แนะนำวิธีเทสเสียงกลาง ทำเองได้ไม่ต้องเสียตังค์

เสียงกลางเป็นย่านเสียงสำคัญเพราะเป็นย่านเสียงที่หูเราสามารถได้ยินชัดเจนที่สุด แยกความแตกต่างของคุณภาพได้ง่ายที่สุด พูดง่าย ๆ คือทุกคนสามารถรับรู้ได้ว่าเสียงจากลำโพงหรือหูฟังรุ่นนั้น ๆ ดีหรือไม่มีก็มาจากย่านเสียงกลางที่ถูกขับออกมานี่แหละ เสียงกลางจึงเปรียบดั่งตัวกำหนดความเพราะของเพลงเพลงนึงเลยก็ว่าได้ ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่รักและจริงจังที่จะเล่นเครื่องเสียง คุณต้องให้ความสำคัญกับย่านเสียงกลางก่อนเป็นอันดับเแรก บทความนี้ Mercular.com จะมาแนะนำวิธีเทสเสียงกลางเอาไว้สำหรับปรับเทียบเสียงและค้นหาเสียงกลางที่ดีที่สุดที่เหมาะสมกับตัวเอง ทำอย่างไร มาดูกัน

ก่อนจะไปเรื่องการเทสเสียงกลาง ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนว่าเสียงกลางคืออะไร?

เสียงกลางคือย่านเสียงหนึ่ง ถ้าพูดให้เข้าใจแบบเร็วๆ ก็คือเสียงพูดหรือเสียงร้องของนักร้องโดยส่วนใหญ่ รวมถึงเสียงเครื่องดนตรีหลาย ๆ ชนิด เช่นเสียงกลองสแนร์หรือทอม เสียงกีตาร์ เสียงเปียโน ไวโอลิน เป็นต้น ในทางเทคนิคเสียงกลางก็คือเสียงที่มีความถี่อยู่ในช่วง 500 - 4,000 Hz ตามกราฟ EQ นั่นเอง

เสียงกลางสามารถแบ่งออกเป็นย่านเสียงกลางปกติ (Midrange) ความถี่ 500 - 2,000 Hz ซึ่งเป็นช่วงความถี่เสียงพูดและเสียงร้องปกติของมนุษย์ กับย่านกลางแหลม (Upper Midrange) ความถี่ 2,000 - 4,000 Hz เป็นช่วงความถี่เสียงพูด เสียงร้อง และเสียงเครื่องดนตรีที่สูงขึ้นมา ซึ่งหูของมนุษย์จะตอบสนองกับความถี่ช่วงนี้ได้มากที่สุด ปรับเพิ่มหรือลดนิดเดียวก็รู้สึกถึงความแตกต่างได้ง่าย

รูปภาพจาก: www.teachmeaudio.com

เสียงกลางเป็นย่านเสียงที่มีความสำคัญและมีผลกับโทนเสียงโดยรวมของเพลง เป็นตัวกำหนดความชัด ความหนา ความโปร่ง ความเคลียร์ของแต่ละโน๊ตที่เปล่งออกมา การปรับเพิ่มหรือลดย่านเสียงกลางสามารถเปลี่ยนโทนเสียงโดยรวมได้ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นหากคุณปรับบูสต์เสียงกลางมากไปคือเสียงร้องจะเหมือนขึ้นจมูก ฟังแล้วอุด ๆ อู้ ๆ เหมือนคนเป็นหวัด และบวมไปทับเสียงย่านอื่น ๆ หรือพุ่ง เจิดจ้า จนทำให้สมดุลของเสียงเสีย กลับกันหากปรับเสียงกลางน้อยไปก็เสียงร้องก็จะฟังดูบาง แบน ไม่มีมิติและน้ำหนัก ขาดความชัดเจนจนฟังไม่รู้เรื่อง หรือบางรู้สึกเหมือนลำโพงหรือหูฟังเสีย 

ส่วนมากลำโพงหรือหูฟังที่มีเสียงกลางดีๆ จะค่อนข้างโปร่ง ใส ไม่อึดอัด ฟังแล้วรู้สึกโล่ง เด่น เป็นประกาย น้ำเสียงของนักร้องถูกถ่ายทอดอารมณ์มาพร้อมกับเนื้อร้องได้อย่างชัดเจน ฟังสบาย รวมถึงไม่ถูกเสียงอื่นๆรบกวนจนฟังไม่รู้เรื่อง โดยรวมแล้วเสียงกลางและเป็นย่านเสียงที่บ่งบอกถึงคุณภาพของลำโพงหรือหูฟังตัวนั้น ๆ ได้ชัดเจนที่สุด

