การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยตัวอ่านเมมโมรี่การ์ด หรือ SD Card ยังจำเป็นอยู่หรือไม่ ในอดีตนั้นตัวอ่านเมมโมรี่การ์ด มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพราะสามารถที่จะเก็บข้อมูลได้เยอะและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ง่ายที่สุด เนื่องจากวิธีการโอนถ่ายข้อมูลหรือจัดเก็บข้อมูลยังมีตัวเลือกน้อย ปัจจุบันนี้ถึงแม้ว่าการแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ จากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอีกอุปกรณ์หนึ่งนั้นจะสามารถทำได้หลายวิธีก็ตาม โดยสามารถที่จะทำได้โดยง่ายดายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกส่งไฟล์ไปยัง LINE, E-mail, ไดร์ฟต่าง ๆ หรือแม้แต่ Cloud แต่ตัวอ่านเมมโมรี่การ์ดก็ยังเป็นอุปกรณ์แลกเปลี่ยนข้อมูล และบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ที่ยังครองใจผู้ใช้งานอุปกรณ์มือถือหรือแม้แต่ด้านไอที โดยเฉพาะการเลือกเพิ่มหน่วยความจำด้วย SD Card ในอุปกรณ์สมาร์ทโฟนของเรา เพราะสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องต้องทำหน้าที่หลายอย่าง ดังนั้นหน่วยความจำของโทรศัพท์มือถือจึงยังน้อยเกินไปสำหรับความต้องการของคนในยุคปัจจุบัน ตัวอ่านเมมโมรี่การ์ด จึงยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์และมีความจำเป็นอยู่ดี อย่างไรก็ตามอุปกรณ์บันทึกหน่วยความจำชนิดนี้ ก็ยังมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ให้ศึกษาเพื่อเพิ่มความเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้งาน ดังนี้ครับ

• โอนย้ายข้อมูลได้สะดวก ตัวอ่านเมมโมรี่การ์ด เรียกได้ว่าเป็นตัวแปลงสัญญาณ ที่สามารถให้ความสะดวกในการโอนย้ายข้อมูลและจัดเก็บข้อมูลเป็นอย่างมาก จะถอดออกมาเพื่อเพิ่มเข้าไปสู่อีกอุปกรณ์หนึ่งก็ได้ หรือจะใช้สมาร์ทโฟนดึงข้อมูลจากตัวอ่านเมมโมรี่การ์ดแล้วย้ายด้วยระบบออนไลน์แบบ Auto ก็ได้

• มีอายุการใช้งานนาน ตัวอ่านเมมโมรี่การ์ดที่มีความแข็งแรงทนทานสูง สามารถอยู่กับเราได้เป็นระยะเวลานานนาน เพื่อให้เราสามารถใช้ประโยชน์ได้เรื่อย ๆ ไปถึงหลายสิบปี ซึ่งจะแตกต่างจากสมาร์ทโฟนที่อาจจะมีแบตเสื่อมและหมดอายุการใช้งานไปเองในที่สุด แต่เมมโมรี่การ์ดของเรายังสามารถถอดไปใช้กับอุปกรณ์มือถือสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ได้โดยที่ข้อมูลเดิมก็ยังอยู่

• เป็นตัวเลือกเพิ่มเติมหลัก ตัวอ่านเมมโมรี่การ์ด เป็นตัวเลือกเพิ่มเติมที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในปัจจุบันมาก เพราะว่าการใช้งานถ้าอาศัยจากความจำในหน่วยโทรศัพท์เพียงอย่างเดียวนั้นไม่พอแล้วสำหรับปัจจุบัน การมีอุปกรณ์เพื่อเพิ่มหน่วยความจำหรือการโอนถ่ายข้อมูลได้สะดวกนั้น ทำให้เราสบายใจที่ยังมีข้อมูลที่เราต้องการเก็บไว้ได้อยู่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนครับ

• ตัวอ่านเมมโมรี่การ์ดอาจจะทำให้ประสิทธิภาพความเร็วของสมาร์ทโฟนลดลง แต่ก็จะเป็นสมาร์ทโฟนบางรุ่นที่ไม่สนับสนุนให้ใช้ตัวอ่านเมมโมรี่การ์ด ซึ่งเราอาจต้องหันไปใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูลหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลที่สนับสนุนการใช้งานในสมาร์ทโฟนรุ่น/แบรนด์ นั้นๆ โดยเฉพาะ

• ตัวอ่านเมมโมรี่การ์ดทำให้สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์เสียหาย ถ้าเป็นตัวอ่านเมมโมรี่การ์ดที่ไม่ได้มาตรฐานอาจจะเกิดการติดไวรัส ซึ่งอาจจะส่งผลเสียเป็นอย่างมากต่ออุปกรณ์ที่ใส่อุปกรณ์ชนิดนี้ หรือแม้แต่หากถูกประกอบมาไม่สมบูรณ์ โดยอาจทำให้อุปกรณ์ชิ้นเล็กๆที่เรามองเห็นยากหลุดร่วงเข้าไปในสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ของเรา

