จุกหูฟังมีผลต่อเสียงมากน้อยแค่ไหน

25 ธ.ค. 2561

จุกหูฟังมีผลต่อเสียงมากน้อยแค่ไหน

หูฟังประเภท In-Ear นั้นถือว่าเป็นหูฟังที่ได้รับความนิยมที่สูงที่สุดและมีให้เลือกซื้อในทุกช่วงราคาไล่ตั้งแต่ถูกจนไปถึงระดับหกหลักเลยก็มี  ซึ่งองค์ประกอบสำคัญมากๆที่มองข้ามไม่ได้เลย และเป็นตัวแปรเรื่องเสียงโดยตรงก็คือจุกหูฟังนั่นเอง โดยแต่ละแบรนด์นั้นก็จะให้จุกหูฟังมาหลากหลายชนิดและหลากหลายไซส์ ซึ่งหลายท่านอาจไม่มั่นใจว่าแบบไหนดีที่สุด และในความเป็นจริงแล้วไม่มีสูตรตายตัวเช่นกัน เพราะอยู่ที่การแม็ชชิ่งโทนเสียงระหว่างคาแรคเตอร์ของหูฟัง กับจุกประเภทต่างๆ ที่จะให้คุณสมบัติเสียงที่แตกต่าง มาดูกันเลยว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง?

จุกหูฟังสำคัญยังไง?

จะว่ามันก็คือชิ้นส่วนหนึ่งของหูฟังอินเอียร์ที่สำคัญมากที่สุดตัวนึง เพราะมันคือตัวประสาน-เชื่อมต่อระหว่างหูฟังเข้ากับหูของเรา ถ้าใครโชคดีที่ใส่ได้พอดี เสียงที่ได้ยินจะเลิศกันไปเลย ส่วนใครที่ใส่ยังไงก็ไม่พอดี หลวมไปหรือแน่นไปก็จะเจออาการเบสหาย ใส่แน่นไปก็ใส่ได้ไม่นานจะเจ็บหูปวดหัวไมเกรนกินสมอง อย่างนี้ไงมันเลยสำคัญ

จุกหูฟังมีผลต่อเสียงแค่ไหน

จุกหูฟังมีผลต่อเสียงแค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะหลักการของจุดหูฟังคือจะช่วยกันเสียงรบกวนภายนอกทำให้เสียงที่เราได้ยินแตกต่างกันออกไป การเดินทางของเสียงในอากาศก็จะแตกต่างกันไปนั่นเอง ทำให้เกิดประเภทของจุกหูฟังขึ้นนั่นเอง ซึ่งมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับว่าจะกันเสียงรบกวนภายนอกได้มากแค่ไหน

ประเภทของจุกหูฟัง

1. Silicone Eartips หรือแบบซิลิโคนทำมาเพื่อให้ใช้ได้เป็นระยะนานทนทานหลายปี จุกแบบที่เป็นยางซึ่งจะแข็งหน่อย   ข้อดีคือได้เสียงเบสที่แรงมันส์ ส่วนจุกที่เป็นซิลิโคนจะมีลักษณะอ่อนนุ่มคล้ายกับจุกโฟมต่างกันที่ไม่มี Memory Effect มันถูกออกแบบมาเพื่อให้สวมใส่สบายกว่าจุกยางและยังนำเสียงได้ดีไม่ต่างกัน

  • ข้อดี: ราคาถูก เสียงดี เบสแรง ทนทานใช้งานได้หลายปี ไม่ต้องซื้อเปลี่ยนบ่อย
  • ข้อเสีย: อาจจะเกิดอาการเจ็บหูถ้าใส่นานๆ ใส่ไปนานอาจรู้สึกอึดอัดเพราะตัวจุกไปสร้างสภาพสูญญากาศในช่องหู

2. Comply Foam Eartips จุกแบบนี้จะใช้โฟมที่มีคุณลักษณะ Memory Foam ช่วยให้ตัวโฟมปรับรูปทรงให้เข้ากับสรีระช่องหูของผู้ใส่ เป็นนวัตกรรมที่ลงตัวทำให้ใส่หูฟังได้กระชับ แต่แลกมาด้วยอายุการใช้งานที่สั้นหน่อย

  • ข้อดี: ราคาถูก ได้เสียงคุณภาพดี ใช้ฟังเพลงได้นานโดยไม่เกิดอาการล้า ถ้าใช้ Eartips ที่มีขนาดลงตัวกับช่องหู แบบนี้ไม่สร้างสภาพสูญญากาศภายในอย่างแน่นอน
  • ข้อเสีย: ต้องเปลี่ยนบ่อย เนื่องจากจุกเป็นโฟมเลยจะซับเอาเหงื่อ+แบคทีเรียเอาไว้ อีกจุดหนึ่งคือตัว Memory Effect จะเสื่อมสภาพหลังจากใช้ไปได้ระยะหนึ่งซึ่งก็จะเป็นสัญญาณให้ต้องเปลี่ยนจุก ส่วนถ้าเลือกใช้แบบที่มีขนาดไม่พอดีกับหูก็เกิดอาการเจ็บหูได้เหมือนกัน

3. Custom Eartips มันคือจุกที่ Perfect ที่สุดสำหรับเราเพราะสร้างมาจากสรีระหูของเราเอง วัสดุที่ใช้จะเป็นซิลิโคนซึ่งมีหลายเกรด บางยี่ห้อราคาไม่กี่พันบาทช่วงแรกก็อ่อนดีใส่ง่าย แต่ใช้ได้ไม่นานก็จะแข็งใส่แล้วเจ็บ ส่วนพวกยี่ห้อดีๆ ใช้ซิลิโคนอย่างดีก็จะอ่อนนุ่มยืดหยุ่นสูง ใช้ได้เป็นเวลานาน

  • ข้อดี: มันคือจุกที่ Perfect ที่สุดแล้ว เพราะทำมาจากหูเราเอง คุณภาพเสียงจะแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด เสียงแหลมชัดฟังง่าย เสียงเบสลงลึกมีน้ำหนัก ใช้งานได้นานหลายปี
  • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูงตั้งแต่สี่ห้าพันไปจนเกือบหมื่นบาท

จะเห็นได้ว่า Eartips นั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อเสียงแต่ไม่ใช่เหตุผลหลักๆ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของรูหูของผู้ใช้งานด้วย ยังไงก็เลือกไซส์ที่พอดีกับหูนั้นก็จะดีที่สุด เพราะถ้าใส่ผิดไซส์ผิดขนาดการซีลเสียงนั้นอาจจะไม่เต็มร้อยเปอร์เซนต์ ส่งผลให้คุณภาพเสียงที่ได้นั้นไม่เต็มประสิทธิภาพอีกเช่นกัน ดังนั้นเราควรจะเลือกจุกหูฟังให้เข้ากับหูเข้าเราด้วยนั่นเอง

article-banner-1
article-banner-2