ปกติแล้วการเทสเสียงกลางจะทำเพื่อทดสอบว่าลำโพงหรือหูฟังตัวนั้น ๆ ตอบสนองย่านเสียงกลางได้ดีมากน้อยแค่ไหน และสามารถตอบสนองเสียงกลางในแบบที่ตัวเราชอบได้หรือไม่ ดังนั้นสิ่งที่ต้องมีในการเทสเสียงกลางคือหูฟังหรือลำโพงที่ต้องการเทส  แนะนำว่าใช้ตัวที่ผ่านการเบิร์นมาแล้วจะให้ความถูกต้องเที่ยงตรงได้มากกว่า นอกจากนี้สิ่งต้องต้องมีอีกอย่างคือแอปฟังเพลงฯ หรือซอฟต์แวร์ปรับเสียงที่มี Graphic EQ ให้ปรับ ซึ่งจะละเอียดกว่าปุ่มปรับย่านเสียง Bass Mid Treble 

เมื่อเตรียมลำโพง/หูฟังที่ต้องการเทสและแอปฯ ฟังเพลง/ซอฟต์แวร์ปรับเสียงครบแล้ว ต่อมาคือเรื่องของเพลงที่ใชัทดสอบ ด้วยความที่เสียงกลางเป็นย่านเสียงของนักร้องและเครื่องดนตรีดังนั้นจึงควรใช้เพลงที่เน้นเสียงร้องเป็นองค์ประกอบหลักเช่นเพลง Acoustic ที่จะได้ทดสอบความสดและความใสกังวานของซาวด์กีตาร์ไปด้วยในตัว เพลงป๊อปแนวดีว่าส์ที่มีเสียงนักร้องทรงพลังและใช้เทคนิคการร้องขั้นสูง เพลงอาร์แอนด์บี/โซลที่เน้นอารมณ์ในการขับร้อง เพลงแจ๊ซที่โดดเด่นในเรื่องความซับซ้อนของเสียงเครื่องดนตรี หรือจะเพลงแนวบอสซาโนว่าที่เน้นความราบรื่นต่อเนื่องของการร้องก็เหมาะที่จะนำมาเทสเสียงกลางเช่นกัน

สำหรับการเลือกเพลงมาเทสเสียงกลางไม่มีหลักการตายตัว จะใช้เพลงที่ชอบมาเป็นตัววัดก็ได้ ขอแค่เป็นเพลงที่มีเนื้อร้องเป็นหลัก ที่สำคัญต้องดูเรื่องคุณภาพไฟล์ด้วย ยิ่งไฟล์มีคุณภาพดีก็จะยิ่งช่วยให้ปรับเพิ่ม-ลดเสียงกลางได้ชัดเจนและง่ายขึ้น 

อีกหนึ่งทางเลือกในเทสเสียงกลางคือใช้คลิปวิดีโอทดสอบเสียงใน YouTube นี่เป็นวิธีที่ง่าย ฟรี และใช้อ้างอิงในการปรับเสียงได้เบื้องต้น วิธีการคือเสิร์ชคำว่า เทสเสียงกลาง, Sound Test, Voice sound test หรือคำค้นหาอื่นที่เกี่ยวข้องกับเสียงร้อง, เสียงกลาง, Audiophile, Hi-Fi Music เป็นต้น จะมีคลิปวิดีโอสำหรับการทดสอบเสียงขึ้นมาให้เลือกใช้มากมาย แนะนำว่าคลิปที่เป็นเพลง Vocal คุณภาพสูงนั้นเหมาะที่จะนำมาใช้อ้างอิงในการปรับได้ดีเลยครับ

การเทสเสียงกลางสามารถบอกได้ว่าลำโพงหรือหูฟังที่คุณใช้อยู่ในนั้นมีคุณภาพแค่ไหน เสียงเป็นอย่างไร ตอบสนองได้ดีมากน้อยแค่ไหน หากคุณเข้าใจและปรับเทสเสียงกลางจนเก่งแล้ว Mercular.com เชื่อว่าคุณจะเป็นนักฟังที่เลเวลสูงขึ้นอีกระดับ มีมาตรฐานในการฟังสูง สามารถแยกแยะรายละเอียดเสียงได้ แล้วคุณจะเสพความไพเราะแต่ละบทเพลงได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น มากกว่า สนุกกับการฟังเพลงมากขึ้นแน่นอนครับ สุดท้ายนี้ทางเราต้องขอตัวลาไปก่อน ติดตามบทความ Tips & Tricks ดี ๆ แบบนี้ได้ที่เว็บไซต์ของเรา สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