• ตัวอ่านเมมโมรี่การ์ด จะเก็บข้อมูลได้เฉพาะบางอย่างเท่านั้น สมาร์ทโฟนมักจะเก็บข้อมูลประเภท Application ไฟล์เอกสาร ไฟล์รูปภาพ วีดีโอและไฟล์เสียงเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งโดยหลักแล้ว SD Card หรืออุปกรณ์เพิ่มหน่วยความจำชนิดนี้จะไม่สามารถจัดเก็บแอพพลิเคชั่นได้ เก็บได้เพียงไฟล์ภาพ ไฟล์วีดีโอหรือไฟล์เอกสาร

วิธีเลือกซื้อ ตัวอ่านเมมโมรี่การ์ด แบบง่าย ๆ

1. เลือกจากแบรนด์ที่มีการรับประกัน และมีชื่อเสียงในเรื่องของความทนทาน การจะมีตัวอ่านเมมโมรี่การ์ดดี ๆ สักชิ้นหนึ่งนั้นมีความจำเป็นที่จะเลือกให้ดีที่สุดเหมือนการหา Soulmate กันเลยทีเดียว เพราะถ้ามีอุปกรณ์เก็บความจำดี ๆ เราก็จะมีข้อมูลดี ๆ ที่สามารถเก็บรักษาเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยมอย่างยาวนานได้อีกด้วย โดยต้องเป็นอุปกรณ์ที่ไม่แตกหักหรือเสียหายง่าย

2. เลือกตัวอ่านเมมโมรี่การ์ด ที่สามารถเข้าได้กับหลายอุปกรณ์ อุปกรณ์สมาร์ทโฟนบางยี่ห้อในปัจจุบันนี้ไม่ยอมรับ SD การ์ดบางชนิดหรือบางยี่ห้อที่มีความเก่า ล้าหลังหรือว่าไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องเลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่คนส่วนใหญ่ใช้ ถึงแม้ว่าจะมีราคาสูงขึ้นแต่ถ้าใช้ได้แน่นอนก็ถือว่าคุ้มค่า น่าลงทุนเป็นอย่างมากครับ

3. เลือกรุ่นใหม่ล่าสุด หรือเลือกรุ่นที่ใหม่ที่สุด เพื่อมั่นใจว่า SD Card ของเราจะสามารถใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ และ Smartphone เหล่านั้นจะสามารถรองรับอุปกรณ์เก็บข้อมูล หรือโอนถ่ายข้อมูลอย่างเช่นตัวอ่านเมมโมรี่การ์ดที่เราจะซื้อไปใช้ด้วยกันได้ เพราะอุปกรณ์เก็บข้อมูลหรือโอนถ่ายข้อมูลรุ่นใหม่ ๆ จะถูกพัฒนาให้ไม่ลดความเร็วของโทรศัพท์มากเกินไป เพื่อช่วยให้โทรศัพท์ยังคงทำงานได้ดีนั่นเอง

4. สามารถเข้ากับอุปกรณ์เสริมที่เป็นมาตรฐานได้ ตัวอ่านเมมโมรี่การ์ดในสมาร์ทโฟนปัจจุบันนี้ มักจะนิยมใช้ขนาด เล็ก เพราะสามารถจะนำไปวางในช่องใส่ SD Card ของสมาร์ทโฟนได้ทันที แต่ถ้าหากมีความจำเป็นที่จะต้องนำ SD Card ขนาดเล็กไปใช้กับอุปกรณ์ที่ไม่รองรับหรือไม่มีช่องใส่ SD Card ขนาดเล็ก เราก็จำเป็นที่จะต้องเลือกใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อเป็นตัวเชื่อมต่อสัญญาณให้สามารถใช้กับอุปกรณ์นั้นได้ นั่นเอง อย่างเช่น USB ที่จะมีช่องเสียบ Micro SD Card ขนาดเล็กให้เราสามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คได้ง่าย เป็นต้น

5. รองรับการถ่ายวิดีโอได้ยาวนาน รองรับความเร็วสูงได้ ปัจจุบันนี้ คนนิยมถ่ายวีดีโอกันมากขึ้นรวมไปถึงการไลฟ์แล้วบันทึกในตัวอ่านเมมโมรี่การ์ด เพื่อจัดทำเป็นสื่อโซเชียลนำไปเผยแพร่ เพื่อทำประโยชน์ด้านอื่น ๆ ดังนั้นควรจะศึกษาว่า SD Card ตัวไหนสามารถรองรับความเร็วได้ดี ส่วนมากสมาร์ทโฟนในปัจจุบันมากจะให้ความสำคัญกับการถ่ายวีดีโอ 4K มากที่สุด ซึ่ง SD Card ดังกล่าวควรจัดเก็บและรองรับความเร็วนี้ได้

ดังนั้นหากเรามีตัวอ่านเมมโมรี่การ์ด SD Card ดี ๆ ติดตัวไว้สักชิ้นหนึ่ง น่าจะเป็นการดีไม่น้อย เพื่อใช้ประโยชน์ในการเก็บรักษาข้อมูล สำหรับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจตัวอ่านเมมโมรี่การ์ดก็สามารถเลือกซื้อได้หน้าหน้าเว็บไซต์ Mercular.com ได้ในทันที แล้วพบกับบทความที่น่าสนใจได้ใหม่ในโอกาสหน้าครับ