สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทั้งสมาร์ทโฟน หูฟังไร้สาย ลำโพงบลูทูธ อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะอย่างสมาร์ทวอช นาฬิกาออกกำลังกาย และ Fitness Tracker นอกเหนือจากสเป็คและความสามารถหลักของแต่อุปกรณ์ที่ทำได้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งคำถามที่ค้างคาใจอย่าง “กันน้ำได้ไหม ?” “ตกน้ำจะเป็นอะไรไหม” “ตากฝนได้หรือไม่” และ “ใส่ว่ายน้ำได้ไหม” โดยสิ่งที่จะนำมาเป็นตัวชี้วัดว่าอุปกรณ์นั้นๆ สามารถกันน้ำได้หรือไม่ในปัจจุบันคงหนีไม่พ้น IP Rating มาตรฐานกันน้ำและฝุ่นยอดฮิต แต่แน่นอนว่าในแต่ละอุปกรณ์นั้นย่อมมีค่า IP Rating ที่แตกต่างกัน ฉะนั้นทางเรา Mercular.com จะมาบอกวิธีการดูมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นกันอย่างง่ายๆ ให้ดูกันครับ เพื่อเป็นตัวช่วยในการเลือกซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในอนาคตให้เหมาะกับความต้องการมากขึ้น

ทำความรู้จักค่า IP Rating กันก่อน

IP Rating หรือในชื่อเต็มว่า International Protection Standard (มาตรฐานการป้องกันระดับสากล) หรือบางทีก็มักเรียกในอีกชื่อเต็มว่า Ingress Protection Rating (มาตรฐานการป้องกันเข้าสู่ตัวอุปกรณ์) เป็นมาตรฐานที่เราใช้ในการบ่งบอกว่าอุปกรณ์ดังกล่าวนั้นสามารถป้องกันวัตถุรูปแบบต่างๆ และน้ำ เข้าสู่ตัวอุปกรณ์จนทำให้เกิดความเสียหายภายในได้หรือไม่นั้นเองครับ โดยเริ่มต้นแล้ว IP Rating เมื่อใช้งาน เราจะเริ่มต้นด้วย IPXX โดย X ในหลักแรกคือระดับการป้องกันวัตถุภายนอก ซึ่งจะมีระดับตั้งแต่ 0-6 ส่วน X ตัวหลังคือระดับการป้องกันน้ำที่มีระดับตั้งแต่ 1-8 ครับ โดยในแต่ระดับของการป้องกันวัตถุภายนอกและน้ำมีความแตกต่างกันดังนี้ครับ
   

วิธีอ่านค่า IP Rating ที่ถูกต้อง

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางตัวเองก็บอกระดับมาตรฐานกันน้ำของตัวเองไว้เป็น IPX ยกตัวอย่างเช่น IPX7 หรือ IPX6 เป็นต้น ซึ่งหมายความว่าในระดับป้องกันวัตถุภายนอกของอุปกรณ์ดังกล่าวนั้นไม่มีการบอกอย่างชัดเจน มีเพียงแต่ระดับการป้องกันน้ำเท่านั้น เท่ากับว่า IPX7 สามารถอ่านเข้าใจได้ง่ายๆ ว่า “ไม่ทราบข้อมูลระดับการป้องกันวัตถุหรือฝุ่น แต่กันน้ำได้ในระดับที่แช่น้ำได้ลึก 1 เมตรนานสูงสุด 30 นาที” หรือ IPX6 ที่อ่านเข้าใจได้ว่า “ไม่ทราบข้อมูลระดับการป้องกันวัตถุหรือฝุ่น แต่กันหยดน้ำที่ฉีดใส่ได้ทุกทาง”

แต่นอกจากนี้แล้วยังมีมาตรฐานกันน้ำอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันอย่าง ATM ครับ ซึ่ง ATM ย่อมาจาก Atmosphere หรือระดับความกดอากาศ เพราะว่าเมื่ออยู่ในน้ำตามระดับความลึกที่มากขึ้นแล้ว ระดับความกดอากาศตามธรรมชาติก็จะเพิ่มขึ้นตามตัวไปครับ เช่น 5 ATM ที่สามารถทนต่อแรงกดอากาศของน้ำในระดับความลึกสูงสุดที่ 50 เมตรหรือ 10 ATM ที่สามารถทนต่อแรงกดอากาศของน้ำในระดับความลึกสูงสุดที่ 100 เมตรเป็นต้น โดยหลักๆ แล้วอุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน ATM จะเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับการนำไปใช้งานที่ต้องสัมผัสกับน้ำเป็นหลัก เช่นการว่ายน้ำ หรือการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างการอาบน้ำ ยกตัวอย่างเช่น Fitness Tracker Mi Band 2, 3 หนาฬิกาออกกำลังกายจาก Garmin อย่าง Garmin Forerunner 245 Music Garmin Forerunner 935  หรือนาฬิกาออกกำลังกาย Suunto 3 5 7 เป็นต้นครับ


เมื่อทราบดังนี้แล้วการเลือกซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างหูฟังไร้สาย ลำโพงบลูทูธ สมาร์ทวอช นาฬิกาออกกำลังกาย และ Fitness Tracker ก็จะง่ายขึ้นครับ พอถ้าเรารู้ความต้องการว่าอยากให้อุปกรณ์ที่กำลังมองหาอยู่กันน้ำได้ในระดับไหน ก็จะสามารถหาหูฟังไร้สาย ลำโพงบลูทูธ รวมถึง Wearable Device ประเภทต่างๆ ได้ง่ายขึ้นครับ และแน่นอนว่าในเว็บไซต์ Mercular.com ของเรานั้นเป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่กล่าวถึงไว้หมดจด สามารถสั่งซื้อออนไลน์และส่งฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม รวมถึงระบบ Support ตลอด 24 ชั่วโมงครับ