้องใส่ใจในการเลือกซื้อ Power bank ให้ปลอดภัย คือฟังก์ชันในการรักษาความปลอดภัยให้กับคุณเช่น ฟีเจอร์ในการตัดไฟรั่ว (Power Cut) ฟีเจอร์ในการเลือกแรงดันไฟอัตโนมัติ และ ฟีเจอร์ในการตัดพลังงานอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม (Auto Cut) ซึ่งจะช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดจากการชาร์จ หรือถนอมอายุของแบตสำรองและอุปกรณ์ของเราให้ใช้งานได้นานขึ้นนั่นเอง

สรุป เลือก Power Bank ยี่ห้อไหนดี?

เลือก Power Bank ยี่ห้อไหนดี?

คราวนี้ผู้ซื้อก็น่าจะเห็นข้อแตกต่างได้ดีขึ้นแล้วว่าการเลือกซื้อ Power bank ทั่วไปตามร้านต่าง ๆ นั้นมีความเสี่ยงที่จะได้ของที่ไม่คุ้มราคา เสียง่าย พังไว หรือทำให้อุปกรณ์ของคุณมีโอกาสเสียหายอีกด้วย ฉะนั้นเราแนะนำว่าการลงทุนกับแบรนด์แบตสำรองที่ได้คุณภาพอย่าง Anker, Belkin หรือแบรนด์ที่มีทุกอย่างบนโลกขายอย่าง mi ก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่าเพราะสามารถส่งซ่อม ส่งเคลมได้ทันทีเมื่อมีปัญหา และนอกจากแบรนด์ทั้ง 3 ที่กล่าวมาใน Mercular.com ยังเต็มไปด้วย แบตเตอรี่สำรองจากแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน และมีการรับประกันจริงให้เลือกใช้งานอีกมากมาย

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2