ทุกวันนี้ในท้องตลาดมีอุปกรณ์เพื่อคนรักสุขภาพอย่าง Fitness Tracker ออกมามากมาย มีฟังก์ชันที่หลากหลาย ให้พวกเราได้เลือกเต็มไปหมด ทั้งการนับจำนวนก้าว วัดอัตราการเต้นของหัวใจ บางรุ่นมี GPS สามารถวัดระยะทาง และความเร็ว รวมไปจนถึงการคำนวณแคลอรี่ได้อีกด้วย หรือ บางรุ่นสามารถฟังเพลง หรือแชร์ข้อมูลการออกกำลังกายของเราลงในสื่อสังคมออนไลน์หรือ Social Network อวดให้เพื่อน ๆ ของเรารับรู้ ซึ่งหากพูดถึงเจ้าอุปกรณ์อย่าง สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพประโยชน์หลัก ๆ ของอุปกรณ์ชิ้นนี้คือ มีหน้าช่วยบันทึกข้อมูลสุขภาพ และช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้เรา Active อยู่ตลอดเวลา แต่สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิธีใช้ Fitness Tracker อุปกรณ์เพื่อคนรักสุขภาพตัวนี้ วันนี้เรามีคำแนะนำ และวิธีใช้ Fitness Tracker อย่างง่ายๆ  เพื่อนำไปใช้งานคู่กับการแกะกล่องเริ่มใช้งานกันครับ

มาทำความรู้จักกันก่อน

ก่อนจะไปเข้าเนื้อหาส่วนอื่น เรามีดูรายละเอียดคร่าวๆกันก่อนว่าสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพหรือ Fitness Tracker คืออะไร? ถ้าให้พูดง่ายมันก็คือ อุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของเราในแต่ละวัน เปรียบได้กับผู้ช่วยที่คอยบอกประสิทธิภาพในการออกกำลังกายของเราตลอดทั้งวัน รวมทั้งการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การขึ้นบันได หรือการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ เจ้า Fitness Tracker จะช่วยคำนวณออกมาเป็นระยะทาง ความเร็ว หรือเป็นแคลอรี่ เพื่อให้เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และทำให้เราทำตามเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ได้สำเร็จ

วิธีใช้งานเบื้องต้น

ขั้นตอนที่ 1 แกะกล่องออกมา พร้อมตรวจสอบอุปกรณ์ให้ครบ

เมื่อเราตัดสินใจซื้อ Fitness Tracker มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่ทำคือการเปิดกล่อง สำรวจว่าภายในกล่องมีอะไรให้มาบ้าง ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วนอกเหนือจากเจ้าตัว สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ แล้วสิ่งที่ผู้ผลิตให้มาในกล่องเพิ่มเติมก็คือ

• คู่มือการใช้งาน: ให้เราศึกษาปุ่มกดต่าง ๆ เนื่องจากอุปกรณ์ช่วยออกกำลังกายแต่ละแบรนด์หรือแต่ละรุ่นมีการใช้งาน การกดปุ่มคำสั่งแตกต่างกัน ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วจะมี ปุ่มโฮม, ย้อนกลับ, ขึ้น-ลง
• สายชาร์จ USB: ควรเก็บสายชาร์จไว้ให้ดี ๆ เพราะเป็นอุปกรณ์อีกหนึ่งชิ้นที่สำคัญมากไม่แพ้ Fitness Tracker ควรชาร์จไฟก่อนการใช้งานครั้งแรก เนื่องจากบางรุ่นเมื่อเปิดใช้งานครั้งแรกมีแบตเตอรี่เป็น 0% ควรชาร์จให้เต็ม 100% แล้วจึงเริ่มใช้งาน

ขั้นตอนที่ 2 เริ่มต้นการใช้งาน

เมื่อสำรวจอุปกรณ์ภายในกล่องเรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปคือการเริ่มต้นการใช้งาน โดยสิ่งต่อมาที่ควรทำคือการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันจากแบรนด์ผู้ผลิตลงในมือถือสมาร์ทโฟนของเรา เพื่อใช้ในการเชื่อมต่อข้อมูลของ Fitness Tracker กับมือถือสมาร์ทโฟนของเรา โดยนำชื่อแอพพลิเคชันไปค้นหาใน App Store หรือ Google Play ตามแต่ละผู้ผลิตได้บอกไว้ในคู่มือ และเมื่อดาวน์โหลดดเสร็จแล้ว ควรสมัคร Account เพื่อเข้าการใช้งาน

• Garmin โหลดแอพ Garmin Connect
• Polar โหลดแอพ Polar Flow
• Mio โหลดแอพ Mio Go
• Fitbit โหลดแอพ Fitbit
• TomTom โหลดแอพ TomTom My Sports
• Suunto โหลดแอพ Movescount
• Adidas โหลดแอพ Adidas Train & Run

เมื่อสมัคร Account เป็นที่เรียบร้อย ควรใส่ข้อมูลสุขภาพของเราตามที่แอพพลิเคชันถาม เช่นน้ำหนัก ส่วนสูง อายุ เพศ ภาษา หน่วยวัดระยะทางเป็นต้น ซึ่งควรใส่ข้อมูลตามความเป็นจริง แต่หาใส่ข้อมูลผิดในครั้งแรก ยังสามารถกลับไปแก้ไขได้ใน Setting

ขั้นตอนที่ 3 เชื่อมต่อ Fitness Tracker กับมือถือสมาร์ทโฟน

เมื่อกรอกข้อมูลลงในแอพพลิเคชันเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเชื่อมต่อ Fitness Tracker กับสมาร์ทโฟน ซึ่งส่วนมากจะใช้การเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Bluetooth ซึ่งควรตรวจให้แน่ใจว่าทั้งสายรัดข้อมืออัจฉริยะ และสมาร์ทโฟนมีการเปิด Bluetooth แล้วหรือยัง จากนั้นทำการเชื่อมต่อทั้งสองอุปกรณ์ให้จับคู่กันให้เรียบร้อย เพื่อให้ข้อมูลของทั้งสองอุปกรณ์ได้ซิงค์ข้อมูลซึ่งกันและกัน

ขั้นตอนที่ 4 ใช้งานแอพพลิเคชันกับ Fitness Tracker

เมื่อเชื่อมต่อ Fitness Tracker กับสมาร์ทโฟนของเราได้แล้ว โดยส่วนมากจะทำการซิงค์ข้อมูลการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของเราในแต่ละวันลงในแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนอย่างน้อยวัน 1 ครั้งซึ่งในแอพพลิเคชันเราสามารถดูประวัติการเคลื่อนไหวร่างการ ระยะทาง การนับก้าว แคลอรี่ต่าง ๆ ย้อนหลังได้ และสามารถใช้แอพพลิเคชันแชร์ข้อมูลเหล่านั้นลง Social Network ได้อีกด้วย

ส่วนเจ้าอุปกรณ์สวมใส่สำหรับออกกำลังกาย (Wearable Device) บางรุ่นจะแสดงข้อมูลได้จำกัดเช่นจะแสดงข้อมูลการเคลื่อนไหวร่างกายเราเฉพาะเวลาขณะนั้น บางรุ่นสามารถดูสถิติต่าง ๆ ได้จากการแสดงผลบนหน้าจอ ซึ่งผู้ใช้งานต้องศึกษาข้อมูลจากคู่มือให้เข้าใจถือการทำงานของ อุปกรณ์ในแต่ละรุ่นด้วย และนี่ก็คือวิธีใช้ Fitness Tracker เบื้องต้นสำหรับผู้ใช้งานใหม่ทั้งหมด 4 ขั้นตอนที่เรานำมาเสนอในวันนี้ครับ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งาน สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมไปยังผู้ผลิตแต่ละแบรนด์ได้โดยตรงครับ